การวางแผน(Planning) เป็นหน้าที่หลักประการที่ 1 ของผู้บริหารองค์การ ที่ต้องมีการวางแผนเพื่อมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ (Result-based Management) โดยใช้หลักการวางแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการ ดังนี้
1) กำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์ (Strategic direction) โดยกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) พันธกิจ(Mission)
จุดมุ่งหมาย(Goal) เป้าประสงค์(Purpose) นโยบาย(Policy)
หรือค่านิยม (Core Value)
) การวิเคราะห์องค์กร (Environmental Scanning)
วิเคราะห์ปัจจัยภายในเพื่อหาจุดแข็ง (Strenght) จุดอ่อน (Weakness)และปัจจัยภายนอกเพื่อหาโอกาส (Opportunity) และข้อจำกัด (Treat)พร้อมให้คะแนนถ่วงดุลน้ำหนักของปัจจัยแต่ละด้าน
3
) การสร้างกลยุทธ์ (Strategic Formulation)
นำค่าคะแนนของปัจจัยภายนอกและภายในมาพิจารณากลยุทธ์ระดับองค์การ
(Corporate strategy) ว่าจะเติบโต
คงตัวหรือหดตัว แล้วนำข้อมูลมาใส่ในตารางสร้างกลยุทธ์หรือSWOT Matrix เพื่อสร้างกลยุทธ์ระดับธุรกิจ (Business Strategy)
) การนำกลยุทธ์ลงไปปฏิบัติ
(Strategic Implementation)
นำกลยุทธ์ที่ได้มาแปลงสู่แผนปฏิบัติการ (Operation
plan) โดยใช้ Balance Scorecard
(BSC)
โดยการสร้างแผนที่กลยุทธ์หรือผังกลยุทธ์หลัก (Strategic Map) ตามความสัมพันธ์ทั้ง 4 มุมมอง
แล้วจัดทำเป็นผังกลยุทธ์ย่อย (Scorecard
Sheets) ตามกลุ่มภารกิจหลัก (Key Result
Area : KRA) ที่กำหนดไว้
จัดทำวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ (Strategic
objectives) ตัวชี้วัดหลัก(Key performance
Indicators :
KPIs)และแผนงาน(Programs)โครงการ(Projects)
นำมาเขียนเป็นแผนปฏิบัติการทั้งงานประจำ(Routine
Activities)และงานโครงการที่กำหนดรายละเอียดการปฏิบัติ
ปัจจัยนำเข้าที่ใช้
ระยะเวลาในรูปแบบของงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์(Performance-based Budgeting System : PBBS)
5) การประเมินควบคุมติดตามกลยุทธ์ (Strategic Control & Evaluation) พิจารณาจากลุ่มภารกิจหลัก (KRA) ตัวชี้วัดระดับองค์การ ตัวชี้วัดระดับแผนก ตัวชี้วัดกิจกรรมที่สอดคล้องกัน
ในการวางแผนกลยุทธ์นั้น
สิ่งสำคัญคือต้องให้หัวหน้างานทุกระดับเข้ามามีส่วนร่วมพร้อมกับนำข้อมูลที่มีในด้านต่างๆเข้ามาร่วมประชุมด้วย
เพื่อจะได้วิเคราะห์องค์การอย่างเหมาะสม
ไม่ใช่นั่งเทียนหรือนั่งทางในเอา
แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
เสนอสูตรแห่งความสำเร็จของบริษัท สูตร 4+2 คือมีพฤติกรรมหลัก 4 อย่าง
และพฤติกรรมรอง 2 อย่าง ดังนี้
พฤติกรรมหลัก 4 อย่างคือ
1. วางกลยุทธ์ยอดเยี่ยม
2. เอากลยุทธ์ออกปฏิบัติอย่างได้ผล
3. สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งหวังผลสูงมีคุณภาพ
4. มีโครงสร้างองค์กรที่เรียบง่าย
พฤติกรรมรอง 2 เลือกจาก
1.
มีคนเก่งมีพรสวรรค์อยู่แทบทุกกลุ่มงาน
2.หัวหน้างานทุกระดับมีลักษณะผู้นำ
3. มีการใช้นวัตกรรมใหม่ๆในการทำงาน
4.
รู้จักใช้เทคนิคในการขยายกิจการโดยการควบกิจการหรือหาหุ้นส่วนใหม่ๆมาร่วม
ดังนั้น
การวางแผนกลยุทธ์จึงต้องทำให้ครบวงจรภายใต้การกำหนดทิศทางและการวิเคราะห์องค์การอย่างเหมาะสม
มีการสร้างกลยุทธ์ที่ดี
มีการนำกลยุทธ์ลงไปปฏิบัติอย่างเหมาะสมและควบคุมติดตามกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง