การก้าวสู่มืออาชีพ
Turning Pro
พันเอก มารวย ส่งทานินทร์
[email protected]
25 มิถุนายน 2561
บทความเรื่อง การก้าวสู่มืออาชีพ นำมาจากหนังสือเรื่อง Turning Pro ประพันธ์โดย Steven Pressfield จัดพิมพ์โดย Black Irish Entertainment LLC; May 31, 2012
ผู้ที่สนใจเอกสารนี้ PowerPOint (PDF file) สามารถ Download ได้ที่ https://www.slideshare.net/maruay/turning-pro-102857232
เกี่ยวกับผู้ประพันธ์
-
Steven Pressfield เป็นผู้ประพันธ์ที่มีชื่อเสียงในการเขียนนวนิยายและสารคดี
-
Turning Pro เป็นคู่มือซึ่งจะช่วยให้คุณก้าวไปอีกขั้น ตามที่ Steve กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะสร้างความแตกต่างว่า “ผมเขียนไว้ในหนังสือ The War of Art ที่ผมแบ่งชีวิตของผมออกเป็นสองส่วน คือ ก่อนและหลังที่จะเป็นมืออาชีพ ผมว่าอย่างหลังดีกว่า”
เกริ่นนำ
- มีหลายวิธีในการสร้างพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ ซึ่งหมายถึงความพยายามที่จะเติมเต็มศักยภาพของเรา
- ในทางวิทยาศาสตร์ มีรูปแบบการรักษาโรคหรือเงื่อนไขบางอย่างที่ต้องได้รับการเยียวยา และทางศาสนามีรูปแบบทางจริยธรรม ซึ่งบอกว่าเราต้องชดใช้สำหรับความผิดของเรา
- Pressfield เสนอวิธีที่สามคือ เป็นมือสมัครเล่นหรือเป็นมืออาชีพ
การก้าวสู่มืออาชีพ (Turning Pro)
- หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
- ส่วนแรก อธิบายการเสพติดในนิสัยที่ไม่ดีของมือสมัครเล่น
- ส่วนที่สอง ทำให้เห็นภาพว่า มืออาชีพและมือสมัครเล่นต่างกันอย่างไร
- ส่วนที่สาม เกี่ยวกับการเพาะบ่มความเป็นมืออาชีพ
สามบทเรียนที่จะช่วยคุณในการก้าวสู่มืออาชีพ
- 1. ลักษณะเฉพาะของมือสมัครเล่นคือ กลัวความเป็นตัวของตัวเอง และกลัวถูกปฏิเสธ
- 2. อุปสรรคสำคัญสำหรับมือสมัครเล่นคือ การวิ่งตามผู้รู้ หรือผู้เชี่ยวชาญ
- 3. เมื่อคุณฝึกปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ในการทำงานของคุณและไม่มีอะไรอื่น นั่นแหละคุณกำลังก้าวสู่มืออาชีพ
บทเรียนที่ 1: มือสมัครเล่นกลัวความเป็นตัวตนที่แท้จริง และผลที่จะตามมา
- ไม่มีใครเกิดมาเป็นมืออาชีพ
- เราทุกคนเริ่มจากเป็นมือสมัครเล่น ที่เสพติดอยู่ใน ‘ร่มเงาของอาชีพ (shadow careers)' ซึ่งเราเป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะขาดความกล้า ที่จะไล่ล่าตามความต้องการที่แท้จริงของเรา
-
"ความกลัวคือแก่นหลักของมือสมัครเล่น ได้แก่กลัวความล้มเหลว กลัวความสำเร็จ กลัวความโง่เขลา กลัวความยากจน กลัวความเหงา กลัวความตาย แต่ความกลัวที่ยิ่งใหญ่ของมือสมัครเล่นคือ การถูกแยกจากชนเผ่า (being excluded from the tribe) ได้แก่ กลุ่ม พรรคพวก แม่และพ่อ ครอบครัว เชื้อชาติ ศาสนา ฯลฯ มือสมัครเล่นกลัวว่า ถ้าเขาหันมาเป็นมืออาชีพ และมีชีวิตตามที่เขาต้องการ เขาจะต้องอยู่กับความเป็นตัวตนของเขาจริงๆ และถ้าชนเผ่าค้นพบว่าเขาเป็นใคร เขาจะถูกขับออกไป และไม่มีใครสมาคมด้วย"
- คนส่วนใหญ่ ไม่เคยออกจากความกลัวที่ปราศจากเหตุผล
- ผู้คนจะกดดันคุณ เมื่อคุณ "แยกออกจากกลุ่ม (go rogue)" แต่คุณก็จะได้พบกับคนอื่น ๆ ที่ค้นพบตัวเองด้วย
- อย่างไรก็ตาม สำหรับบางคนที่ออกจากเปลือกหอยของความกลัว แต่ก็ยังคงมีสิ่งกีดขวางอื่น ๆ รออยู่
บทเรียนที่ 2: อุปสรรคที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับมือสมัครเล่น คือพยายามที่จะเอาใจผู้รู้ พี่เลี้ยง ผู้เชี่ยวชาญ และครูผู้สอน
-
"เมื่อผลงานของผมได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งแรก ผมก็หันไปปรึกษากับผู้รู้ที่ผมเคยอ่านผลงานของเขา นี่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตามธรรมชาติ แต่ก็เป็นอันตราย เพราะคุณเพิ่งผจญภัยสู่ดินแดนใหม่ที่ไม่เคยรู้และน่ากลัว ซึ่งคุณก็รู้ว่าไม่มีเส้นทางที่ชัดเจน ดังนั้น คุณจะเชื่อทุกคำพูดของคนที่บอกกับคุณ"
- ไม่มีอะไรผิดพลาดกับการฟังคำแนะนำจากมืออาชีพ แต่การยึดมั่นในครู ที่ปรึกษา แม้กระทั่งคู่สมรส ที่เป็นไอคอน จะทำให้เราสูญพลังไป
- เช่นเดียวกับการเป็นนักร้องที่รอการค้นพบ บล็อกเกอร์ที่หวังว่าโพสต์จะเป็นไวรัส นักว่ายน้ำที่หวังว่าจะได้รับการยอมรับจากโค้ช เรื่องทั้งหมดเหล่านี้ เป็นสิ่งที่คุณจะต้องพบ ในการทำงานด้วยวิธีการของคุณเอง
- ความเป็นอัจฉริยะของพี่เลี้ยงจะไม่ไปด้วยกับคุณ คุณต้อง เลือกตัวเอง (choose yourself) ตามคำพูดของ Steve คือ "จากประสบการณ์ของผม เมื่อเราแสดงให้เห็นถึงคุณภาพหรือคุณธรรมกับคนอื่นได้ แสดงว่าเราเองมีคุณภาพอยู่แล้ว แต่เรากลัวที่จะยอมรับ (และมีชีวิตอยู่) กับความจริงนั้น"
- ช่วงเวลาที่คุณดึงพลังในตัวของคุณกลับมาได้ มนต์วิเศษได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
บทเรียนที่ 3: การฝึกปฏิบัติ (practice) เพื่อประโยชน์ในการทำงาน แสดงถึงความเป็นมืออาชีพที่แท้จริง
-
Steve ได้รับการตีพิมพ์หนังสือเล่มแรกของเขาเมื่อตอนอายุ 52 ปี แม้ว่าเขาจะเขียนนิยายมาตั้งแต่อายุยี่สิบกว่า คุณคิดว่าคนที่มีเหตุผลคงล้มเลิกไปแล้ว แต่มืออาชีพจะต้องบังคับตัวเองในการทำงาน ในขอบเขตที่นอกเหนือจากเหตุผล เพราะ Steve และมืออาชีพคนอื่น ๆ ยินดีทำในสิ่งที่ตนเองชอบ ประหนึ่งว่าเขาจะไม่ทำอะไรอื่นอีก
-
“สุดท้าย ผมตระหนักว่าผมไม่มีทางเลือก ผมไม่สามารถทำอะไรอื่นได้อีก (นอกจากการเขียนหนังสือ) ผมพบกับความหดหู่ จนผมไม่สามารถยืนได้ เมื่อผมเขียนนวนิยายหรือบทภาพยนตร์ที่ผมไม่สามารถขายได้ ผมก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเขียนใหม่อีก ความจริงก็คือ ผมกำลังสนุกกับตัวเอง อาจจะไม่มีใครชอบสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ แต่ผมชอบ ผมได้เรียนรู้ ผมทำได้ดีขึ้น “
- เมื่อถึงจุดนี้ งานของคุณจะกลายเป็น การฝึกปฏิบัติ (practice) เป็นพิธีกรรมที่ทำด้วยตนเอง ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลใด ๆ
-
Steve กล่าวว่า "เป็นกฎระเบียบที่เข้มงวด โดยมีเจตนาที่จะยกระดับจิตใจและจิตวิญญาณ ให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้น"
- ดังนั้น การฝึกปฏิบัติแต่ละครั้ง จึงอาศัยเวลา สถานที่ และเจตนา เป็นกิจวัตรที่เรียบง่ายและสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้งานออกมามีคุณภาพ
การฝึกปฏิบัติคืออะไร?
- การฝึกปฏิบัติ คือการปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดอย่างเข้มงวด โดยมีเจตนาที่จะยกระดับจิตใจและจิตวิญญาณ ให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้น
- การฝึกฝนปฏิบัติ หมายถึงการยึดมั่นในพิธีการ
- การฝึกฝนปฏิบัติอาจหมายถึง การทุ่มเท การใช้ชีวิตประจำวันอย่างมุ่งมั่น และมีเจตนาที่มุ่งเน้น
ลักษณะของการฝึกปฏิบัติ
-
การฝึกปฏิบัติใช้สถานที่ (A practice has a space)
-
การฝึกปฏิบัติใช้เวลา (A practice has a time)
-
การฝึกปฏิบัติมีเจตนา (A practice has an intention)
-
เรามาฝึกปฏิบัติเสมือนนักรบ (We come to a practice as warriors)
-
เรามาฝึกปฏิบัติด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน (We come to a practice in humility)
-
เรามาฝึกปฏิบัติเสมือนเป็นนักเรียน (We come to a practice as students)
-
การฝึกปฏิบัติทำได้ตลอดชีวิต (A practice is lifelong)
มืออาชีพ
- มืออาชีพ เป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต พร้อมเสมอที่จะเรียนรู้ ยินดีเสมอที่จะแสดงตนได้ทุกสภาวะ
- นี่คือผลพวงจากการที่เขาฝึกฝนปฏิบัติตราบเท่าที่เขาต้องการ จนเขามั่นใจในฝีมือของเขาว่าเป็นเลิศ
คุณภาพที่มืออาชีพมี แต่มือสมัครเล่นไม่มี:
-
1. มืออาชีพแสดงตนได้ทุกวัน (The professional shows up every day)
-
2. มืออาชีพอยู่กับงานตลอดทั้งวัน (The professional stays on the job all day)
-
3. มืออาชีพมีความมุ่งมั่นในระยะยาว (The professional is committed over the long haul)
-
4. สำหรับมืออาชีพ มีเดิมพันที่สูงและมีความเป็นความจริง (For the professional, the stakes are high and real Further)
อุปนิสัยของมืออาชีพ
-
มืออาชีพ เป็นผู้มีความอดทน (The professional is patient)
-
มืออาชีพ แสวงหาความเป็นระเบียบ (The professional seeks order)
-
มืออาชีพ ไขความจริง (The professional demystifies)
-
มืออาชีพ กล้าเผชิญกับความกลัว (The professional acts in the face of fear)
-
มืออาชีพ ไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ (The professional accepts no excuses)
-
มืออาชีพ ทำตามกติกา (The professional plays it as it lays)
-
มืออาชีพ เตรียมพร้อมเสมอ (The professional is prepared)
-
มืออาชีพ ไม่อวดเก่ง (The professional does not show off)
-
มืออาชีพ อุทิศตัวเองเพื่อความชำนาญการด้านเทคนิค (The professional dedicates himself to mastering technique)
-
มืออาชีพ ไม่ลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ (The professional does not hesitate to ask for help)
-
มืออาชีพ ไม่ยึดถือความสำเร็จหรือความล้มเหลวว่าเป็นเรื่องส่วนตัว (The professional does not take failure or success personally)
-
มืออาชีพ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่มีเครื่องมือ (The professional does not identify with his or her instrument)
-
มืออาชีพ ทนต่อความยากลำบากได้ (The professional endures adversity)
-
มืออาชีพ ตรวจสอบตัวเอง (The professional self-validates)
-
มืออาชีพ ค้นพบรูปแบบใหม่ของตัวเองได้ (The professional reinvents herself)
-
มืออาชีพ ได้รับการยอมรับจากมืออาชีพคนอื่น ๆ (The professional is recognized by other professionals)
สรุป
-
คุณสามารถแบ่งชีวิตของคุณออกเป็นสองส่วนคือ ก่อนและหลังเป็นมืออาชีพ
-
ทั้งหมดที่คุณต้องทำเพื่อเป็นการก้าวสู่มืออาชีพคือ การตัดสินใจ
-
เมื่อคุณเป็นมืออาชีพแล้ว ชีวิตจะง่ายขึ้น
ข้อคิดสำคัญ
- การเป็นมือสมัครเล่น หมายถึงการติดบ่วงอยู่ในสถานการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตของคุณ และไม่เคยคิดจะก้าวออกมา
- อย่าอยู่ในร่มเงาชีวิต เพราะคุณกลัวที่จะไล่ล่าความฝันของคุณ
- เราทุกคนมีบางส่วนของคนเสพติด และบางส่วนของศิลปิน
- มือสมัครเล่น หนีความกลัว มืออาชีพ มองรอบ ๆ และหันหน้าเข้าหาความกลัว
****************************