ย้อนเวลาไป 30 ปี ที่ผ่านมาโดยประมาณ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2532 จังหวัดชุมพรประสบปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ในอำเภอเมืองชุมพร อำเภอปะทิว และอำเภอท่าแซะ จากพายุไต้ฝุ่นเกย์ ทำให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือน ทรัพย์สิน ไร่นา รวมทั้งชีวิตของประชาชนชาวจังหวัดชุมพรเป็นอย่างมาก
เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระองค์ได้พระราชทานแนวทางแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้แก่ชาวจังหวัดชุมพร โดยการขุดคลองเพื่อช่วยให้น้ำระบายออกจากแม่น้ำท่าตะเภา ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดชุมพร จากจุดบ้านหัววัง ตำบลบางลึก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ลงสู่ทะเลบริเวณอ่าวพนังตัก ตำบลนาชะอัง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ระยะทางทั้งหมดประมาณ 8.1 กิโลเมตร โดยเริ่มทำการขุดคลองในปี 2536 ต่อเนื่องกันมาหลายปี ก็ยังไม่เสร็จตามพระราชประสงค์ เนื่องจากต้องเจอปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ มากมาย และยังเหลือระยะทางที่ยังขุดไม่เสร็จอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร
ในวันที่ 18-22 สิงหาคม 2540 จังหวัดชุมพรต้องประสบปัญหากับอิทธิพลของพายุโซนร้อนซีต้า ที่ขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้มีฝนตกหนัก และเกิดน้ำท่วมฉับพลันในจังหวัดชุมพร บางพื้นที่น้ำสูงมากกว่า 2 เมตร สัตว์เลี้ยงต่าง ๆ เช่น หมู วัว ควาย สุนัข ที่หนีน้ำไม่ทันก็ต้องจมน้ำตาย หรือลอยไปกับน้ำอย่างไม่รู้ชะตากรรม น่าสงสารมาก ชาวบ้านต้องอาศัยอยู่บนหลังคาบ้านก็มี นับเป็นความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวจังหวัดชุมพร รวมมูลค่ามหาศาล น่าเวทนาเป็นยิ่งนัก
ต่อมาไม่นานในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน ได้มีพายุลินดา ซึ่งเป็นพายุที่มีลักษณะก่อตัวเหมือนพายุไต้ฝุ่นเกย์ ที่เข้าฝั่งที่จังหวัดชุมพรเมื่อ 8 ปี (ในปี 2532) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่รุนแรงมากที่จังหวัดชุมพรได้ประสบ และเมื่อกรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์ว่าจะมีความรุนแรงใกล้เคียงกันกับพายุไต้ฝุ่นเกย์ และจะขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดชุมพร ทำให้พี่น้องชาวจังหวัดชุมพรตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
เมื่อความทราบถึงพระเนตรพระกรรณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระองค์ทรงห่วงใยถึงความเดือดร้อนของประชาชนชาวจังหวัดชุมพร และได้โปรดเกล้าฯ ให้จังหวัดชุมพรเร่งการขุดคลองหัววัง – พนังตัก ในส่วนที่ยังมีอุปสรรคโดยการพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 800,000 บาท ให้ดำเนินการจนสามารถขุดคลองสำเร็จ ในคืนวันที่ 2 พฤศจิกายน 2540 ก่อนที่พายุใต้ฝุ่นลินดาจะเข้าฝั่งเพียง 1 วัน เท่านั้นทำให้น้ำไม่ท่วมจังหวัดชุมพร เหมือนที่ผ่านมา เมื่อพายุเข้าฝั่ง ได้ปล่อยน้ำจากประตูน้ำราชประชานุเคราะห์ 1 ระบายน้ำออกจากหนองใหญ่ ลงทะเลผ่านคลองหัววัง-พนังตัก น้ำจึงไม่ท่วมตัวเมืองชุมพรและพื้นที่ใกล้เคียง ตั้งแต่วันนั้นจนตราบถึงทุกวันนี้ นอกจากพระองค์ทรงห่วงใยราษฎรชาวชุมพรเรื่องปัญหาอุทกภัยแล้ว แสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถด้านภูมิศาสตร์ของจังหวัดชุมพรอย่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2541 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานเปิด “โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริจังหวัดชุมพร” ทรงทอดพระเนตรและติดตามงานการขุดคลองหัววัง-พนังตัก ขณะที่ขบวนเสด็จบนสะพานอาภากร ถนนสายชุมพร – หาดทุ่งวัวแล่น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับสั่งว่า “น่าจะจัดการแข่งขันเรือบริเวณนี้ เพราะมีคันคลองเป็นชั้นเหมือนอัฒจันทร์”
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน จังหวัดชุมพรได้จัดให้มีการแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธงติดต่อกันมาตลอด ยกเว้นปี 2559 ที่เป็นปีมหาวิปโยคที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรเสด็จสวรรคต ที่ไม่ได้จัดแข่งขันเรือลักษณะงานรื่นเริง แต่จัดงานในรูปแบบนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน สำหรับในปีนี้ เป็นการจัดงานครบรอบ 20 ปี ซึ่งได้กำหนดจัดงานในวันที่ 13 – 16 กันยายน 2561 ณ คลองหัววัง – พนังตัก ต.นาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา เพื่อแสดงออกถึงการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่มีต่อประชาชนชาวจังหวัดชุมพรอย่างหาที่สุดมิได้
การแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธง ของจังหวัดชุมพรมีลักษณะพิเศษกว่าการแข่งขันเรือยาวทั่ว ๆ ไป ตรงที่เมื่อใกล้จะถึงเส้นชัย นายหัวเรือ จะต้องไต่ขึ้นไปบนโขนเรือซึ่งต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ เพื่อดึงธง ณ จุดเส้นชัย โดยที่นายหัวเรือไม่ตกน้ำ หากฝ่ายใดขึ้นโขนเรือและดึงธงได้ก่อนและไม่ตกน้ำถือว่าเป็นฝ่ายชนะ การแข่งขันเรือยาวเป็นกีฬาทางน้ำที่แสดงถึงความสามัคคีกลมเกลียวของทีม ต้องมีความอดทน เพราะกว่าจะลงแข่งได้ฝีพายจะต้องหมั่นฝึกซ้อมพายเรือให้มีความพร้อมเพรียงกัน ซึ่งต้องใช้เวลาหลายเดือนทีเดียว
สำหรับในปีนี้ การจัดงานสิ้นสุดไปด้วยดีอีกครั้งหนึ่งด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ทุกคนล้วนสำนึกในพระเมตตาบารมีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ดังคำกล่าวที่ว่า “ด้วยพระเมตตาบารมี ชุมพรวันนี้สุขร่มเย็น”
ตามมาชมบรรยากาศของการจัดงานกันค่ะ
ถ้วยรางวัลพระราชทาน
นายหัวเรือกำลังขึ้นโขนเรือเพื่อเข้าจุดเส้นชัย
เมื่อใกล้ถึงจุดเส้นชัย (โป๊ะกลางน้ำ) นายหัวเรือ จะทำหน้าที่ขึ้นโขนเรือ เพื่อช่วงชิงธงที่ผูกติดกับหวาย แล้วสอดเข้าไปในท่อเล็ก ๆ ให้ธงโผล่ออกไปทั้ง 2 ฝ่าย เป็นความสามารถเฉพาะบุคคลจริง ๆ
บรรยากาศอีกมุมหนึ่ง
บริเวณโป๊ะเรือ จุดเข้าเส้นชัยที่เรือทุกลำ หวังที่จะช่วงชิงชัยชนะ สังเกตว่าจะมีธงสีแดงอยู่ด้านข้างปลายท่อด้านหน้าทั้งสองข้าง จุดนี้ที่นายหัวเรือจะต้องแข่งขันกัน ใครดึงธงได้ก่อนถือเป็นฝ่ายชนะ
หน่วยรักษาความปลอดภัยทางน้ำ เมื่อมีเหตุฉุกเฉินทางน้ำ จะได้ช่วยเหลือกันทันเหตุการณ์
ภาพชัด ๆ เมื่อเรือเข้าเส้นชัย นายหัวเรือจะทำหน้าที่ขึ้นโขนและชิงธง นับเป็นผู้มีความสามารถจริง ๆ ภาพนี้ต้องขอขอบคุณช่างภาพที่ถ่ายภาพออกมาได้อย่างสวยงาม
ไม่มีความเห็น