ถอดบทเรียนครับ
1.ความมั่นคงในศรัทธาต่อองค์หลวงปู่
2.การยึดเอาปฏิปทาที่งดงามของหลวงปู่มาใช้ในชีวิต
3.ความมั่นในพระรัตนตรัย
4.จิตมีกำลังและสิ่งใดปรากฏในใจ
#ถอดบทเรียนการทำโจทย์ของเเม่ครูต่อเรื่องราวนี้ครับ
1.จากการเฝ้าดู ร่วมภารกิจ เเละจนมาถึงตอนนี้ ไม่มีคำว่าหยุดพัก แม่ครูทำโจทย์เต็มกำลัง ผ่านเรื่องราวมากมายเเละปริศนาธรรมที่ได้รับมอบมา ไม่มีสิ่งอื่นนอกจากความศรัทธาต่อองค์หลวงปู่ เฉียบคมไม่หวั่นไหว งดงามในความมั่น งามเบื้องต้นในการน้อมรับเเละลงใจในการมีคู่ งามท่ามกลางในการใช้ปัญญา งามในที่สุดในการความอ่อนโยนต่อทุกชีวิตที่เข้ามาสัมพันธ์กับภารกิจนี้ วิชได้อยู่ ได้เห็น ได้สัมผัส ขอกราบขอบพระคุณเเม่ครูครับ
2.ปฏิปทาที่ยังคงซาบซึ้ง “หลวงปู่เอาเบิ่ดทุกคน”และเเม่ครูทำให้รู้สึกเข้าไปในใจลึกขึ้นอีกว่าการศรัทธาไม่ได้ตื้นเเค่การกราบไหว้ หรือการเข้าไปใกล้ชิด เเต่คือการยึดถือความดีงาม ความเพียร ความอดทน ความเมตตาขององค์หลวงปู่ เเล้วน้อมเข้ามาใส่ใจ ใส่เข้าไปในใจ ใจงาม มั่นคง เเละนุ่มนวล
3.ความมั่นพระรัตนตรัยอยู่เหนือต้องการส่วนตัวอย่างไร การทำโจทย์ครั้งนี้สะท้อนได้หมดทุกมุมมอง การรั้งตนต่อโลก เพื่อค้ำจุ้นพระรัตนตรัย เพื่อลากหอบทุกชีวิตให้ได้มากที่สุด เป็นการเสียสละที่นุ่มนวล ยิ่งใหญ่ เป็นกระรอกน้อยที่วิดน้ำอย่างพากเพียร ด้วยใจนุ่มนวล แข็งแกร่ง ไม่หวาดหวั่นเเม้ความตายยืนตรงหน้า เป็นความกล้าหาญที่อ่อนโยน ทั้งหมดเพื่อค้ำพระรัตนตรัยให้คงอยู่
4.การเรียนรู้ของวิช
ครั้งนี้เป็นงานของใจวิช มีมิตรสหายเป็นกิเลสหลายรูปแบบ อยากถอดใจวันละหลายรอบ พร่ำบ่นกับตนเองเสมอว่าทำไมต้องเป็นเราหนอที่ต้องมาทำอะไรฝืนใจ ให้ลำบากกายลำบากใจ ทำไมไม่ได้ไปเที่ยวเล่น จนเมื่อถึงวันที่ภาระกิจลุล่วง ใจก็ไม่ได้คำตอบอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน รู้เเค่ตนเองดีใจ มันปลาบปลื้มในความอดทน ไม่สามารถบอกได้ว่าตนเองอดทนมากหรือน้อย ดีงามหรือไม่ เเต่ดีใจเหลือเกินที่ยังยืนอยู่ตรงนี้ เพิ่งพอเข้าใจในประโยคเดิมที่แม่ครูหยอกล้อ “จิตมีกำลัง” ครั้งนั้นเมื่อภารกิจสิ้นสุด คำนี้มีนิยามของใจที่ต่างออกไป จิตไม่ได้มีกำลัง ไปเห็นเทวดา ไปสวรรค์ ไปทำเรื่องโน่นนี่ จิตมีกำลังที่เเท้นั้น คือใจที่มีกำลังต่อสู้กับกิเลสเจ้าของ ใจที่ทำสิ่งที่ไม่อยากทำ ใจที่ไม่ทำสิ่งที่อยากทำ ที่ทำมาทั้งหมด ผ่านมา ย้อนกลับไปมองเเล้วได้กำลังใจ นี่คือความหมาย “จิตมีกำลัง “ “ใจมีกำลัง” “กำลังใจ”
เมื่อกำลังพิมพ์ข้อความนี้ ในสถานการณ์ที่เหนื่อยอ่อน ปรากฏในใจเป็นคำถามต่อตนเอง “ศรัทธามันหมดละบ่” และพบว่าใจเต็มตื้นเเละปิติที่จะตอบว่ายังไม่หมด จะเหนื่อยอ่อนกว่านี้ก็จะไม่มีวันหมด ทุกครั้งที่ไปกราบหลวงปู่ กราบสามครั้ง พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ชีวิตังเมปูเชมิ ทราบความหมายต่อตนเองเหมือนที่เคยผ่าน คือการยกชีวิตให้พระรัตนตรัย เคยอธิษฐานถวายชีวิต เเละใช้ชีวิตเจ้าของค้ำศาสนาไว้แล้ว เเละเมื่อใจปรากฏความเหนื่อยล้า วันนี้คิดได้ว่า “นี่เเหละคือความหมายของคำสัญญา” ถวายแล้ว ยกชีวิตให้เเล้ว จะไม่เป็นผู้ฉ้อฉลต่อสัจจะของตนเอง หลวงปู่มีงานที่องค์ท่านยังคงรอคอยอย่างโดดเดี่ยว อาจารย์หรือใครก็ตามที่จะเข้ามาช่วยได้ ให้งานสำเร็จ เราควรซัพพอร์ต เรานามสกุล ช่วยเอื้อ 555 เเละความหมายคือซัพพอร์ต นี่คืองานของใจ ภารกิจที่เราได้ลั่นสัจจะไว้เเล้ว คือการค้ำพระพุทธศาสนา “ให้รีบปฏิบัติเอา เราจะค้ำจุนใครได้อย่างไรบนความเห็นผิด “ เย้ !!
กราบขอบพระคุณเเม่ครูครับ
ไม่มีความเห็น