แกงคั่วสับปะรดกุ้งสด รสละมุนหวานซ่อนเปรี้ยว


สับปะรดมีต้นกำเนิดจากทวีปอเมริกาใต้ มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆได้ดี และจัดว่าเป็นพืชเศรษฐกิจของไทยชนิดหนึ่ง แหล่งปลูกสับปะรดที่สำคัญ เช่น ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ อุตรดิตถ์ ลำปาง พิษณุโลก เป็นต้น สับปะรดพันธุ์ที่นิยมปลูกมีหลายสายพันธุ์ เช่น สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียหรือสับปะรดศรีราชา ผลใหญ่ เนื้อฉ่ำ สีเหลืองอ่อน, สับปะรดภูเก็ต ผลเล็ก เปลือกหนา เนื้อสีเหลือง หวานกรอบ, สับปะรดภูแล ผลเล็ก เนื้อสีเหลืองเข้ม รสหวานจัด

สับปะรดอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และมีเอนไซม์บรอมมีเลน (Bromelain) ซึ่งเป็นสารสำคัญที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลายประการ นอกจากการบริโภคสับปะรดในรูปแบบผลไม้สดและใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารหวานคาวแล้ว ยังมีการนำสับปะรดมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆหลายชนิด เช่น สับปะรดกระป๋อง สับปะรดอบแห้ง สับปะรดแช่แข็ง น้ำสับปะรด น้ำส้มสายชู ไวน์สับปะรด อุตสาหกรรมเบียร์ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้กับสับปะรดได้เป็นอย่างดี

สับปะรดจัดเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพอีกชนิดหนึ่ง เพราะอุดมด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ สับปะรด 100 กรัมมีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้

* พลังงาน 50 กิโลแคลอรี่

* คาร์โบไฮเดรต 13.13ฝ2 กรัม

* น้ำตาล 9.85 กรัม

* เส้นใย 1.4 กรัม

* ไขมัน 0.12 กรัม

* โปรตีน 0.54 กรัม

* วิตามินบี1 0.079 มิลลิกรัม 7%

* วิตามินบี2 0.032 มิลลิกรัม 3%

* วิตามินบี3 0.5 มิลลิกรัม 3%

* วิตามินบี5 0.213 มิลลิกรัม 4%

* วิตามินบี6 0.112 มิลลิกรัม 9%

* วิตามินบี9 18 ไมโครกรัม 5%

* โคลีน 5.5 มิลลิกรัม 1%

* วิตามินซี 47.8 มิลลิกรัม 58%

* แคลเซียม 13 มิลลิกรัม 1%

* เหล็ก 0.29 มิลลิกรัม 2%

* แมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%

* แมงกานีส 0.927 มิลลิกรัม 44%

* ฟอสฟอรัส 8 มิลลิกรัม 1%

* โพแทสเซียม 109 มิลลิกรัม 2%

* โซเดียม 1 มิลลิกรัม 0%

* สังกะสี 0.12 มิลลิกรัม 1%

สับปะรดมีสรรพคุณทางยาช่วยบรรเทาอาการท้องผูก บรรเทาอาการไอ มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ลดสาเหตุเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ลดอาการบวมน้ำ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง ช่วยลดอัตราความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยบรรเทาและรักษาอาการหวัดได้ ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีขึ้น ช่วยให้สุขภาพในช่องปากแข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคเหงือก ช่วยบรรเทาอาการร้อนกระสับกระส่าย กระหายน้ำ ช่วยลดเสมหะในลำคอ ข่วยรักษาโรคนิ่วและโรคไตอักเสบ ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดลมอักเสบ โรคบิด โรคนิ้วล็อค(Tiger finger) ช่วยรักษาอาการแผลเป็นหนอง แก้ปัญหาส้นเท้าแตก ลดการอักเสบจากบาดแผล ส่วนแกนสับปะรดมีเอนไซม์บรอมีเลนช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการจุกเสียดได้เป็นอย่างดี

แกงคั่วสับประรดกุ้งสดเป็นอาหารที่มีรสอร่อยที่ได้ความเปรี้ยวและความหวานฉ่ำของสับปะรดช่วยชูรสชาติให้น่ารับประทาน สับปะรดที่ใช้แกงคั่วควรเลือกสับปะรดที่มีรสเปรี้ยวเมื่อนำมาแกงจะมีรสดีกว่าสับปะรดที่มีรสหวาน นำสับปะรดมาปอกเปลือกออก เอาตาสับปะรดออกให้หมดแล้วสับเนื้อสับปะรดอย่างหยาบๆ เสร็จแล้วบีบน้ำออกเสียบ้าง นำพริกแกงคั่วกับน้ำมันพืชให้มีกลิ่นหอม เติมหัวกะทิแล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว แล้วจึงนำสับปะรดที่เตรียมไว้ลงไปผัดกับพริกแกง เติมกะทิให้มีน้ำขลุกขลิก เพราะสับปะรดจะมีน้ำออกมาผสมอีก ชิมรสให้มีรสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด เมื่อน้ำแกงเดือดใส่มะเขือเทศราชินี พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูด แล้วจึงใส่กุ้งสดเป็นลำดับสุดท้าย เพราะกุ้งสุกง่ายไม่ต้องต้มนาน แกงคั่วสับปะรดกุ้งสดพร้อมเสริฟแล้วค่ะ

แกงคั่วสับปะรดกุ้งสดเสริฟคู่กับหมูซีอิ๊วญี่ปุ่นรสนุ่มละมุนที่หมักจนได้ที่ก่อนนำมาผัด อร่อยและเข้ากันได้ดีค่ะ

หมายเลขบันทึก: 675628เขียนเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2020 17:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2020 17:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท