@chokdeemeechai
วิชาชีวิตเพื่อความมั่นคงทางจิตใจ โชคชัย คงบวรเกียรติ

อ่านเจตนาที่แท้จริงของคนให้ออก14 ตอน (Clusters หมวดหมู่กลุ่มของอารมณ์และทัศนคติทางภาษากาย) ภาษากายหลักแสดงเพื่อเจตนาความตั้งใจของเขา (Core Intentions Body Language)


(Clusters หมวดหมู่กลุ่มของอารมณ์และทัศนคติทางภาษากาย) ภาษากายหลักแสดงเพื่อเจตนาความตั้งใจของเขา (Core Intentions Body Language)

Closed Body Language ภาษากายปิดกั้น

            เพื่อป้องกันตนเอง ถูกคุกคาม รุกล้ำ หรือ รู้สึกไม่ปลอดภัย ระมัดระวัง ไม่ไว้วางใจ สถานที่ไม่คุ้นเคย หรือผู้คนที่ไม่รู้จักแปลกหน้า ปกป้องกันสิ่งที่จะมากระทบตัวของเขาจากการถูกรุกล้ำ เข้าหาหรือมาจู่โจม เขาจะทำตัวเล็กลง หดตัว และจะก้มเก็บคางลงเพื่อป้องกันลำคอ จากสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นอันตรายต่อเขา ปิดกั้น ปกปิด ไม่ให้คนอื่นเห็น ซ่อนเร้นไม่ให้ล่วงรู้ความคิดที่มีอยู่ในใจ สงวนท่าที่ไม่แสดงออก ว่าเขาไม่พอใจ ไม่ชอบ ไม่สบายใจ หรือการโกหกเพื่อไม่ให้คุณจับผิดเขาได้ ด้วยการหลบการสบสายตามองไปทางอื่นแทน

  • - กอดอก ไม่ว่าจะเป็นแบบระนาบเดียวกัน หรือ กอดอกไขว้กากบาท เหมือนเกาะป้องกันหน้าอกหรือลำตัว  เมื่อเขารู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่ไว้วางใจ หรือไม่คุ้นเคยกับสถานที่หรือผู้คน การกอดอกยังหมายถึง ว่าเขาไม่มีเจตนาในการลุกล้ำ คุกคาม ทำร้ายผู้อื่นอีกด้วย
  • - ขาไขว้กัน ยืน หรือ นั่งไขว้ขา ไขว้ห่างเลขสี่ หรือกากบาท แต่ถ้าเป็นผู้หญิงที่มักใส่กระโปรงก็อาจเป็นอีกควาหมายหนึ่ง เธอนั่งไขว้ขาชิดติดกันเพื่อไม่ให้ใครเห็นข้างในกระโปรงเวลาเธอนั่ง จึงทำให้ผู้หญิงนั่งไขว้ขาทับซ้อนกันจนเคยชินติดเป็นนิสัยประจำของเธอแม้จะไม่ได้ใส่กระโปรงก็ตาม
  • - นั่งเอาขาไขว้กันที่ข้อเท้าเป็นกากบาทใต้เก้าอี้ หรือยื่นยืดขาไปข้างหน้าไขว้ขาที่ข้อเท้า แต่ก็อีกหมายหนึ่ง คือสบายผ่อนคลาย
  • - นั่งหุบขาเข่าไม่เปิดกว้าง ยิ่งดูเกร็ง เมื่อมีคนแปลกหน้ามานั่งใกล้เขา ไม่อยากให้ขาไปสัมผัสถูกคนแปลกหน้าที่นั่งข้าง ๆ  (ปกติคนเราจะนั่งเปิดเข่ากว้างเท่ากับหรือมากกว่าความกว้างของไหล่)
  • - กุมมือทั้งสองข้าง ปิดเป้ากางเกง บ่งบอกลักษณะไม่เปิดเผยปิดกั้นตนเอง
  • - พูดน้ำเสียง ระดับเดียวกันตลอด (Monotone)
  • - สายตามองอย่างระมัดระวัง สงสัย ไม่ปรารถนาให้ใครเข้าใกล้ตัวของเขา
  • - ศีรษะลาดเอียง หรือลดต่ำลง จากระดับสายตา มองต่ำ หรือละสายตามองไปทางอื่น
  • - สีหน้าตาเคร่งขรึม จริงจัง ไม่ยิ้ม ไม่ผ่อนคลาย
  • - บางครั้งการกอดอก ไขว้แขน หรือไขว้ขา เมื่อเวลาผ่อนคลายอยู่ในที่ส่วนตัว สบายใจ หรืออาจหมายถึง การทำเป็นสิ่งเคยชินจนติดเป็นนิสัยส่วนตัวเฉพาะของเขาก็ได้ (ต้องดูความถี่ ว่าทำเป็นประจำไหม และสถานการณ์แวดล้อมที่ต่างออกไปยังทำอยู่ไหม)
  • - การมองไปที่อื่น ๆ เพราะกำลังใช้ความคิด หรือผ่อนคลายไม่ได้คิดอะไร ไม่มีความหมายอะไร เขาเหม่อลอยใจลอยอยู่หรือไม่
  • - การโน้มเอียง(Orientation)หัวและลำตัวออกห่าง หรือถอยออกไปด้านหลัง มากกว่าระดับตรงปกติ
  • - ยืนขาชิดแคบ ไม่ได้อยู่ในระดับความกว้างของไหล่ ดูเกร็ง ๆ ไม่ผ่อนคลาย
  • - การหันหน้า(Angle of Interesting)เอียงตัว การยืน มุมองศาไปทางด้านใด(ปลายเท้าชี้ไปด้านใด มุมปลายเท้าทั้งสองข้างปิดหุบเข้า / \ หรือ !! ขนานเป็นทางตรง) เอียงตัวมุมมองของเขาหันออกไปจากคนที่จะสนทนาด้วย มุมองศาแคบ เอียงปิดไม่เปิดรับ หันหน้าหันลำตัวไปทางด้านข้างไม่ตรงกับคู่สนทนา หรือหันไปทางอื่น
  • - ระยะห่างระหว่างบุคคล(Distance of  Approach)ที่เข้าหา ระหว่างที่สนทนากันเขายืน ห่างกันเกินไป เช่น 1 เมตรหรือเกิน 2 ฟุต เขาไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้เรา

***หมายเหตุ มีลักษณะหลายอย่างรวมกันที่กล่าวมาข้างต้น แต่ไม่จำเป็นต้องมีครบทุกอัปกริยาที่กล่าวถึงทั้งหมด นะครับ เพียงแค่อธิบายโดยสังเขปเท่านั้น***

Opened Body Language ภาษากายเปิดรับ

            เป็นการเปิดรับ เปิดเผย เชิญชวน ดึงดูด ตอบรับ ส่งสารข้อความให้ผู้อื่น อย่างยอมรับ เต็มใจ พร้อมที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ได้เข้ามาร่วมสนทนา หรือกล้าเข้าหาได้ง่ายขึ้น แสดงความเป็นมิตร

  • - วางท่าทาง เปิดเผย เปิดไหล่ เปิดแขน ออกด้านข้าง ทำให้ตัวดูกว้างขยายใหญ่ขึ้น(แต่ไม่ถึงกับพองตัว) แบผายมือ เปิดเผยว่าไมมีอะไรในมือนะฉันไม่ได้คุกคามเธอนะ และพร้อมที่จะแสดงออกทางมือไม้ประกอบการออกท่าทางระหว่างการสนทนาได้ตลอด
  • - เปิดขา ยืนวางเท้ากว้างขนาดกว้างเท่าหรือมากกว่าไหล่ หรือเวลานั่งก็ไม่ไขว้ขา อ้าขาเข่าออกกว้างเท่ากับไหล่หรือมากกว่าความกว้างของไหล่ เปิดเผยให้เห็นเป้ากางเกง ขาเปิดถ่างกว้างจนอาจไปเบียดถูกคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ บางครั้งปล่อยตัวตามสบายตามใจตนเองแต่เบียดเบียนผู้อื่นโดยไม่รู้ตัวโดยเฉพาะคนแปลกหน้า
  • - สีหน้าตา ผ่อนคลาย ส่งยิ้มให้ พร้อมที่จะทักทาย สนทนาด้วย
  • - ศรีษะอยู่ในระดับระนาบ สบสายตาแสดงความเป็นมิตร ไมตรีจิตปรารถนาดี ยิ้มให้ยิ่งดี
  • - การโน้มศรีษะและลำตัวเล็กน้อยไปข้างหน้าเล็กน้อย แสดงความสนใจ และพร้อมที่จะเข้าหา ใกล้กับฝ่ายตรงข้ามเพื่อสนทนา
  • - การหันหน้า มุมมองชี้ไปทางคู่สนทนา
  • - มุมองศาในการยืน ปลายเท้าทั้งสองข้างชี้มุมเปิดกว้างออก \ / เหมือนการพร้อมเปิดรับ
  • - บางครั้งภาษากายที่เปิดรับ ก็ทำตัวเปิดขยายให้ดูใหญ่ขึ้น จนดูเหมือนคุกคาม แสดงอำนาจเหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม แต่ก็ไม่ได้พองตัว แสดงความก้าวร้าว รุกราน จู่โจม หมายมุ่งทำร้าย
  • - การอ้าแขนกว้างชูออกด้านข้างค้างไว้ สำหรับคนรู้รักคุ้นเคยสนิทสนม หมายถึง เชิญชวนให้เข้ามากอดกันเป็นการทักทายกระชับมิตร ที่ไม่ได้เจอกันมานาน หรือถ้าเป็นเด็กหมายถึง กอดหน่อยนะ หรือ ช่วยอุ้มหน่อยจร้า   

https://www.tutorialspoint.com/body_language/body_language_open_closed.htm

http://changingminds.org/techniques/body/closed_body.htm

http://changingminds.org/techniques/body/open_body.htm

Positive Body Language ภาษากายด้านดีบวก

  • Rapport and Greeting แสดงความเป็นมิตร มีไมตรีจิต สร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อผู้อื่น และการทักทาย เคารพ ตอบรับ ยินดี
  • - มองสบสายตา ด้วยความผ่อนคลาย ใบหน้ายิ้มแย้ม
  • - ทักทาย ด้วยวาจา คำพูด กล่าวคำ สวัสดี ถามสาระทุกข์สุขดิบ เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม ลาก่อน ตามมารยาททางสังคม
  • - แสดงความเคารพยกมือไหว้ แบบเป็นพิธีการ บุคคลที่มีสถานะสูงกว่า อายุมากกว่าตัวเรา ครูอาจารย์ หัวหน้าที่ทำงาน ญาติผู้ใหญ่
  • - โค้งคำนับ ก้มพยักหัว ทำความเคารพ แบบไม่เป็นทางการ กับผู้มีอาวุโสกว่าตน
  • - โบกไม้โบกมือทักทาย ยกแขนขึ้น งอข้อศอก แบมือ เผยฝ่ามือออกด้านหน้าเพื่อทักทาย "เฮ่ ไฮ" กับเพื่อนคนรู้จักในระดับเดียวกัน โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อเดินเข้าหาเพื่อสนทนาด้วย และโบกไม้โบกมือทักทายในกรณีที่อยู่ไกลกัน หรืออยู่ในฝูงชนคนหมู่มากเพื่อให้มองเห็นเดินเข้ามาหา มาทักทายกัน
  • - จับมือ Handshake เป็นการทักทายของสากล แต่ในไทยไม่นิยมทำกัน ก็ขอกล่าวเพียงเล็กน้อย คือ วิธีการจับมือแน่นแสดงอำนาจเหนือกว่า หรือหลวมแสดงผ่อนคลายสบาย ๆ เขย่าช้าเป็นพิธีการ หรือเร็ว ไม่พิธีการ สนิทเป็นเพื่อนกัน ถ้าจับมือ แล้วมืออีกข้างกุมมืออีกฝ่ายเพื่อสร้างความสัมพันธ์แนบแน่นหรือความเชื่อมั่นให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ถ้าจับมือแล้วมืออีกข้างกุมแขนของฝ่ายตรงข้าม หรือนำมือวางบนบ่าหรือไหล่ของอีกฝ่ายหมายถึงการแสดงความเมีอำนาจหนือกว่า
  • - คนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ และคนไทย ไม่นิยมการทักทายที่ถูกเนื้อต้องตัวกัน ยกเว้นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเท่านั้น
  • - คนแถบเอเซียใต้ และเอเซียตะวันตก อาจจะการทักทายที่มีค่านิยม นำหน้ามาชนกัน หรือหอมแก้มกัน โผเข้ากอดกัน แม้ไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกันก็กอดกันเป็นเรื่องปกติของเขา หรือเอามือของอีกฝ่ายไปจูบเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่กัน แต่คนไทยไม่นิยมทำ ซึ่งผมก็ว่าดีแล้ว เพราะต่อให้เป็นคนรู้จักกัน แต่ไม่รู้เขาเอามือไปทำอะไรมา เพิ่งเข้าห้องน้ำทำกิจธุระมาแล้วไม่ล้างมือมาให้เราจูบหรือไม่
  • - ยินดีในความสำเร็จ จับมือ หรือ กอด ตบไหล่ตบหลังเบา ๆ ยิ้ม กล่าวคำยินดีที่เขาประสบความสำเร็จ
  • - ต้อนรับ ยกมือไหว้ หรือโค้งคำนับ ถอนสายบัว ผายมือออกด้านข้างด้วยแขนข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ เพื่อเป็นการเชิญชวนให้ผู้มาเยือนทราบว่า ยินดีต้อนรับ เชิญไปทางนี้ หรือเชิญชวนเข้าไปข้างใน
  • Interesting ความสนใจ
  • - จ้องมองด้วยความใส่ใจ ดวงตาขยายขึ้น เปลือกตาเปิดกว้าง ดวงตาเป็นประกาย
  • - มองจ้องเป็นเวลานานไม่ละสายตา กระพริบตาน้อยครั้ง เพื่อไม่ให้พลาดจากสิ่งที่เขาสนใจ
  • - โน้มศรีษะ หัวไหล่และลำตัวไปด้านหน้า หรือโน้มเข้าหาในคนหรือสิ่งที่เขามีความสนใจ หรือการเอียงศรีษะโน้มเอียงด้านข้างของเราเข้าหาผู้อื่นเพื่อแสดงความสนใจและไม่ต้องการให้เขารู้สึกว่าเราคุกคามหรือทำให้เขาไม่สบายสะดวกใจในการที่เราเข้าหา
  • - ทิศทางองศาในการมองและเข้าหาในสิ่งที่สนใจ ปลายเท้าชี้ไปในทิศทางที่ต้องการเข้าหา
  • - การรับฟังสิ่งที่เขาพูดอย่างตั้งใจสนใจอย่างจริงจัง ซึ่งเหมือการประจบสอพลอ เอาอกเอาใจว่าเราชอบใส่ใจใสนิ่งที่เขาพูด เป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทนซึ่งกันและกันในระหว่างสนทนา เรารับฟังเขา เขาก็รับฟังเราอย่างตั้งใจเช่นกัน
  • - การพยักหน้า ผงกศรีษะ เพื่อแสดงออกถึงการยอมรับ และส่งเสริมสนับสนุนในความสนใจในสิ่งที่เขาพูด ถ้าพยักหน้าเร็ว หมายถึง ว่า มีความอดทนฟังน้อย ต้องการที่อยากให้พูดจบโดยเร็ว ถ้าพยักหน้าขึ้นลงช้า ๆ หมายถึง ตั้งใจฟัง เข้าใจ และยอมรับเห็นด้วยในสิ่งที่เขาพูด รวมถึงเป็นการแสดงว่า เรากำลังฟังเขาพูดอยู่อย่างต่อเนื่อง
  • - เสียงตอบรับ "อืม เออ ออ อือ" เป็นการยอมรับฟัง ได้ยิน เข้าใจ และสนับสนุนให้เขาพูดต่อไป กำลังฟังอยู่
  • Satisfy and Like ความพอใจ และชอบดีใจ
  • - ยิ้มแย้ม ยิ้มแบบไม่เห็นฟัน หรือยิ้มแบบเห็นฟัน หรืออ้าปากกว้าง
  • - เห็นตีกา โหนกแก้มยกขึ้น เปลือกตาเล็กลง
  • -  ตาดำขยายใหญ่ มีน้ำมาหล่อเลี้ยงดวงตาให้ชุ่มชื้น ดวงตาเป็นประกายเงา
  • -  คิ้วยกขึ้น หน้าผากมีรอยย่น
  • - จ้องมองสิ่งที่ชอบ หรือจ้องมองสบสายตาคนที่ชอบ ด้วยแววตาที่สดใสเปิดกว้าง
  • - คางยื่นยกขึ้นเล็กน้อย โน้มศรีษะและลำตัวไปข้างหน้า เพื่อเข้าใกล้
  • - อาจจะมีการแสดงความดีใจ เช่น ชูมือขึ้น กระโดดโลดเต้น หัวเราะ
  • - ตะโกนโห่ร้องส่งเสียง "เฮ เฮ่ เฮ้ เย่ เยส"
  • - มีน้ำตาคลอ หรือดีใจจนน้ำตาไหลเพราะความปลาบปลื้มปิติยินดี ที่ทำสำเร็จ หรือ ได้รับสิ่งที่พึงพอใจ สมหวังที่อยากได้มานาน
  • - โอบกอดกัน เพื่อแสดงความดีใจ ที่ได้ชัยชนะในการแข่งขัน แบ่งปันความยินดี ความสุขสมหวัง
  • Acceptance and Agreement ยอมรับ ตอบรับ และ เห็นด้วย ตกลง
  • - พยักหน้า ตอบรับ ตกลง  เห็นด้วย หรือ บอกเป็นนัยว่ ากำลังฟังอยู่ เข้าใจ
  • - ก้มหัวลงแล้วเงยหน้าขึ้นช้า ๆ  เพียงรอบเดียว
  • - ยิ้มเล็กน้อย
  • - ยกนิ้วโป้งชูขี้น
  • - ทำมือสัญลักษณ์ โอเค ตกลง  แบบมือหัวฝ่ามือออก นิ้วชี้มาประกบกับนิ้วโป้งเป็นรูปวงกลม อีกสามนิ้วกางออก
  • - ตอบรับด้วยคำพูด "ตกลง  โอเค อาฮะ อืม อืมฮึ อาฮี เออ ออ อ้อ"  เข้าใจ หรือขานรับ ครับ ค่ะ หรือ เห็นด้วยครับ/ค่ะ
  • - จับมือกัน เหมือนเป็นการตกลงในสัญญาที่มีคำมั่นรวมกัน
  • Sympathy เห็นอกเห็นใจ เมตตาสงสาร
  • - มองด้วยสายตาอ่อนโยน เป็นมิตร ผ่อนคลาย ไม่มีอาการเกร็ง ที่หน้า หรือไม่ได้มองด้วยตาแข็งก้าวร้าว คุกคาม
  • - หรืออาจยิ้มเล็กน้อย เหมือนกึ่งยิ้ม
  • - ดวงตาหรี่ตกลงเล็กน้อย อาจมีหางคิ้วตกเล็กน้อย
  • - ยื่นมือจับที่มือ แขน ของอีกฝ่าย หรือโอบที่ไหล่ ตบที่ไหล่ หรือหลังเบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบโยน ทำให้เขาดีขึ้น คลายความวิตกกังวล หรือความเศร้าเสียใจ
  • Romantic and Attraction แสดงความรัก อารมณ์สเน่หา และดึงดูดเย้ายวนใจ
  • - การจ้องมองอย่างสนใจ ในร่างกาย ใบหน้า ของเพศตรงข้าม
  • - มองสบสายตา ขั้นแรกมองระยะห่างโฟกัสที่ร่างกาย แล้วจะมามองที่ใบหน้า สบสายตานานกว่าปกติ แล้วจึงแกล้งละสายตาไปที่อื่น แล้วหันกลับมามองที่ตาคุณอีกครั้งเป็นระยะเวลานานจนไม่อาจละสายตาไปจากคุณ แต่ถ้าเขารู้สึกว่าเป็นสายตาที่คุกคามฝ่ายตรงข้าม เขาก็จะหันไปมองที่อื่น แล้วหันกลับมามองที่คุณอีกครั้งอย่างสนใจจริงจัง
  • - จ้องมองด้วยความปรารถนา เสน่หา ดึงดูดเย้ายวนใจ ดวงตาที่มอง ทำตากลมโต ตาดำขยายใหญ่ ตาแป๋ว Doe Eyes ทำตาหวาน มีน้ำตามาหล่อเลี้ยงให้ดวงตาชุ่มชื้น ดูเงาวาว เป็นประกายสะท้อนแสง ยกคิ้วขึ้น
  • - อมยิ้ม หรือยิ้มกรุมกริ่ม ปลายของริมฝีปากบนเผยอ ยกขึ้นลักษณะแหลมขึ้นข้างบนช่วงปลายริมฝีปาก สังเกตได้ชัดที่มุมปากเผยแหลมขึ้น หรือผู้หญิงบางคนก็ยิ้มยกมุมปากเอียงขึ้นข้างหนึ่ง บางคนก็ยิ้มเล็กน้อย Half Smile
  • - หรือหลิ่วตา ชม้ายตามอง (หรี่ตาใข้ตาเหลือบมองด้วยหางตา) หรือ ยักคิ้วหลิ่วตา (ยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง ชำเลืองมองไปด้านข้างด้วยหางตามองเพศตรงข้าม)
  • - มองทำตาเย้ายวน ยั่วอารมณ์สวาท เชิดคางขึ้น  เอียงคอไปด้านข้างเล็กน้อยอย่างช้า ๆ ทำตาพริ้ม (หรี่ตา เปลือกตาเล็กลง มองด้วยตาปรือคล้ายเพิ่งตื่นนอน) Bedroom Eyes เผยอริมปีปากขึ้น หรืออ้าปากค้าง คล้าย มาริลิน มอนโร ( Marilyn Monroe)
  • - เอียงตัว ยักไหล่ขึ้น หันหน้าเอียงไปด้านเดียวกับไหล๋ที่ยกขึ้น เชิดคางขึ้น หรือนำคางชิดกับไหล่ที่ยกขึ้น ชำเลืองมองด้วยหางตา ยิ้มในดวงตา ให้ความรู้สึก  อ่อนโยน ละมุนละไม ผ่อนคลาย หยาดเยิ้ม มีน้ำในตาเงางาม อมยิ้ม เห็นลักยิ้ม หรือรอยหยักที่มุมปาก
  • - การจ้องมองถ้ามองไปที่ริมฝีปาก หมายถึง ปรารถนาอยากได้จูบจากเพศตรงข้าม ถ้ามองไปต่ำที่หน้าอก หรือเป้า หมายถึง อยากได้ ความรัญจวนถวิลหาตัณหาราคะ ถ้ามองไปที่ส่วนอื่นของร่างกาย ก็หมายถึง อยากที่จะสัมผัส
  • - มีท่าที ขวยเขินอาย หน้าแดงออกชมพูระเรื่อ อมยิ้ม ทำเหมือนไม่กล้าสบตา แต่แล้วก็หันมาสบสายตายาวนานกว่าครั้งที่แล้ว
  • - ผู้หญิงส่วนใหญ่มักทำ เลียริมฝีปาก ทำปามุ้ยเหมือนส่งจูบ ขบริมฝีปาก ฟันขบลิ้นด้านข้างมุมปาก  เผยอริมผีปากขึ้นเล็กน้อยค้างไว้ บ่งบอก เย้ายวน ชวนเสน่หา ดึงดูดใจ ฝ่ายชาย
  • - การ จัดทรงผม เสยผม ปัดลูบผม ช้า ๆ หรือเสยผมค้างไว้ หรือ จัดแว่นตาให้เข้าที่ จัดทรงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง จัดปกคอเสื้อ เทคไท หรือมือลูปที่เสื้อ  หรือขอบชายกระโปรง แสดงถึง "ฉันแต่งตัวให้ดูดีเพื่อคุณ ฉันดูดีไหม"
  • - ผู้หญิง การลูบคล้ำ สัมผัสส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ให้เพศตรงข้ามได้เห็น "ฉันทำอย่างนี้คุณชอบไหม" และเป็นการสร้างจุดสนใจเพื่อให้เขาเห็นความเคลื่อนไหว เพื่อดึงดูดสายตาให้เขามองมาที่เธอ และมองเธอตรงส่วนที่เธอสัมผัส เช่น มือจับหัวไหล่อีกข้าง หรือมือจับที่อก เพื่อโอบรัดดันทรวงอกชันขึ้น หรือมือจับที่หน้า หรือคอ ให้ดูโดดเด่น หรือมือวางที่ขาอ่อนขยับเลื่อนไปมา เวลาที่นั่ง เป็นต้น
  • - เปิดคางให้เห็นลำคอ เอียงคอเล็กน้อย ยืดอก แผ่ขยายแอ่นอก มือเท้าสะเอว ทำตัวขยายใหญ่ขึ้น โชว์ส่วนของเร่างกายให้ดูเด่น เห็นสัดส่วนเว้าโค้งที่ได้สมส่วนมีเสน่ห์ ยั่วยวนใจ เวลาเดินก็เดินส่ายสะโพก ให้ผู้ชายมองตามอยู่ข้างหลัง เหมือนเด็กที่อยากได้ขนมหวาน ของเล่น เพื่ออยากให้ฝ่ายชายเข้าใกล้ และดูแลเอาใจใส่ ทะนุถนอม ปกป้องเธอได้
  • - ผู้ชาย จะยื่นลำตัว แขน ขา หน้าอก ไหล่ให้ขยายใหญ่ ให้ดู สง่างาม แข็งแรง โชว้เป้ากางเกง มือเท้าเอว หรือเอามือเกี่ยวกับหูเข็มขัด หรือเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้าง เพื่อดึงดูดสายตาเพศตรงข้ามให้มองมาที่เป้า ไม่มีพุ่ง มีกล้ามหน้าท้อง เพื่อโชว์ความเป็นชาย บึกบึน แข็งแรง ที่สามารถปกป้องดูแลเธอได้
  • - การรักษาระยะห่าง และ การโน้มตัวเข้าหาเข้าใกล้ ไม่ควรห่างเกินไป และไม่ควรใกล้เกินไป ต้องดูปฏิกริยาของฝ่ายตรงข้ามด้วย ว่าแสดงท่าทีดึงดูดใจ หรือเป็นการเชิญชวน หรือตอบรับ ในภาษาทางกาย การสบสายตาตอบ การยิ้มตอบรับ การทำท่าเขินอาย หน้าแดง หรือ ส่งสายตายั่วยวนหว่านเสน่ห์กลับ หรือ เล่นหูเล่นตาทำเป็นขี้เล่น ล้อเลียนตอบกลับ ยิ้มที่มุมปากเป็นการตอบรับ ก็สามารถขยับเข้าไปใกล้เพื่อพูดคุยทักทายได้ ในระยะที่ 1 ฟุต หรือใกล้กว่านั้นแล้วแต่ความเหมาะสมแต่ไม่ควรเข้าใกล้จนตัวชิดสัมผัสฝ่ายตรงข้าม เพราะเพิ่งทำความรู้จักกัน ยังไม่ตกลงคบดูใจกัน การเข้าหาใกล้ นำไปสู่ความสัมพันธ์ใกล้ชิสนิทสนม สัมผัส (ท่านผู้อ่านสามารถหาความรู้เรื่องนี้เพิ่มเติม ด้วยการค้นหาคำ "Pick-up Artists" ศิลปะในการเข้าใกล้จีบให้ติดรวมทั้งเรื่องโรแมนติดร่วมกันด้วย)
  • Possessive แสดงความเป็นเจ้าของ
  • - เอามือจับถือสิ่งนั้นไว้ในมือ เอามือจับถือแขนคนรักของตนเอง หรือ คล้องแขนเดิน หรือจูงมือกัน แสดงความเป็นเจ้าของกันและกัน
  • - เอามือโอบกอดที่ไหล่ เพศเดียวกันเป็นเพื่อนสนิท ถ้าต่างเพศจับโอบไหล่แต่ตัวไม่ชิดกัน อาจเป็นเพื่อนสนิทต่างเพศ หรือกำลังดูใจกัน ยังไม่ตกลงเป็นแฟนกัน ต้องดูความใกล้ชิด ถ้าแนบตัวชิดติดกัน เป็นแฟนคนรักกัน หรือโอบที่เอวสะโพก เดินไปด้วยกัน ยิ่งมั่นใจได้ว่าเป็นแฟนคนรักกัน
  • - ถ้าจูงมือเด็กเล็ก เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ และเพื่อดูแลป้องกันเด็กไม่ให้พลัดหลง หรือเกิดอันตรายกับเด็กที่ช่วยเหลือดูแลตัวเองยังไม่ได้ดีเท่าที่ควร
  • - ทำตัวใหญ่ เอาตัวบัง หรือกางแขนเอามือบัง กัน หรือป้องกันไม่ให้สัมผัสถูกตัว ไม่ให้คนอื่นเข้าใกล้ คนของเขา ที่อาจจะเป็นลูกหลาน คนในครอบครัว หรือคนรัก เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในสถานที่ชุมชนสาธารณะ
  • - ทำตาขวาง ตาโตจ้องมองเขม็ง กับฝ่ายตรงข้าม ที่มาเข้าใกล้คนรักของเขา ใบหน้าเคร่งขรึม จริงจัง
  • Relaxed ผ่อนคลาย สบาย ๆ เป็นอิสระ ไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งใด ๆ ให้กังวล หรือกดดันตึงเครียด เป็นอารมณืมีความสุขกับการใช้เวลาพักผ่อน ปลดปล่อยวางภาระจากเรื่องต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้ความคิด ปลดเปลี้ยงปล่อยใจให้สบาย
  • - ใบหน้าผ่อนคลาย ปล่อยวาง ปราศจากความเครียค ไม่เกร็ง ไม่มีร่องรอย ยับ ย่น  ที่โหนกแก้ม กราม กระพุ่งแก้ม รอยบุ๋มย่น ใต้ปากเหนือคาง ใบหน้า อมยิ้มเล็กน้อย เห็นรอยที่หน้าผากเล็กน้อย และเห็นรอยตีนกาเพียงเล็กน้อยเวลายิ้มเท่านั้น
  • - ดวงตาาดูอ่อนโยน ดวงตาเปิดแต่ไม่กว้าง ไม่ได้โฟกัสจุดสินใจสิ่งใด ๆ เป็นพิเศษ คิ้วราบเรียบ ไม่มีรอยหยัก ไม่ขมวดคิ้ว
  • - สายตาจ้องมองตงไปที่ผู้อื่น หรือคู่สนทนา โดยปราศจากการจ้องมองเขม็ง ไม่มีรังษีอำมหิต มาดร้าย ผ่อนคลายอ่อนโยน ละมุน เป็นมิตร อบอุ่น
  • - ศรีษะ คอ ลำตัว สบาย ๆ ไม่เกร็ง ไหล่ อกเปิด แต่ไม่ทำตัวขยายใหญ่แบบคุกคาม แต่ขยายหย่อนลาดลง แขนขา ปล่อยวางไม่เกร็ง
  • - การนั่ง เอนหลังพิงหนักพิง อ้าขากว้าง หรือยื่นแข้งยื่นขาออกไปข้างหน้า หรือยกขาขึ้นพาดที่พักแขนของเก้าอี้ หรือวางเท้าบนโต๊ะ มือประสานหลังคอ หรือท้ายทอย หรือกอดอก(ปกติกอดอก หมายถึง Closed การปิดกั้น แต่ในกรณีนี้ หมายถึง เขารู้สึกสบายใจ ผ่อนคลาย ภาคภูมิใจในตนเอง ซึ่งเหมือนกันกับ การนั่งเอนตัวไปด้านหลังพิงพนักพิงของเก้าอี้ แล้วไขว้ขาเป็นเลขสี่ มีความหมายเดียวกัน
  • - นั่งในที่สูงขาลอยจากพื้น นั่งหย่อนขา แกว่งเท้าไปมา
  • - การยืนเท้าสะเอวข้างหนึ่ง หย่อนขาทอดน่องข้างหนึ่ง เอียงตัวทิ้งน้ำหนักไปด้านข้าง ยักสะโพกขึ้นไปด้านข้าง มือเท้าสะเอว
  • - หรือ ยืนพิงกำแพงยกขาข้างหนึ่งยันกำแพงไว้ หรือยืนพิงกำแพง ไขว้ข้อขาของอีกข้าง
  • - หายใจเข้าออกช้า และหายใจลึก
  • - การได้อยู่ตัวคนเดียว ในที่ที่เขามีความเป็นส่วนตัว ได้ปลดเปลื้องผ่อนคลาย นั่งสบายพิงเอนตัว ปล่อยแขนขาในท่าที่สบาย หรือยื่นแข้งยื่นขา นั่งในท่าที่เขาคิดว่าสบาย มีความสุขใจ สงบ
  • Evaluation ครุ่นคิด วิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ หรือต้องตัดสินใจเลือก
  • - การทำมือเป็นยอดแหลมสามเหลี่ยมขี้ขึ้น ประสานมือกางอุ้มมือ นิ้วมือชนสัมผัสกัน มีช่องว่าระหว่าง เป็นรูปสามเหลื่ยม เอาข้อศอกตั้งเท้ากับโต๊ะ ซึ่งมักทำตอนนั่งอยู่กับโต๊ะ สัญญาณบ่งบอกว่า กำลังใช้ความคิด ประเมินผล เพื่อทำการตัดสินใจเลือก
  • - มองไปทางอื่น แล้วค้างไว้ค่อนค้างนาน แต่เขาไม่ได้ให้ความสนใจในสิ่งที่เห็น เพราะภายในจิตใจกำลังครุ่นคิด ใช้ความคิด ถึงเรื่องนั่น ๆ หรือเรื่องที่กำลังรับฟังอยู่คิดตามและประเมินผลอยู่ ณ ขณะนั้น
  • - บางครั้งก็มีการทำ คิ้วหยัก หรือขมวดคิ้ว คิ้วอาจตกเล็กน้อย หรือหรี่ตา  เนื่องจากพยายามในการใช้ความคิด ประเมินสถานการณ์ และอยู่ในระหว่างการตัดสินใจที่ลำบาก หรือมีความสำคัญ
  • - มือเท้าคาง เท้าหน้า หรือเอียงคอ มองไปที่อื่น อาจจะมองสูง มองต่ำ มองไปด้านข้าง แต่ไม่ได้โฟกัส หรือไม่ได้เหม่อลอย(ใจลอยหน้าจะเหมือนไม่มีอารมณ์แล้วแช่แข็งค้าง ตาลอยไม่มีจุดหมาย)
  • - ถ้าในขณะยืนอยู่ การเท้าคาง จะเอามือแขนข้างหนึ่งกอดอก เพื่อรองแขนอีกข้างที่เท้าคาง หรือจับส่วนอื่นของใบหน้า
  • - การเท้าคาง มีความหมาย สองอย่าง คือ ประเมิน กับ เบื่อหน่าย
  • - ถ้าเป็น การประเมินสถานการณ์ ตัดสินใจ จะเท้าคาง หรือจับคาง โดยเอาฝ่ามือ หรือนิ้วมือหรือกำมือบางส่วน ต่ำแหน่งที่รองรับอยู่ตรงปลายคาง ไม่ได้รับน้ำหนักหน้าหรือคางอย่างเต็มที่
  • - ถ้าเป็น เบื่อหน่าย จะนำมือเท้าคาง หรือกำหมัดเท้าคาง หรือแบบฝ่ามือเท้าคาง จะรับหน้ำหนักของหน้าเต็มที่ และต่ำแหน่งมือที่รองรับคางนั้น จะเข้าไปส่วนด้านในของคางเพื่อค้ำรองรบน้ำหนักศรีษะได้มั่นคง เนื่องจากความเบื่อหน่าย จะทำให้หาว เบื่อจนง่วงนอน บางทีเผลอหลับไป กั้นผงกหัว หรือไม่ทำให้หัวตกกระแทกโต๊ะ
  • Absent-minded ใจลอย เหม่อลอย
  • - ละความสนใจ ไม่ใส่ใจ จากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
  • - หันหน้ามองไปทางอื่น เหม่อลอยไร้จุดหมาย
  • - ใบหน้าราบเรียบ ไร้อารมณ์ไม่แสดงออก และเหมือนถูกแช่แข็งค้างไว้
  • - เหม่อลอย จะแตกต่างกับ การครุ่นคิด ตรงที่ เหม่อลอย ดวงตาว่างเปล่า ล่องลอยไม่จุดหมาย ไม่มีรอยความตึงเครียด หรือรอยย่นยับ หยัก ที่คิ้ว หน้าผาก หรือแก้ม กราม ให้เห็นเลย และดวงตาอ่อนคลายลง แต่ครุ่นคิด ประเมินผล ดวงตาจะมีความเกร็งตึงเครียดด้วย ตาดำหดเล็กลง มองไม่มีจุดสนใจ แต่จ้องไปที่ใดที่หนึ่ง คิ้วมีรอยหยัก คิ้วขมวด อาจมีรอยยับที่หน้าผาก มีรอยยับที่แก้มหรือกรามจากการกัดฟัน เพราะใช้ความคิดอยู่

Negative Body Language ภาษากายด้านลบไม่ดี

  • Annoyance and Unpleasant  or Dislike หงุดหงิด รำคาญ และ ไม่พอใจ หรือไม่ชอบ
  • - หรี่ตาเล็กลง หรือหลิ่วตามองตาขวาง ตาแข็งกร้าว จ้องมองตาเขม็ง หรือชำเลืองมองด้วยสายตาจิกจ้องด้วยหางตา
  • - คิ้วขมวด หรือมีรอยยับหยักที่คิ้ว มีรอยย่นที่สันจมูก หรือทำจมูกย่น หรือจมูกยับย่น เหมือนการสูดได้กลิ่นไม่ดี
  • - การจับ สัมผัส ลูบไล้ ถู ที่จมูก ปาก ตา หู
  • - ปาก ขยับไปด้านมุมของปากข้างหนึ่ง หรือมีการเคลื่อนไหว ทำปากแบะ ทำปากมุ้ย ทำหน้าบึงตึง ปากคว่ำลง หรือเม้มริมฝีปาก หรือขยับริมฝีปากไปมา หรือมีรอยยับที่แก้ม หางตา ตีนกา ทั้งที่ไม่ได้ยิ้ม หรือเอาลิ้นมาดุนที่กระพุ้งแก้ม
  • - เชิดคางขึ้น โน้มตัวเอียง เอนถอยหลัง หรือหันหน้าไปทางอื่น หรือลำตัวถอยห่างออกจากคู่สนทนา
  • - มองไปทางอื่น ขาปลายเท้าชี้นำออกไปทางอื่น พร้อมที่จะเดินก้าวจากไปเสมอ
  • - อาการรังเกียจ หรี่ตา จ้องมองเขม็งด้วยหางตา สายตาจิกรังเกียจ คิ้วตก หัวคิ้วหยักย่นเข้าหากันจนเห็นรอยย่นหยักที่สันจมูกที่ติดกับหว่างคิ้ว จมูกย่นหยับเหมือนได้กลิ่นไม่ดีปีกจมูกหดลง ปิดปากริมฝีปากล่างดันริมฝีปากบนขึ้นเป็นรูปโค้งคว่ำ บางคนก็เปิดปากยิงฟันปากบิดเบี้ยวไม่ได้สมมาตร ร่องปากข้างแก้มเป็นรูปคล้ายสามเหลี่ยม  คางยื่น มีรอยย่นที่คาง หรืออาจมีแลบลิ้นออกมาให้เห็น ศีรษะถอยไปด้านหลัง หรือเอนหัวไปด้านข้าง
  • - อาการอิจฉา ริษยา หรี่ตา จ้องมองด้วยหางตา สายตาดูถูก ขมวดหัวคิ้วหยักหางคิ้วลู่ชี้ไปทางเดียวกับสายตา จมูกย่น ปีกจมูกหด เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงเอียงด้านข้างมีรอยมุมปากด้านใดด้านหนึ่ง คางยื่นหรือเอียงเล็กน้อย ศีรษะเอียงไปด้านข้าง หรืออาจใช้คางชี้ มองค้อน  หรือยกไหล่ขึ้นข้างหนึ่ง
  • - กุมมือ กำมัด กัดฟัน แสดงความไม่พอใจ
  • - หรือทำหน้ายียวน ตำหนิ ใส่อารมณ์ สะบัดหน้าหนี หรือสบถคำหยาบ ด่าทอ ชี้นิ้วชี้ไม้ ยกไหล่ยืดอก หรือกระทืบเท้า แล้วเดินหนีจากไป ด้วยความไม่พอใจ
  • - มองบน รำคาญ เมื่อไหร่จะจบสักที
  • Deny ปฏิเสธ
  • - ส่ายหน้า ปฏิเสธ ไม่ยอมรับ ไม่เห็นด้วย
  • - มีอีกความหมายหนึ่งในฐานะผู้ปกครองหรือต่ำแน่งสูงกว่า ส่ายหน้าให้เด็กเห็นว่า "ไม่เอานะ อย่าทำ"  เป็นเชิงคำสั่ง
  • - ส่ายหน้าช้า หมายถึง ไม่เข้าใจ ไม่เชื่อ ไม่ยอมรับสิ่งที่ได้ยิน มีบางอย่างไม่ถูกต้อง
  • - ส่ายหน้าเร็ว หมายถึง ไม่เห็นด้วย ไม่ยอมรับ มันไม่จริง
  • - ส่ายมือไปมา หมายถึง ไม่เอา ไม่ยอมรับ ไม่เห็นด้วย
  • - ชูนิ้วชี้ส่ายไปมา หมายถึง ไม่เอา อย่าทำ
  • - ส่ายหัวส่ายไหล่ ส่ายทั้งตัวช่วงบน หมายถึง ทำตัวเหมือนเด็กที่ไม่ยอมรับ การปฏิเสธที่ผู้ใหญ่ไม่ซื้อของเล่นให้เขา
  • - ยกมือเผยฝ่ามือไปมา หมายถึง เปล่านะ ฉันไม่ได้ทำนะ
  • Power / Dominant แสดงพลัง อำนาจเหนือกว่า หรือการคุกคาม
  • - ทำตัวให้ดูใหญ่ขึ้น มือเท้าสะเอว หรือมือไขว้หลัง ทำข้อศอกขยายกว้าง ยืดอกแผ่ขยายาออก ยืนขากว้าง ขยายฐานระหว่างขากว้างกว่าช่วงไหล่
  • - เวลานั่งอ้าขากว้าง บางครั้งนั่งข้างคนอื่น อ้าขากว้างจนไปเบียดเบียน ไม่เกรงใจคนอื่น
  • - ทำตัวใหญ่ดูสูงขึ้น ยีนตรงยืดลำตัวขึ้น ยืดอกและไหล่ขึ้น ทำให้ดูเหมือนตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะ ยืนคุย กับคนที่กำลังนั่งอยู่
  • - พยายามบุกรุก คุกคาม ยึดครอบครองพื้นที่ส่วนบุคคลของฝ่ายตรงข้าม เช่นเดินเข้าหาใกล้ ยืนขาล้ำข้างหน้า เข้าไปใกล้กับคนที่จะคุยด้วย ลุกล้ำพื้นที่ส่วนบุคคล เข้าใกล้เกินกว่า 1  ฟุต ทั้งที่ไม่ใช่คนที่สนิทสนมด้วยเลย
  • - พยายามจ้องมองคู่สนทนาเป็นเวลานาน หรี่ตาเล็กน้อย หลิ่วตามองเขม็ง เหมือนมองค้อน ตาไม่กระพริบ จ้องมองอย่างมาดร้าย เหมือนบอกเป็นนัย ไม่อยากให้คู่สนทนาสบสายตา จ้องมองด้วยความสงสัยและไม่ชอบ ดูแคลนทับถม ทำตัวเหนือกว่าผู้อื่น
  • -  คิ้วขมวด หรือคิ้วตกมีรอยหยักที่คิ้ว (ดูถูก ตัดสิน) หรี่ตาจ้องมอง (วิเคราะห์ประเมิน) ปิดปากแน่น ไม่ยิ้ม ดูซีเรียสจริงจัง
  • - เวลาจับมือทักทาย จับฝ่ามือคว่ำ ซึ่งแสดงว่า อยู่เหนือกว่าผื่น จับมือค้างนานกว่าปกติ ซึ่งแสดงว่า สามารถควบคุมคนอื่นได้
  • - พูดน้ำเสียง แข็งกร้าว เน้นคำ เน้นน้ำหนัก และพยายามจะพูดยาว เพื่อไม่ให้ใครมาขัดจังหวะแทรกในการพูดของเขา ด้วยการจ้องมองคนรอบ ๆ ตัว ด้วยตาเขม็ง
  • Aggressive ก้าวร้าว รุกล้ำ จู่โจมทำร้าย
  • - ขมวดคิ้ว หรือยกคิ้วขึ้นคิ้วมีรอยหยัก หลิ่วตาจ้องมองเขม็ง หรือ คิ้วตก หรี่ตามองอย่างดุร้าย จ้องตาไม่กระพริบ
  • - หน้าตาบูดบึ้งตึง ถลึงตามอง มาดร้าย
  • - ปากมุ้ย ปากแบะริมฝีปากยื่นออกมา หรือเม้มริมฝีปากแน่น กัดฟัน หรือ ยิงฟันแยกเขี้ยว  คำรามใส่ พูดจาก้าวร้าวหาเรื่องใส่อารมณ์เสียงดัง ด่าทอ ตำหนิ ว่าร้ายอย่างรุนแรง
  • - ฉุนเฉี่ยว โกรธจนหน้าแดง บางครั้งดวงตาแดงกล่ำ เส้นเลือดแดงในดวงตาเห็นได้ชัด ด้วยความโมโห หัวร้อน จนคันออกหู คือ หูแดง ลำคอหน้าแดง
  • - ทำตัวขยายใหญ่ กางแขนขา กางไหล่ ยืดแอ่นอก แอ่นลำตัว แอ่นโชว์เป้ากางเกง
  • - โน้มศรีษะ ลำตัว ไปข้างหน้า กำหมัด เตรียมพร้อม จะเข้าปะทะ จู่โจม ทำร้าย ฝ่ายตรงข้าม
  • - การเข้าหา พุ่งเข้าหาใกล้ รุกล้ำ คุกคาม ในเขตพื้นที่ปลอดภัย Comfort Zone หรือ พื้นที่ส่วนบุคคล Private Zone ของคนอื่นโดยที่ไม่ได้รับอนุญาติ ด้วยการจับ สัมผัสตัว จับแขน จับมือ จับไหล่ หรือผลักอก
  • - ยื่นกางขาตั้งหลักมั่น เตรียมพร้อม หรือ นำเท้าข้างหนึ่งก้าวไปข้างหน้า หมายมุ่งพุ่งเข้าทำร้าย
  • - แกว่งวาดมือไปมา กำหมัด ยกเท้า หรือเอาหัวโขก หรืออื่น ๆ ที่หมายทำร้ายร่างกาย ฝ่ายตรงข้าม
  • Defensive การป้องกันตัว เมื่อยามที่รู้สึกถูกคุกคาม ไม่ปลอดภัย และเมื่อระมัดระวัง ไม่ไว้วางใจในสถานการณ์รอบข้าง
  • - ปกป้องอวัยวะสำคัญของร่างกาย เอามือแขนยกขึ้นมาปิด ตั้งการ์ดกัน ปกป้องลำคอ หน้าอก ลำตัว เป้ากางเกง
  • - บางครั้ง การป้องกันตัว คือ การทำตัวหดเล็กลง เอามือกอดอก กอดไหล่ กอดรัดตัวเอง หดขาแขนเข้ามา เพื่อปกปิดป้องกัน หน้าอก ลำคอ ลำตัว
  • - กอดอก กอดไหล่ กอดรัดตัวเอง เป็นการป้องกันตัวเอง เวลารู้สึกไม่สบายใจไม่ปลอดภัย หรือไม่ไว้วางใจ
  • - เวลานั่ง มือสองข้างจับสิ่งของที่อยู่ข้างหน้าโต๊ะ เช่น มือประสานจับแก้วน้ำ ปากกา หรือประสานมือ กุมมือวางบนโต๊ะ หรือกุมมือวางบนหน้าขา เป็นต้น
  • - โน้มศรีษะ ลำตัวถอยออกห่าง ถอยหลัง หรือถอยออกด้านข้าง
  • - เอามือแขน ปัดสิ่งที่รุกล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ส่วนตัว หรือมือดัน ยัน ผลักออกให้พ้นตัว
  • - ยืนทรงตัวมั่น เตรียมพร้อม เข้าสู่โหมด ปะทะ ตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม ที่หมาย จู่โจมทำร้าย
  • - ดวงตามองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง มองหาทางหนีที่ไล่ บางครั้งไม่สบสายตากับคู่กรณี อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจะกลายเป็นการเร่งเร้าให้เกิดการปะทะได้เร็วขึ้น แต่ไม่วางตายังมองอย่างรอบคอบระมัดระวัง
  • Submissive ยอมจำนน ยอมแพ้
  • - เมื่อรู้สึก กลัวเกรง ไม่ปลอดภัย ที่ถูกคุกคาม ด้วยการหลีกเลี่ยงไม่ปะทะ ตอบโต้ด้วยความก้าวร้าว แต่ใช้วิธี ยอมจำนน ยอมแพ้
  • - ปกป้องกันตัวเอง ทำตัวหดเล็กลง ก้มหัว คางปิดป้องกันคอ มือกุมเป้า หรือกอดอก
  • - บางครั้งเมื่อต้องเจอสิ่งอันตราย ก้มศรีษะ คุกเข่าหมอบ คลาน นอนขดตัว(ยกเข่าชันขึ้นนำแขนมาปิดโดยศอกชิดกับหัวเข่า) หรือนอนคว่ำราบกับพื้น
  • - เมื่อทักทาย ทำความเคารพ ผู้มีศักดิ์ สถานะสูงกว่าตน ก้มศรีษะโค้งคำนับไหว้ กราบ วันทยหัตถ์ ผู้บังคับบัญชา
  • - ยกมือขึ้นทำท่าอ้อวอน ขอร้อง ไม่ให้ทำร้ายตน ด้วยการ กุมมือ ยกพนมมือไหว้ กราบ ขอร้องอ้อนวอน
  • - ยกมือเผยฝ่ามือออก ยกแขนขึ้นระดับเดียวกับศรีษะ หรือยกขึ้นเหนือศรีษะ เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเองไม่มีอาวุธหรือไม่มีอะไรในมือนะ เรายอมแพ้ ยอมจำนน
  • - ยิ้มให้ กับคนที่เหนือกว่า แต่ไม่ได้เต็มใจนัก ดวงตาไม่ได้ยิ้มด้วย เหมือนยิ้มทักทายให้ผ่านไปที
  • - ก้มหัว ดวงตามองต่ำลง  คิ้วลาดตกลง หรือไม่มองหน้า หรือสบสายตาฝ่ายตรงข้าม แต่ยังมองความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามอย่างระมัดระวังด้วยสายตาขึงขังจริงจัง
  • - บางครั้งมีการกัดฟัน เพราะต้องฝืนทนยอมจำนน จึงกัดฟันมีรอยยับที่กรามร่องแก้ม หรือมีการเม้มริมฝีปาก เพราความกดดัน การฝืนใจให้ยอมรับ
  • - อาการ กลัว ตึงเครียด ที่มีให้เห็น จับหน้า เสยผม การกระตุกที่หน้า กระพริบตาถี่ เหงื่อออก หน้าซีดขาว
  • Boredom เบื่อหน่าย
  • - เบื่อหน่าย ใจลอยเหม่อลอย ไม่มีความสนใจกับคน หรือสิ่งที่คนอื่นพูด วอกแวกไม่มีสมาธิในการสนทนา
  • - มองออกไปที่อื่น มองออกนอกหน้าต่าง หรือมองที่นาฬิกาแขวน หรือมองผ่านประตูออกไป
  • - นั่งมือเท้าคาง ใจลอย หาว ง่วงนอน สัปงก เหม่อลอยไม่ได้สนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว มีความรู้สึกว่างเปล่า มองไปอย่างไม่มีจุดหมาย
  • - เวลานั่งงอตัว เอนหลัง พิงพนักพิง อ้าขากว้าง เหมือนเมื่อยล้า
  • - นิ้วมือเคาะโต๊ะ แกว่งขา ขาแตะชนกันเป็นจังหวะ หรือแขย่งเขย่าขาเป็นจังหวะ ทำซ้ำ ๆ
  • - มองบน เบื่อหน่ายสิ่งที่คนอื่นทำอยู่
  • - ยกคิ้ว ถางตา ทำตาพริ้มคล้ายคนเพิ่งตื่นนอน ดวงตาล่องลอยเคว้งคว้าง
  • Pain ได้รับบาดเจ็บ
  • - หน้าตาบูดบึ้ง บูดเบี้ยวไม่ได้รูปสมมาตร ใบหน้าเกร็ง ตึงเครียด
  • - ดวงตาหรี่ หดเกร็งเล็กลง บางทีปิดตาแน่นข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง รอบตามีรอยยับย่น คิ้วมีรอยหยัก ยับที่คิ้ว คิ้วตกลาดลง หรือคิ้วขมวด เห็นรอยตีนกาชัด และรอยย่นยับที่หน้าผาก
  • - จมูกย่น รอยยับย่นที่จมูก ร่องแก้มหดเข้า ปากยู่ย่นหดเข้า หรืออ้าปากค้างเห็นฟัน แยกเขี้ยวกัดฟันแน่น รูปปากฉีกขยายออกด้านข้าง
  • - หรือเม้มริมฝีปากแน่น ขมเม้มริมฝีปากล่างเข้าในปากเล็กนอย กันฟันแน่น มีรอยยับที่กราม และรอยบุ๋มที่เหนือคางอย่างเห็นได้ชัด
  • - เป่าปาก มีเสียงเป่าปากระบายลมหายใจออก หรือสูดลมหายใจเข้า ดัง "ซี๊ด ซาด ซุ่ ฟู่"
  • - ส่งเสียงคราง ร้องคร่ำครวญอย่างเจ็บปวด  "โอ๊ย อุ๊ย อ้า อ๊า เจ็บ ช่วยด้วย"  หรือ ร้องสะอึกสะอื้น ลมหายใจขาดช่วง หรือ ร้องไห้น้ำตาไหล
  • - มือจับ บีบ กำ อวัยวะที่ปวด เช่น ศรีษะ แขน ขา หน้าอก จับท้อง เป็นต้น ตัวเกร็ง งอขดตัว ไหล่หดเข้า หรือยืนเข่างอ ย่อตัว หรือนั่งขดคู้ หรือปิดตัวไปมาด้วยความเจ็บปวด
  • Apologetic ขอโทษ  และ Supplicating  ขอร้อง อ้อนวอน
  • - ผงกหัวลงช้า ๆ พร้อมกับเอ่ย คำขอโทษ
  • - ยกมือ ประสานมือแบบกำ หรือพนมมือ กราบ ขอร้องอ้อนวอน
  • - คุกเข่า หรือลดตัวต่ำกว่า จับมือ แขน ไหล่ หรือสัมผัสคู่กรณี พร้อมกับกล่าวคำ ขอโทษ
  • - ใบหน้าสลด เศร้า ก้มหน้า มองต่ำ คิ้วลาดตก ดวงตาเล็กลง ปากมีแนวโน้มคว่ำลง

ในบางกรณี ขอให้ยกโทษให้ ทำตาโตบ๋องแบ๋ว ให้ดูไร้เดียงสา น่าสงสาร เพื่อขอคืนดี หรือให้อภัย หายโกรธเคือง

หมายเลขบันทึก: 665278เขียนเมื่อ 10 สิงหาคม 2019 12:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 สิงหาคม 2019 12:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท