เรื่องการทำงานของสาวลาวนี้ก็แบ่งออกไปทั้งสองส่วน ทั้งงานที่เน้นทำงานที่บ้านอย่างมีความสุขตามแบบเดิม ๆ และงานตามร้านอาหารที่เชื่อว่าได้เงินมากกว่า
สาวลาวถนัดกับงานทอผ้ามาก เนื่องจากต้องใจเย็นและออกจะถูกจริตกับนิสัยคนลาวและถูกนิสัยผู้หญิงดีกว่าเพศชาย เรื่องเพศชายทอผ้าไหมนี้ออตจะเล่าให้ฟังจากประสบการณ์ในบันทึกหน้านะครับ
การทอผ้าของแม่หญิงลาวนั้นอาศัยเรียนจากครอบครัวเป็นหลักคือมีการส่งต่อความรู้จากแม่หญิงอีกรุ่นสู่รุ่น การเรียนการสอนก็เป็ฯไปตามธรรมชาติของสังคมคือ เรียนรู้จากการปฏิบัติ แม่หญิงรุ่นแม่จะมอบหมายงานให้ทำจากง่ายไปหายาก จากช่วยงานกลายเป็นเจ้าของกี่เอง
ส่วนครอบครัวไหนที่ไม่เก่งเรื่องทอผ้าแต่ปรารถนาจะให้ลูกสาวทอผ้าเป็นมักจะให้ไปช่วยงานแม่ครูที่เก่งโดยให้เขาสอนให้เพื่อแลกกับวิชาความรู้ที่จะติดตัวไปนาน
การเรียนการสอนวิธีหนึ่งที่จะให้แม่หญิงลาวเข้าใจและมีสำนึกในการเรียนนั้นแสดงออกผ่าน นิทาน แม่เฒ่าจะเล่านิทานที่เป้นเรื่องเกี่ยวกับบบทบาทสตรีและผ้าไหม ผ้าทอให้แก่ลูกหลานผู้หญิงฟัง เช่นนิทานที่ออตเก็บมาเล่าต่อเรื่องนี้
“มีแม่หญิงลาวสองพี่น้องที่เป็นกำพร้า ไม่มีคนบอกคนสอนในการทอผ้าทอไหม ผู้เป็นน้องต้องการทอผ้าทอไหมเป็นจึงกางกี่ทอผ้าไว้ข้างทาง คนเดินผ่านไปมาเมื่อมาดูน้อง คนที่ผ่านไปมาก็บอกก็สอนวิธีการทอผ้าทอไหมให้ น้องสาวขยันขันแข็งและจดจำคำที่ผู้คนสอนไว้ต่อมาไม่นานก็กลายเป็นช่างทอที่เก่งและเป็นที่ลำลือของผู้คนทั่วไปทั้งเมืองจนมีชายหนุ่มที่เป็นพ่อค้ามาชอบและได้ขอนางแต่งงาน
ส่วนพี่สาวเป็นคนเกียจคร้าน นางไปกางกี่อยู่ของข้างเล้าไก่ไม่มีคนบอกไม่มีคนสอน ไก่ที่อยู่ใกล้ก็มาเขียหูก ทำให้นางทอผ้าไม่เสร็จ จนเครือหูกขาดสุดท้ายนางก็ต่ำหูกไม่เป็นผ้า ต่ำผ้าไม่เป็นผืนนานไปก็ไม่มีผ้านุ่งผ้าถือ”
เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องการแลกเปลี่ยนความรู้นะครับ เอาประสบการณ์และความรู้ของคนอื่นมาใช้ในงานของตน แล้วจะทอผ้าเก่งเหมือนนางลุน
ขอขอบคุณอาจารย์ออต...
ขอเรียนเสนอให้ลองเปลี่ยนชื่อบันทึก เช่น เปลี่ยนเป็นชุดบันทึก "เรียนรู้จากนิทานลาว" , "รู้จักลาว" , "ข้อคิดจากนักปราชญ์ลาว" , "คำสอนครูลาว" อะไรทำนองนี้ >
เรียนเสนอให้ลองดูตัวอย่างวิธีตั้งชื่อเรื่องจากศูนย์พม่าศึกษา มน. >
ขอขอบคุณอาจารย์ออต...
ต่อไปคนลาว คนไทยจะได้รู้จักกัน ชื่นชมกันเหมือนน้ำเข้ากันได้กับน้ำนม (สำนวนบาลี)