คุณกอ (นามสมมติ), 21 y.o. ,Dx. Other stimulant dependence
Scientific reasoning
Diagnostic reasoning:
ในเดือน มิถุนายน พ.ศ. 2562 ผู้บริการเล่าว่า เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ผู้รับบริการมีปัญหาทางด้านร่างกาย คือ ซูบผอม มีปัญหาทางด้านอารมณ์ คือ มีอารมณ์ร้าย โมโหง่าย บกพร่องในการควบคุมอารมณ์ และมีปัญหาด้านพฤติกรรม คือ ไม่สนใจดูแลตนเอง ไม่นอนหลับ ไม่อยากอาหาร ไม่อยากพบเจอใครจึงเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน สาเหตุมาจากการใช้สารเสพติดแอมเฟตามีน โดยเสพทุกวัน วันละ 10-20 เม็ด เป็นเวลานาน 6 ปี คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็น Other stimulant dependence เทียบเคียงในหมวด Drug and substance(F10-F19, ICD10) และให้รับการบำบัดยาเสพติดที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ ตั้งแต่เดือนเดือนเมษายน พ.ศ. 2562 (เข้ารับการบำบัดนาน 2 เดือนแล้ว)
การวินิจฉัยทางกิจกรรมบำบัด
Procedural reasoning:
Conditional reasoning:
จากการสังเกต สัมภาษณ์และประเมิน เมื่อตัดสินด้วยเหตุผลและจินตนาการ เพื่อกำหนดบริบทในอนาคตที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในชีวิตจริงของผู้รับบริการ จึงใช้กรอบอ้างอิง OA เพื่อให้ผู้รับบริการเห็นคุณค่าของการทำงานตามสิ่งที่ต้องการและสนใจจริงๆ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่กลับไปพึ่งเงินที่ได้จากการค้าและเสพยาเสพติดอีก
Pragmatic reasoning:
จากการอภิปรายระหว่างผู้รับบริการและผู้บำบัด และ ผู้บำบัดและ expert เพื่อหาแนวทางการใช้สื่อทางกิจกรรมบำบัดที่เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมในโรงพยาบาลจาก procedural reasoning ในการหาความสามารถที่แท้จริงของผู้รับบริการ พบว่า ปัญหาอยู่ที่ผู้รับบริการขาด self-efficacy ในการทำงาน ในบทบาท OT ควรจะให้การรักษาโดย MI, ประเมินด้านภาษาจากแบบประเมิน RTI, เพิ่ม self-efficacyโดยการให้ทำความสามารถนั้นจริงๆ ให้ token แทนเงิน(สิ่งที่ผู้รับบริการให้คุณค่า)ในบริบทโรงพยาบาล,ประเมิน emotion ในสถานการณ์ที่ต้องมีการควบคุมอารมณ์, ให้ CBT จากการ thinking error เรื่องการให้คุณค่ากับเงินและยังมีความคิดติดอยู่ในอดีต ไม่อยู่กับปัจจุบัน และ role play ตามบริบทและสิ่งแวดล้อมที่คาดว่าผู้รับบริการจากลับไปเจอเมื่อออกจากโรงพยาบาล
SOAP note
21/06/62, คุณกอ (นามสมมติ) , 21 y.o., Dx. Other stimulants dependence
S: ผู้รับบริการมีปฏิสัมพันธ์ดี พูดคุยเก่ง อารมณ์ดี เล่าประวัติของตนเองด้วยน้ำเสียงปกติ พูดเสียงดังขึ้นเมื่อพูดถึงแฟน อยู่ไม่นิ่ง ชอบมองคนที่เดินผ่านไปมา หันเหความสนใจง่าย “เคยติดคุกมา 4 ครั้งสบายกว่าตอนนี้” “คิดถึงบ้าน” “ไม่เสพแล้วเพราะไม่อยากมาที่นี่อีก”[สีหน้าเศร้า,น้ำตาคลอ] “ค้าขาเพราะได้เงินเยอะ” พูดถึงเรื่องเงินบ่อยๆ
O: MMSE = 27/30 คะแนน (คะแนนอยู่เกณฑ์ปกติ), MoCA = 19/30 คะแนน (คะแนนต่ำกว่าเกณฑ์เล็กน้อย) (บกพร่องด้าน attention, delayed recall, abstract, visuospatial/executive, language), จากการประเมินผ่านกิจกรรมต่อแผ่นพลาสติกตามรูปตัวอย่าง พบว่า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสมขณะทำกิจกรรม, จากการสังเกตขณะทำกิจกรรม พบว่า วอกแวกง่าย
A: dependent, low self-esteem, low self-efficacy, mild cognitive impairment (impaired attention, language), thinking error อยู่ในอดีต, มีปัญหา personal causation = “ไม่มีแฟนอยู่ไม่ได้”
P: improved self-esteem, improved self-efficacy, restore cognitive, เพิ่ม passion (ให้ token), work independent, CBT, personal causation = “เราสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง”
19/07/62, คุณกอ (นามสมมติ) , 21 y.o., Dx. Other stimulants dependence
S: ผู้รับบริการมีปฏิสัมพันธ์ดี พูดคุยเก่ง อารมณ์ดี “อยากทำกิจกรรมอีก” เมื่อถามถึงการวางแผนหลังออกจากโรงพยาบาลสามารถบอกได้ว่าจะไปทำงานร้านอาหารใกล้บ้านและไม่กลับไปเสพอีก “ถ้ามีคนมาชวนอีกจะปฏิเสธ ไม่อยากยุ่งแล้ว”
O: MMSE = 27/30 คะแนน (คะแนนอยู่เกณฑ์ปกติ), MoCA = 25/30 คะแนน (คะแนนสูงขึ้นจากครั้งแรกในด้าน attention, visuospatial/executive, language), จากการประเมินผ่านกิจกรรมเขียนความสำเร็จของตนเองเมื่ออยู่ในโรงพยาบาล พบว่า เขียนกิจกรรมทำวุ้นผลไม้และทำพวงกุญแจจากผ้าสักหลาดเป็นอันดับแรก, จากการสังเกตขณะทำกิจกรรม พบว่า วอกแวกน้อยลงจากครั้งแรก นิ่งขึ้นจากครั้งแรก
A: cognitive improvement improved (impaired attention, language), self-esteem progression, personal causation = “หางานทำ หาเงิน เอง”
P: improved self-efficacy, เพิ่ม passion (ให้ token), work independent, CBT
Story telling
จากกรณีศึกษา คุณกอ(นามสมมติ) อายุ 21 ปี ที่ได้รับการวินิจฉัยเป็น other stimulants dependence (ผู้ป่วยยาเสพติด) ที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ ทำให้ได้คิดทบทวนความรู้ความเข้าใจทั้งหมดที่เรียนมา เพื่อนำมาใช้ในการสังเกต การสัมภาษณ์ การประเมิน และการรักษา ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายกับตนเองมากโดยเฉพาะในผู้รับบริการฝ่ายจิต ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้ลงมือปฏิบัติกับผู้รับบริการด้วยตนเองทั้งหมดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การ approach ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเริ่มต้นสัมพันธภาพกับผู้รับบริการเพื่อให้ได้ข้อมูลของผู้รับบริการมาใช้ในการหาปัญหาและการวางแผนการรักษา รู้สึกว่าในการปฏิบัติครั้งนี้ สามารถ approach ผู้รับบริการได้ดีตั้งแต่ในครั้งแรกที่เจอ ทำให้ผู้รับบริการให้ความร่วมมือดีมากในทุกครั้งที่มาเข้ารับการรักษา และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อได้รับคำแนะนำจาก CI ทำให้มีความเข้าใจในผู้รับบริการมากยิ่งขึ้น และสามารถให้การรักษาเป็นไปตามหลักการเพื่อฟื้นฟูผู้รับบริการ นอกจากการ approach ที่ตนเองคิดว่าทำได้ดีขึ้นนั้น ยังคิดว่าความสามารถในส่วนของการวางแผนการรักษาโดยการจัดกิจกรรมที่เหมาะสมต่อความสามารถและความสนใจของผู้รับบริการดีขึ้นไปอีกด้วย เนื่องจากเมื่อมองผู้รับบริการได้ตรงจุด จะสามารถหาข้อบกพร่องของผู้รับบริการ และวิเคราะห์กิจกรรมที่สามารถส่งเสริมข้อบกพร่องของผู้รับบริการได้ และสุดท้าย การบอกเล่าความรู้สึกของผู้รับบริการที่บอกว่า “ชอบกิจกรรมนี้” “จะนำไปทำที่บ้าน” “อยากทำขาย” และผลลัพธ์ที่ผู้รับบริการได้ เช่น ความสามารถด้านความคิดความจำที่ดีขึ้น ความรู้ความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นจากการประเมิน นอกจากจะช่วยวัดความสามารถของผู้รับบริการแล้วยังเป็นสิ่งที่สามารถประเมินความสามารถในการจัดกิจกรรมของเรา โดยเมื่อให้การรักษาตามที่เราวางแผนไว้จะมีผลช่วยผู้รับบริการให้มีประสิทธิภาพขึ้นได้อย่างไร และจากการให้คำแนะนำของอาจารย์ทำให้มีความเข้าใจในมุมมองเพิ่มเติม นอกเหนือจากที่เราเคยทำและเป็นการกรอบความคิดให้การลงมือปฏิบัติของเรามีหลักการและเหตุผลอย่างเหมาะสม ทำให้รู้สึกว่าการลงมือปฏิบัติครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อตัวเราในด้านประสบการณ์ พัฒนาด้านที่ขาดหรือบกพร่องของตนเอง การพัฒนาความสามารถที่มีอยู่ของตนเองให้ดีขึ้นต่อไป
ไม่มีความเห็น