คุณดี (นามสมมติ) , Dx. Right hemiplegia (Acute stroke), อายุ 64 ปี , เพศหญิง
Occupational profile
ประวัติผู้รับบริการ :คุณดี (นามสมมติ) อายุ 64 ปี เพศหญิง ศาสนาพุทธ ผู้รับบริการนั่งwheelchair มีผู้ดูแลหลักคือพี่เลี้ยงเข็นมาส่งที่ห้องฝึกกิจกรรมบำบัด กรณีศึกษารายนี้มีจุดแข็ง คือ เคยเป็นแม่ครัวมาก่อน สีหน้าอารมณ์ดี รู้และยอมรับในสภาพร่างกายของตนที่เป็นอยู่ มีครอบครัว
และผู้ดูแลคอยสนับสนุนเป็นกำลังใจและให้ความช่วยเหลือ
Scientific reasoning
Diagnostic reasoning :
คุณดี (นามสมมติ) อายุ 64 ปี เพศหญิง
การวินิจฉัยโรค : Right hemiplegia (Acute stroke)
อาการแสดง :แขน/ขาฝั่งขวาอ่อนแรง (flaccidity)
General appearance : รูปร่างสมส่วนเพศหญิง,สีหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี,Right UE&&LE Flaccidity,ให้ความร่วมมือในการฝึก
,มีหมอนสอดใต้ไหล่ขวา,ท่านั่งPositionบนรถเข็นเอียงตัวไปทางขวา,ใช้Bobath sling (N.D.) เพื่อป้องกันการSubluxationของไหล่ข้างขวา
การวินิจฉัยทางกิจกรรมบำบัด : Occupational deprivation เนื่องจากสัมภาษณ์คุณดีว่า ตอนนี้มีมือมีแรงไหมครับ คุณดีตอบว่า “ไม่มีแรงหยิบจับทำอะไรเลย”
Interactive reasoning :
OT : คุณป้าอยากทำอะไรเองได้บ้างครับ?
Pt. : “อยากใส่เสื้อผ้าได้เอง”
Pt. : “เป็นแม่ครัวอาหารไทยแต่ตอนนี้มีลูกมาทำแทนแล้ว”
OT : คุณป้าทำอาชีพอะไรครับ?
OT : ปกติคุณป้าชอบทำอะไรตอนว่างๆครับ?
Pt. : “ป้าชอบอ่านหนังสือพิมพ์”
Narrative reasoning:
OT : แล้วคุณป้าอยากจะกลับมาทำไหม (MI technique)
Pt. : “ถ้ากลับไปมีแรงก็ยังอยากทำนะ”
OT : ปัจจุบันได้ทำอาหารต่อไหม
Pt. : “ตอนนี้ให้ลูกทำค่ะ”
OT : รู้สึกยังไงที่ได้ทำอาหาร
Pt. : “รู้สึกมีความสุขนะ”
OT : ชอบทำอาหารเพราะอะไร
Pt. : “เพราะเห็นคนที่กินอาหารฝีมือเราอร่อยมีความสุขเราก็ดีใจ”
จากการได้พูดคุยกับผู้รับบริการ สามารถแปลผลได้ว่า ชอบทำอาหารและยังอยากทำอาหาร
Procedural reasoning :
1.สร้างสัมพันธภาพโดยการใช้ Therapeutic use of self ผ่านการพูดคุย สบตา และฟังสิ่งที่ผู้รับบริการเล่าโดยไม่ตัดสิน (Deep Listening)
2.ประเมินกำลังกล้ามเนื้อโดยใช้MMTผ่านการตรวจประเมินโดยนักศึกษา,ประเมิน ADL ในหัวข้อใส่เสื้อผ้า(Dressing)โดยให้ผู้ดูแลสาธิตวิธีการช่วยเหลือให้ดูและนักศึกษาคอยสังเกตระดับการช่วยเหลือ
3.สัมภาษณ์ความต้องการของผู้รับบริการ (Client need)พบว่าผู้รับบริการอยากใส่เสื้อผ้าได้ด้วยตนเอง
4.นักกิจกรรมบำบัดใช้Resistance puttyสีเขียวนวดมือเพื่อให้ฝึกResistance exercise :ซึ่งเป็น Preparatory method
ใช้FoR.:Biomechanicsเข้ามาจับ เพราะเป็นการเพิ่มhand strength เตรียมความแข็งแรงของมือไปทำกิจกรรมอื่นๆ
5.สอบถามข้อมูลผู้รับบริการอ้างอิง MOHO MODEL
ด้านVolitionพบว่าคุณป้าให้ValueกับการทำอาหารและInterestกับการทำอาหาร,การอ่านหนังสือพิมพ์
ด้านHabituation มีRole บทบาทเป็นคุณแม่และเจ้าของร้านอาหาร มีHabit เป็นคนอัธยาศัยดีเสียงนุ่ม
Conditional reasoning :
Conditionของตัวผู้รับบริการ
-นักศึกษาประเมินกำลังกล้ามเนื้อแขนซ้าย Left UEได้ Grade3 hand grade 3
FoR. BIOMECHANICS
Intervention implementation : ฝึกผ่านกิจกรรมหยิบลูกเทนนิสใส่ตะกร้าโดยใช้ถุงทรายมาถ่วงน้ำหนักที่ ข้อมือ
Condition นักศึกษาปี2
Pragmatic reasoning : ถ้ามีโอกาสจะเพิ่มแรงในการหยิบจับโดยใช้หลักการ Motor control therapy จะทำให้ผู้รับบริการมีแรงหยิบจับที่ดีขึ้น ทำResistance putty ทำResistance exercise ใช้ Biomechanic FoR เพื่อเพิ่มhand strength
ถ้ามีโอกาส
-จะทำการตรวจประเมินhand strengthและฝึกhand functionเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้รับบริการได้ทำอาหาร FoR BIOMECHANICS
-ใช้Bilateral PNF ในการPreparatory method ได้เร็วที่สุดเพราะเป็นการใช้สองข้างร่วมกัน
-ถ้ามีโอกาสจะตั้งเป้าประสงค์
1.ฝึกใส่เสื้อผ้าให้กับผู้รับบริการ
โดยใช้ Physical rehabilitation FoR
Technique:Teaching&Learning,Feedback,ADLs training
Intervention implementation :โดนสอนให้ผู้รับบริการใส่เสื้อผ้าให้ถูกต้องโดยเริ่มใส่จากข้างเสียก่อนตามด้วยด้านดี(ใช้verbal prompt )และส่งเสริมให้ผู้รับบริการตรวจสอบความเรียบร้อยด้วยตนเองโดยดูกระจก
Intervention review : สังเกตผู้รับบริการขณะทำกิจกรรมว่าทำถูกต้อง,ดูว่าผู้รับบริการสามารถเห็นความไม่เรียบร้อยของการแต่งกายและสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง
2.ผู้รับบริการสามารถทำเมนูไข่เจียวได้ด้วยตนเอง ในระยะเวลา 6 สัปดาห์
FoR.Physical rehabilitation , BIOMECHANICS
Technique : Compensate
Intervention implementation : ฝึกhand fuctionจากกิจกรรมนำกรวยเสียบหลักสูง หยิบลูกเทนนิสใส่ตะกร้าในระดับที่สูง(grade up ปรับให้สูงขึ้นอีกถ้าผู้รับบริการสามารถทำได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว) ฝึก hand prehension ในรูปแบบต่างๆควบคู่ไปด้วย เพื่อให้สามารถใช้งานมือในการจับอุปกรณ์ทำครัว เช่น กระทะ ได้
SOAP NOTE ครั้งที่1
S : ผู้รับบริการชื่อ ดี(นามสมมติ) อายุ 64 ปี เพศหญิง ถูกวินิจฉัยเป็น Right hemiplegia นั่งwheel chairตลอดเวลา มีพี่เลี้ยงเข็นมาส่ง
ผู้รับบริการบอกว่า “อยากมีแรงที่แขนตอนนี้แขนขวาไม่มีแรงเลยส่วนแขนและมือซ้ายพอมีแรงอยู่บ้าง”
O : ผู้รับบริการยิ้มแย้ม อารมณ์ดีขณะพูดคุย,ไม่สามารถขยับแขนและมือด้านขวาได้ แขนซ้ายพอจะเคลื่อนไหวได้บ้าง จึงประเมินกำลังกล้ามเนื้อMMTแขนและมือซ้าย,ประเมินBalance
A : จากการประเมินMMTพบว่า LEFT UE : grade3 สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ให้ความร่วมมือในการประเมินและพูดคุย ผู้รับบริการมีStaticและDynamic balanceอยู่ในระดับGood
P : ตั้งเป้าประสงค์ในการเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อแขนซ้ายและมือซ้ายา(left UE) จากgrade3เป็นgrade5
SOAP NOTE ครั้งที่2
S : ผู้รับบริการชื่อ ดี(นามสมมติ) อายุ 64 ปี เพศหญิง ถูกวินิจฉัยเป็น Right hemiplegia นั่งwheel chairตลอดเวลา มีพี่เลี้ยงเข็นมาส่ง “แขนและมือด้านซ้ายเริ่มมีแรงหยิบจับมากขึ้น” “อยากใส่เสื้อผ้าด้วยตนเอง”
O : ผู้รับบริการผู้รับบริการยิ้มแย้ม อารมณ์ดีขณะพูดคุย เริ่มสามารถยกแขนซ้ายทำกิจกรรมหยิบลูกเทนนิสใส่ตะกร้าได้ แต่เป็นตะกร้าที่ไม่สูง ส่วนแขนขวายังคงไม่มีแรง สอบถามการทำกิจกรรมยามว่าง
A : จากการสัมภาษณ์ผู้รับบริการชอบอ่านหนังสือพิมพ์ ให้คุณค่ากับการทำอาหารไทย และถ้ามีแรงมากขึ้นอยากกลับไปทำอาหารเหมือนเดิม
P : ตั้งเป้าประสงค์ในการฝึกใส่เสื้อผ้าด้วยตนเอง ฝึกทำเมนูไข่เจียวด้วยตนเองและพูดคุยให้กำลัง
Story Telling
จากการศึกษากรณีศึกษารายนี้ ขณะนั้นเป็นนักศึกษากิจกรรมบำบัดปีที่2 ที่ออกไปสังเกตผู้รับบริการในรายวิชาClinical reasoningได้ออกไปสังเกต นักกิจกรรมบำบัดให้การรักษากับผู้รับบริการ ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจเรื่องการให้เหตุผลคลินิกอย่างลึกซึ้ง ในวันนี้ได้มีโอกาสกลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้งในวิชาClinical reasoningในปี3 ทำให้รู้สึกว่า ผมอยากจะสังเกตให้มากขึ้น ประเมินให้ละเอียด สอบถามสัมภาษณ์ให้ลึกและประณีตมากขึ้นในการให้กิจกรรมบำบัดกับผู้รับบริการ การเรียนการให้เหตุผลทางคลินิกทำให้ได้นำความรู้ทางการให้เหตุผลทางคลินิกมาทบทวนว่าในแต่ละขั้นตอนที่นักกิจกรรมบำบัดคนหนึ่งจะให้การบำบัดรักษาผู้รับบริการมีการให้เหตุผลอย่างไร ตั้งแต่การสัมภาษณ์พูดคุย สังเกต สัมภาษณ์ ประเมิน วางแผน ตั้งเป้าประสงค์ในการรักษา รวมถึงIntervention review ทำให้เกิดความเข้าใจในการกระทำของตัวเองว่าสิ่งที่เราได้ทำไปในตอนนั้นเป็นอย่างไรและรู้สึกว่าตนมีความสามารถมากขึ้นในการมองผู้รับบริการแบบเป็นองค์รวม ได้นำความรู้ความเข้าใจมาใช้กับสถานการณ์จริง อีกทั้งผมมองเห็นถึงความสำคัญของการการสร้างสัมพันธภาพเพราะการทำให้ผู้รับบริการไว้วางใจเชื่อใจจะส่งผลต่อกระบวนการต่างๆทางกิจกรรมบำบัด ทั้งนี้ขอขอบคุณคุณดี(นามสมมติ)ที่ได้ให้ข้อมูลมาทำกรณีศึกษา ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านในรายวิชาการให้เหตุผลทางคลินิก ขอบคุณครับ
ศิกขริน ชยวัฒนกิจจา 6023011
นักศึกษากิจกรรมบำบัด
ไม่มีความเห็น