คำถามหนึ่ง เกิดขึ้นสำหรับผู้เขียน "ทำไมยากมากที่ เราคนไทยจะได้บริโภค อาหาร ผลไม้ พืชผัก ของประเทศเราเอง ในราคาถูก คุณภาพดี ปลอดภัย ทั้งที่ประเทศเรามีพื้นฐานเกษตรกรรม ?" ในที่สุดเราเดินทางกันมาถึงจุดนี้แล้ว...
รอบปีแห่งฤดูกาลผลไม้ปักษ์ใต้กำลังจะผ่านไป ผู้เขียนได้ความรู้ จากการทบทวน หลายประเด็น
- ผลไม้ที่ขายกัน ในละแวกใกล้เคียง จากสวนธรรมชาติ ก็ยังคง เป็นธรรมชาติ ไร้สารปนเปื้อน แต่ผลไม้จากสวน ที่เข้าแผงค้าส่ง เพื่อกระจายเข้าสู่เมือง จะใช้สารเคมีทุกชนิดผลไม้ เพื่อยืดอายุ เก็บรักษาสภาพภายนอกให้ดูงดงาม
- สวนธรรมชาติ น่าจะมีจำนวนลดลง เนื่องจากขาดผู้สืบทอด ด้วยบุตรหลานที่ถูกส่งเข้าเมือง เพื่อรับการศึกษา สร้างหลักปักฐานในเมือง (ตามค่านิยมความเจริญที่ถูกสร้างขึ้นช่วง ๔๐ ปีที่ผ่านมา) ที่เหลืออยู่ คือ วัยชรา หรือผู้หญิง ผู้พิการ ผู้ป่วย ฯลฯ จำเป็นต้องจ้างช่วง การจัดการสวน และเก็บเกี่ยว ซึ่งมีราคาสูง และขาดแรงงานนี้ ถึงกระนั้นผลผลิตที่ออกมา ก็เกินพอสำหรับประชากรในพื้นที่ และละแวกใกล้เคียง
- สวนเชิงธุรกิจ คือปลูกพืชผลไม้เชิงเดี่ยว หรือผสมผสาน เป็นจำนวนหลายร้อยต้นขึ้นไป มีการลงทุน แรงงาน และอื่นๆจำนวนมากตั้งแต่เริ่มต้นจำเป็นต้องใช้สารเคมี ทุกระยะ ตั้งแต่การปลูกจนเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะรูปแบบที่มีการตลาดสั่งจองล่วงหน้า เพราะธุรกิจ คือกำไร ถ้าไม่ทำ ก็เสี่ยงต่อการเจอภาวะล้นตลาดและขาดทุน ดังนั้นการคำนึงถึงความปลอดภัยผู้บริโภค เป็นเรื่องเพ้อฝัน
- ชาวสวนในพื้นที่พยายามผลักดันผลผลิตตามฤดูกาล เข้าเมือง โดยส่งตรงถึงผู้บริโภค แต่ไม่มีระบบการขนส่งราคาถูกรองรับ ขนส่งเอกชนที่เป็นของต่างชาติได้รับความนิยมสูงจนรองรับไม่ไหว และเสียคุณภาพการบริการไปในช่วงเวลานี้ ระบบขนส่งเดิม เช่นไปรษณีย์ไทย ไม่มีผู้เข้าใช้บริการดูเงียบเหงา เนื่องจาก ตั้งราคาขนส่งสูงกว่าเอกชน และไม่มีคุณภาพการบริการ ยังพยายามเรียกเก็บเงินลูกค้า ในเรื่องการบรรจุ ฯลฯ ชาวบ้านพยายามดิ้นรน อาจขับรถเข้าเมืองไปขายต่างถิ่นเองบ้าง จอดริมถนนบ้าง ซึ่งเสี่ยงกับการถูกจับปรับ จ่ายสินบน ความไม่ปลอดภัยอื่นๆ สุดท้ายปล่อยทิ้งเป็นปุ๋ยในสวนอาจคุ้มทุนที่สุด
เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทั่วประเทศ กับพืชผล เชิงเกษตรแทบทุกชนิดดั้งเดิมของเรา น่าแปลกที่ลูกหลานชาวสวนส่วนหนึ่งก็มีชีวิตในเมืองยินยอมที่จะบริโภคสารพิษ ผลไม้บางชนิดที่ล้นตลาดในพื้นที่กลับไม่ถึงมือผู้บริโภคพื้นที่ห่างไกลในประเทศ เนื่องจากมีราคาสูงมาก และคงเต็มไปด้วยสารเคมี เหล่านี้ เป็นช่องทางของต่างชาติ เข้าซื้อกิจการส่งตรงถึงประเทศเขา (ทำให้ผลผลิตราคาสูงเป็นบางช่วงและขาดตลาด คนภายในที่ไม่มีสวนเองก็ไม่สามารถซื้อหาบริโภคได้) ซึ่งระบบบริหารเรายินดีอำนวยความสะดวกมาก กรณีต่างชาติ และนายทุนใหญ่ แต่ไม่มีเรื่องแบบนี้สำหรับชาวบ้านเล็กๆในประเทศเราที่จะได้รับความสะดวก เมื่อไม่ส่งเสริม ก็รอการประท้วงเรียกร้องทุกฤดูกาล และจัดการปัญหา ณ เวลานั้นๆเป็นต้น ด้วยการ เรียกผลผลิตมารวม หรือประกันราคา ฯลฯ คล้ายผู้บริหารการเมือง และข้าราชการ ไม่ใช่ ลูกหลานชาวเกษตรดั้งเดิมของประเทศเรา ความรู้ความเข้าใจข้อเท็จจริงจึงขาดหาย แลไร้การใส่ใจ เป็นเช่นนี้ เรื่อยมาๆ มีประโยคหนึ่งที่ชาวบ้านเอ่ย ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ "ชาวบ้านเสียภาษีและได้รับยาพิษกลับมาทุกช่องทาง"
- คำถามหนึ่ง เกิดขึ้นสำหรับผู้เขียน "ทำไมยากมากที่ เราคนไทยจะได้บริโภค อาหาร ผลไม้ พืชผัก ของประเทศเราเอง ในราคาถูก คุณภาพดี ปลอดภัย ทั้งที่ประเทศเรามีพื้นฐานเกษตรกรรม ?" ในที่สุดเราเดินทางกันมาถึงจุดนี้แล้ว...
- ปัญหา... คือจุดเริ่มต้น ของการแก้ไข เพื่อการพัฒนา แน่นอนว่า... เราไม่หยุดนิ่ง ที่จะเสนอแนวทางการจัดการแก้ไข และลงมือปฏิบัติ ตามศักยภาพที่จะทำได้ ภายใต้สถานภาพสมาชิกของประเทศ