วัดใหญ่ชัยมงคล มหาธาตุแห่งเมืองบางขลัง สุโขทัย



         เมื่อเอ่ยชื่อวัดใหญ่ชัยมงคล คนส่วนใหญ่มักจะคิด จินตนาการถึงวัดใหญ่ชัยมงคลที่พระนครศรีอยุธยา     ซึ่งถือว่าเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์หลายยุคหลายสมัย เมื่อเอ่ยถึงวัดใหญ่ชัยมงคลที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.สุโขทัย น้อยคนนักที่จะรู้จัก รู้ว่ายังมีวัดโบราณนามวัดใหญ่ชัยมงคล เดิมอยู่ในเขตเมืองโบราณบางขลังที่เกิดร่วมสมัยกับเมืองเก่าสุโขทัย-ศรีสัชนาลัย ปรากฏหลักฐานในศิลาจารึกหลักที่ 2 วัดศรีชุม ศิลาจารึกหลักที่ 3 จารึกนครชุม ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ สกสว.(สกว.เดิม) สนับสนุนให้ ศ.ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีและมนุษยวิทยาของประเทศไทย พร้อมด้วย สุดารา สุจฉายา,  เมธินีย์  ชอุ่มผล จาก มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์ และนิตยสารเมืองโบราณ ทำการวิจัย “ประวัติศาสตร์สังคมเมืองบางขลัง”  อย่างรอบด้านซึ่งรวมไปถึงวัดใหญ่ชัยมงคลด้วย

วัดใหญ่ชัยมงคลมีเชื้อพระวงศ์เสด็จฯ ประทับรอยพระบาทเพื่อศึกษาร่องรอยอารยธรรม 3 พระองค์  ได้แก่                                                                  1 ก.พ. 2450 รัชกาลที่ 6 ปรากฏในหนังสือเที่ยวเมืองพระร่วงที่ทรงนิพนธ์ขึ้น (พิมพ์ครั้งที่ 2 องค์การค้าของคุรุสภา พ.ศ.2526 หน้า 130-131) “...ถึงวัดที่ราษฎรเรียกว่าวัดใหญ่ ที่นี้มีกำแพงแลงล้อมรอบ ทำเช่นเดียวกับกำแพงแก้วที่ล้อมรอบมณฑปวัดโบสถ์ในร่วมกำแพงเป็นลานกว้างยาวประมาณเส้น 10 วา สี่เหลี่ยมกลางลานนั้นมีพระธาตุฐานสี่เหลี่ยม แต่ตัวพระธาตุพังลงมาเสียแล้ว รอบพระธาตุมีเจดีย์บริวารหลายองค์..."                                                                                                                                                                                                                14 ก.พ.2540 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลป์ยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์                                                                   29 มิ.ย.2550 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ที่ไหนมีเมืองที่นั้นมีวัดมหาธาตุ                                                                                                                                                                              คตินิยมของคนไทยมีว่า ตรงไหนที่เป็นเมือง ตรงนั้นจะต้องมีพระบรมสารีริกธาตุประจำเมือง โดยถือว่าเป็นองค์แทนของพระพุทธเจ้าแต่จะมีได้เฉพาะแต่พระมหากษัตริย์ผู้ครองเมืองเท่านั้น พระบรมสารีริกธาตุถือเป็นของสูงสุดไม่เหมาะสมที่จะครอบครองไว้เป็นส่วนตัว  จึงต้องมีการสร้างวัดพร้อมกับให้ชื่อว่า วัดมหาธาตุ แปลว่า วัดเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงแม้บางเมืองจะมีชื่อแตกต่างกันไปบ้าง ก็ย่อมจะไม่ทิ้งความหมายเดิมเพราะอยู่ต่างเมืองที่ห่างไกลกัน จึงถือว่าเป็นขัตติยประเพณีการสร้างเมือง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสมัยสุโขทัยเป็นราชธานี ว่าจะสร้างเมืองก็ต้องสร้างวัดมหาธาตุ ที่เรียกว่า สร้างวังสร้างวัด ตรงไหนมีเมือง ตรงนั้นก็จะต้องมีวัดมหาธาตุ เช่น วัดมหาธาตุเมืองศรีสัชชนาลัย เมืองสุโขทัย (https://thailandtourismdirectory.go.th) ดังนั้นวัดใหญ่ชัยมงคลจึงเป็นวัดมหาธาตุแห่งเมืองบางขลังที่ยังหลงเหลือร่องรอยความยิ่งใหญ่ให้ได้ศึกษาเรียนรู้

วันนี้ของวัดใหญ่ฯ สุโขทัย                                                                                                                                                                                       ใน พ.ศ. 2544  สำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 5  ได้ดำเนินการขุดค้นขุดแต่ง พบว่า เป็นวัดขนาดใหญ่ที่มีองค์ประกอบของโบราณสถาน ได้แก่ เจดีย์ประธาน, วิหาร, เจดีย์รายประจำมุม 4 ทิศ, กำแพงแก้ว, ภาชนะดินเผาบรรจุกระดูก ฯลฯ                                      สำนักงานศิลปากรที่ 6 สุโขทัย ได้ทำการบูรณเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์แบบสุโขทัย เมื่อปี พ.ศ.2556 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่สำคัญของ ต.บ้านใหม่ไชยมงคล ของ อ.ทุ่งเสลี่ยม บนเนื้อที่ 8 ไร่ 130 ตารางวา

ภารกิจสืบทอดพระศาสนาของสมภารวัดใหญ่ฯ                                                                                                                                                        มีพระมหาธนภัทร กัลยาณวชิโร รักษาการเจ้าอาวาส คงสภาพวัดป่า ภายใต้แนวคิด “ไม่สร้างวัตถุแต่สร้างคน”  ไม่เป็นพระบ้ารางวัล/ใบประกาศฯ ไม่รับตำแหน่งใดๆ พอใจแค่รักษาการเจ้าอาวาส สิ่งอื่นเป็นเพียงเรื่องสมมุติที่ตายแล้วเอาไปไม่ได้ ไม่เป็นสมภารบ้ากุญแจ อยู่ไหนต้องไม่ทำให้ใครเขาลำบาก “ไม่มีการเรี่ยไร  ไม่มีการบอกบุญ”                                                                                                                             ที่วัดแห่งนี้  ทำงาน/ฉันข้าวร่วมกัน เคารพกันตามลำดับพรรษา  ห้ามฆราวาสยุ่งกับพระโดยเด็ดขาด มีปฏิบัติธรรมทุกวันอาทิตย์ ปัจจุบันมีอาทิตย์ละไม่ต่ำกว่า 60 คน  ไม่นอนค้าง ตอนเช้ามีข้าวต้ม กลางวันก็เป็นมังสวิรัติฟรี  จะมีญาติโยมเอาอาหารมาเปิดโรงทานกัน นั่งพับเพรียบไม่ได้ให้นั่งเก้าอี้ ไม่เคร่งจนเกินไป ไม่หย่อนจนเกินไป

เป็นสมภารที่ไม่สร้างวัตถุแต่สร้างคน                                                                                                                                                                         “พระมหาธนภัทร” ผู้แปลงศรัทธาของญาติโยมไปให้เด็กนักเรียน นำเงินค่ากัณฑ์เทศน์มาเป็นทุนการศึกษา   เงินค่าขนม ค่าน้ำมันรถรับส่งนักเรียน ผู้ปฏิบัติธรรม ที่วัดทำสวนเศรษฐกิจพอเพียง ไม่มีกำแพงวัดแต่ให้ปลูกกล้วย ขายกล้วย นำมาทำอาหารเลี้ยงผู้ปฏิบัติธรรม ซื้อเมล็ดผัก/กล้ามะนาว หน่อไม้  ให้นักเรียนเพาะ แล้วนำผักไปขายเพื่อเป็นทุนอาหารกลางวันให้เด็ก นำข้าวสาร อาหารแห้งแจกตามโรงเรียนและช่วยเหลือผู้ยากไร้เสมอๆ                                                                                                                                                                                     ทำหนังสือสวดมนต์ให้กับเด็กนักเรียนโดยมีญาติโยมร่วมเป็นเจ้าภาพกระจายไปตามโรงเรียน ผู้สูงอายุ คนที่ไม่สะดวกมาวัด ให้รวมตัวกันที่บ้านใดบ้านหนึ่ง แล้วโทรมานิมนต์ สวดมนต์ที่บ้าน ทำบ้านให้เป็นวัด หรือทางหน่วยราชการจัดสวดมนต์ นั่งสมาธิทุกวันจันทร์ต้นเดือนก่อนทำงาน ใช่เวลาไม่เกิน 1 ช.ม. ทำได้ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ                                                                                                                                 มีห้องบันทึกเสียง “รายการชุมชนคนชอบธรรม”ที่บันทึกธรรมมะ การสอนนาค การเทศน์ตามที่ต่างๆ เผยแพร่ทาง facebook ของวัดสม่ำเสมอ

ก้าวต่อไปของพระมหาธนภัทร                                                                                                                                                                                   รับสมัครคนมาร่วมกิจกรรมในนาม “กลุ่มคนกล้าธรรม”รวมความถนัดแต่ละด้าน ที่วัดสนับสนุนเรื่องรถ อุปกรณ์ งบประมาณบางส่วน จะมีกลุ่มไลน์คนกล้าธรรม ส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาเรื่องบ่อตัดศิลาแลงทุกแห่งที่นำมาสร้างเมืองโบราณบางขลังออกรายการสำรวจโลก (next step) และกำลังวางโครงเรื่องเรื่องต่อไป                                                                                                                                                        โครงการ “เทียนเล่มเล็กปักข้าวสาร”เข้าพรรษาปัจจุบันพระแทบจะไม่ได้ใช้เทียนเลย ขอเทียนเล่มเล็กเอามาพร้อมข้าวสาร ข้าวสารส่วนหนึ่งจะเอาไปแจกเด็ก ส่วนหนึ่งนำไปหุงให้ผู้ปฏิบัติธรรม อีกส่วนแจกผู้ยากไร้ ส่วนเทียนเล่มเล็กจะเก็บไว้เผื่อจะนำมาใช้บ้าง คนที่ต้องการข้าวสารยังเยอะ งบประมาณที่ อบต./เทศบาลให้ไม่เพียงพอ                                                                                                                                             ถ้าใครเจอคนที่ตกทุกข์ได้ยากให้มาบอก ช่วยได้จะรีบช่วย ช่วยไม่ได้จะบอกให้คนอื่นๆ ร่วมกันช่วย บนศาลามีเสื้อผ้ามือ 2 ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ญาติโยมนำมาถวาย ใครไม่มี ยากไร้ มีปัญหาครอบครัวก็จะให้                                                                                                           นี่คือเสียงก้องจากวัดที่ห่างไกลความเจริญแต่ไม่ห่างไกลธรรม  ร่วมเป็นสะพานบุญเกื้อหนุนเด็ก ผู้ยากไร้ ชุมชนและสืบทอดพระพุทธศาสนาได้ที่วัดใหญ่ชัยมงคล 090-9177967.





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท