วิจัยและ KM ต้องเปิดใจกว้าง


พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของ KM กับ Mindset และ Transformation มีอาจารย์ในมหา’ลัยแห่งหนึ่งบอกว่ามั่วและเพ้อเจ้อ 

#เสนอหัวข้อวิจัย

#เรื่องเล่าในครอบครัว

#วิถีบล็อคความคิดสร้างสรรค์ให้ตายสนิท

#การศึกษาระดับบัณฑิตวิทยาลัย

สะท้อนคิดอาจารย์ที่สอนวิจัยและ KM ต้องเปิดใจกว้างขวางและนำพาเด็กนักศึกษาก้าวไปสู่การคิดที่หลากหลาย ต้องไม่ทำลายจินตนาการของใคร และพิสูจน์ความคิดว่าสิ่งที่สงสัยนั้นใช้ได้หรือไม่ได้ด้วยการทำวิจัยหรือทดลองปฏิบัติ ต้องไม่ตัดสินและบล็อกความคิดว่า “ทำไม่ได้ หรือเป็นไปไม่ได้”


คำสำคัญ (Tags): #km#r2r
หมายเลขบันทึก: 657055เขียนเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2018 20:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2018 20:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

It is the same for every ‘new study’. People will react in 3 ways: for, against and don’t care (most). Then some benefits will appear in some applications. Then some ‘scientific scrutiny’ (rigorous reviews) will confirm or deny the bases of the new study. After that some people will be followers, some critics, and most still don’t care.

;-)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท