โครงการยกระดับคุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียน
แผนงาน วิชาการ
กลยุทธ์ที่ 1 พัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานในระดับสากล
เพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ สื่อสารสองภาษา ล้ำหน้าทางความคิด ผลิตงานอย่าง
สร้างสรรค์ และรับผิดชอบต่อสังคมโลก
สนองมาตรฐานของ สพฐ มาตรฐานที่ 5 ผู้เรียนมีความรู้และทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตร
ตัวบ่งชี้ที่
๕.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยแต่ละกลุ่มสาระเป็นไปตามเกณฑ์
๕.๒ ผลการประเมินสมรรถนะสำคัญตามหลักสูตรเป็นไปตามเกณฑ์
๕.๓ ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนเป็นไปตามเกณฑ์
๕.๔ ผลการทดสอบระดับชาติเป็นไปตามเกณฑ์
ลักษณะโครงการ £ โครงการใหม่ R โครงการต่อเนื่อง
ผู้รับผิดชอบ ฝ่ายบริหารงานวิชาการ
ระยะเวลาดำเนินการ เริ่มต้น 16 พฤษภาคม 2561 สิ้นสุด 28 กุมภาพันธ์ 2562
1. หลักการและเหตุผล
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ.2552-2561) ซึ่งเน้นในการยกระดับคุณภาพผู้เรียนให้เต็มศักยภาพ กลยุทธ์ที่ 1 พัฒนาคุณภาพและ มาตรฐานการศึกษา ทุกระดับตามหลักสูตรและส่งเสริมความสามารถด้านเทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ คณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองได้กำหนด เป้าหมายให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาหลักจากการทดสอบระดับชาติ มีคะแนนเฉลี่ยมากกว่า ร้อยละ 50 และจุดเน้นที่ 3 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน 5 กลุ่มสาระวิชาหลัก เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 5และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กำหนดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5 กลุ่มสาระวิชาหลักให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 3 ซึ่งจากผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2558 ของโรงเรียนขามสะแกแสง พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการประเมินต่ำกว่าระดับประเทศในหลายกลุ่มสาระการเรียนรู้ และในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีเพียงกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยที่เพิ่มขึ้นเกินร้อยละ 3 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 มี 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เพิ่มขึ้นเกินร้อยละ 3 ได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ นอกจากนี้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ 5 วิชาหลักทั้งมัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ยไม่ถึง ร้อยละ 50
โรงเรียนขามสะแกแสง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31 จึงได้ดำเนินการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าว โรงเรียนขามสะแกแสง จึงกำหนดโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ขึ้น
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้น ม.3 และ ม.6 ให้สูงขึ้น ร้อยละ 3 ทุกกลุ่มสาระ
2.2 เพื่อให้นักเรียนโรงเรียนขามสะแกแสง มีความรู้ ประสบการณ์ที่ได้รับจากพัฒนา
คุณภาพการศึกษา มาปรับปรุงและพัฒนาการการเรียนของตนเอง
2.3 เพื่อนำผลการประเมินในระดับโรงเรียนมาเทียบเคียงกับการประเมินผลในระดับชาติ
3. เป้าหมาย
3.1 เชิงปริมาณ
1) นักเรียนชั้น ม.3 และ ม.6 โรงเรียนขามสะแกแสง ร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่สูงขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 3
2) นักเรียนชั้น ม.3 และ ม.6 โรงเรียนขามสะแกแสง ร้อยละ 90 ได้รับความรู้และประสบการณ์ตามวัตถุประสงค์
3. ร้อยละ 50 ของนักเรียนชั้น ม.3 และ ม.6 โรงเรียนขามสะแกแสง มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่สูงขึ้นเมื่อนำมาเทียบเคียงกับการประเมินผลในระดับชาติ
2.2. เชิงคุณภาพ
นักเรียนโรงเรียนขามสะแกแสงมีคุณภาพและศักยภาพตามมาตรฐานสากล และสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในกระบวนการเรียนการสอนให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น
4. เนื้อหา
การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดของสถานศึกษาซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา มีบทบาทหลักในการสนับสนุน ส่งเสริม อำนวยการ ให้โรงเรียนได้ดำเนินการเพื่อพัฒนานักเรียนทุกคนที่ได้เข้าเรียน และจบการศึกษาอย่างมีคุณภาพ และคุณภาพสูงตามเกณฑ์ เป้าหมาย และมาตรฐานของหลักสูตรให้นักเรียนได้พัฒนาเต็มศักยภาพ เป็นรายบุคคลและทุกคน
รศ.ดร.สุพักตร์ พิบูลย์ จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้เสนอแนวคิดในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แนวคิด “Empowerment Approach และ Theory- Driven Approach ไว้น่าสนใจมาก ดังมีรายละเอียดของกระบวนการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พอสรุปได้ดังนี้
ขั้นที่ 1 Taking Stock คือ การตรวจสภาพปัจจุบันเกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหรือผลการประเมินคุณภาพโรงเรียน เพื่อวิเคราะห์ว่าโรงเรียนเรามีคุณภาพมากน้อยเพียงใดเป็น การวิเคราะห์และจัดทำฐานข้อมูล (Baseline) เช่น พิจารณาจากผลการสอบ O-NET, N.T. หรือผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนประจำปีของสถานศึกษา
ขั้นที่ 2 Setting Goal เป็นการกำหนดเป้าหมายความสำเร็จ เป็นต้นว่า ภายในปี 2559 เราต้องมี
1) ผลการประเมินคุณภาพภายในระดับดีมาก
2) กลุ่มสาระการเรียนรู้หลักอย่างน้อยร้อยละ 90 อยู่ในระดับดีมาก
3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยเฉพาะการประเมินO-NET จะต้องเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 3 ของฐานเดิม
ขั้นที่ 3 Developing Strategies and implementing มุ่งพัฒนากลยุทธ์แล้วนำกลยุทธ์สู่การปฏิบัติ ตัวอย่างของกลยุทธ์ เช่น
1) ขับเคลื่อนห้องเรียนคุณภาพ หรือประกันคุณภาพแต่ละรายวิชา แต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้แม้แต่ครูทุกคนต้องตั้งเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพ และดำเนินการยกระดับคุณภาพให้ได้ตามเป้าหมาย ดังนั้นการนิยามว่า “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง ก็คือ ผู้ที่ทำงานสำเร็จใครสามารถทำผลงานปีนี้ได้ดีกว่าปีที่แล้ว เรียกว่า ผู้นำการเปลี่ยนแปลง
2) ปฏิรูปการบริหารจัดการห้องเรียนประจำชั้นกำหนดเกณฑ์ “ห้องประจำชั้น/ ที่ปรึกษาคุณภาพ”
3) บริหารจัดการสถานศึกษาที่เน้นการขับเคลื่อนเชิงทฤษฎีอย่างเป็นระบบตามกรอบหลักวิชา
ขั้นที่ 4 Documenting Progress เป็นขั้นตอนการประเมินรวบรวมเอกสารหลักฐาน ที่แสดงถึงความก้าวหน้าของงานตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ การดำเนินงานแต่ละขั้นตอนเน้น “การมีส่วนร่วม” ของ ครู อาจารย์ ผู้เกี่ยวข้อง ฝ่ายต่าง ๆ เช่น กรรมการสถานศึกษา เครือข่ายผู้ปกครอง สมาคมศิษย์เก่า เป็นต้น
นอกจากนี้ ดร.จันทมา นนทิกร โดยโครงการพัฒนาโรงเรียนเข้มแข็งด้วยการจัดการความรู้ (Healthy School by Knowledge Management) มูลนิธิสถาบันวิจัย และพัฒนาการเรียนรู้ (มสวร.) ได้สังเคราะห์วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practices) เรื่อง การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จาก 16 โรงเรียนดีเด่นแล้วจำแนกเป็นประเด็นหลักเพื่ออธิบายวิธีปฏิบัติ ดังนี้
1. การบริหารจัดการเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีวิธีการดำเนินการ ดังนี้
1.1 การจัดการความรู้เพื่อกำหนดนโยบาย และจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน
1.2 การวิเคราะห์สภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียน
1.3 การกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนากระบวนการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
1.4 การนิเทศภายในแบบกัลยาณมิตร
1.5 การประสานงานกับผู้ปกครองเพื่อเฝ้าระวังและติดตามแก้ไขปัญหา
2. วิธีการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ดำเนินการได้ 3 รูปแบบ คือ
รูปแบบที่ 1 การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนให้สูงขึ้นตามเกณฑ์ที่คาดหวัง มีวิธีการดำเนินการ ดังนี้
1) การปรับเปลี่ยนท่าทีของครูในการจัดการเรียนรู้
2) การกำหนดเกณฑ์ที่คาดหวังและเกณฑ์การประเมินผล
3) การจัดกลุ่มผู้เรียนที่เหมาะสม
4) การกำหนดรูปแบบการพัฒนาการเรียนรู้และการจัดกิจกรรม
รูปแบบที่ 2 การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ
1) การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนพิเศษ
2) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศ
รูปแบบที่ 3 การช่วยเหลือนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การจบหลักสูตร
1) การดูแลใกล้ชิดเพื่อปรับพฤติกรรมและให้โอกาสนักเรียน
2) การเพิ่มพูนผลสัมฤทธิ์เพื่อให้ได้ตามเกณฑ์การจบหลักสูตร
3. การจัดหลักสูตรนอกระบบ
เป็นการจัดหลักสูตรพัฒนาผลสัมฤทธิ์โดยไม่ติดระบบปกติซึ่งอาจใช้นวัตกรรมในการบริหารและดำเนินการ
กล่าวโดยสรุป แนวคิดหลักการในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนนี้ โรงเรียนขามสะแกแสง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31 ต้องวางแผนการขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ เชื่อมประสานกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งภายในโรงเรียนและนอกโรงเรียน ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ บนพื้นฐานสังคมแห่งการเรียนรู้ โดยมีเป้าหมายที่กำหนดอย่างชัดเจน
5. กิจกรรมและการดำเนินการ
รายการ / กิจกรรม |
ระยะเวลา |
ผู้รับผิดชอบ |
ขั้นเตรียมการ ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2561 |
||
1. ประชุมชี้แจงผลการสอบ o-net แก่ครูผู้สอน 2. วิเคราะห์คะแนนย้อนหลัง 3 ปี เพื่อศึกษาและพิจารณาจุดเด่นและจุดควรพัฒนาเป็นรายมาตรฐานและรายสาระ 3. คัดเลือกนักเรียนตามศักยภาพ (เก่ง ปานกลาง อ่อน) 4. จัดทำโครงการยกผลสัมฤทธิ์ |
พฤษภาคม 2561
พฤษภาคม 2561
พฤษภาคม 2561
พฤษภาคม 2561 |
งานวิชาการ
งานวิชาการ/ หัวหน้ากลุ่มสารระฯ
งานวิชาการ/ ครูผู้สอน งานวิชาการ |
ขั้นดำเนินการ ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2561 – เดือนมิถุนายน 2561 |
||
5. ปรับปรุงหลักสูตร
6. เพิ่มสมรรถนะครูด้านการวัดประเมินผล (อบรม/ทบทวน) 7. นิเทศการจัดการเรียนรู้ของครู
8. มอบหมายนโยบายให้ทุกกลุ่มสาระทำโครงการยกผลสัมฤทธิ์ ฯลฯ |
พฤษภาคม - มิถุนายน 2561
พฤษภาคม - มิถุนายน 2561
ตลอดปีการศึกษา 2561
พฤษภาคม 2561
|
งานวิชาการ/ กลุ่มสาระฯ งานวิชาการ/ กลุ่มสาระฯ ฝ่ายบริหาร/ หัวหน้ากลุ่มสาระฯ ฝ่ายบริหาร
|
ขั้นสรุปประเมินผล และรายงาน ระหว่างเดือนมีนาคม - เมษายน 2562 |
||
5. ประเมินผลและสรุปโครงการ 6. รายงานโครงการ |
มีนาคม – เมษายน 2562เมษายน 2562 |
งานวิชาการ งานวิชาการ |
6. งบประมาณ จำนวนเงิน 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน)
ลำดับที่ |
รายการ |
จำนวนที่ใช้ |
ราคา/หน่วย |
จำนวนเงิน |
หมายเหตุ |
1 |
ค่าอาหารเบรก |
100 ชุด |
25 |
2,500 |
|
2 |
ค่าจัดทำเอกสารการประชุม |
100 ชุด |
10 |
1,000 |
|
3 |
ค่าถ่ายเอกสาร |
4,000 แผ่น |
0.50 |
2,000 |
|
4 |
ค่ากระดาษ |
8 ลัง |
500 |
4,000 |
|
5 |
ค่าวัสดุสิ้นเปลืองอื่นๆ |
- |
- |
500 |
|
รวมทั้งสิ้น |
10,000 |
บาท |
7. การประเมินผล
ตัวชี้วัดความสำเร็จ |
วิธีการประเมิน |
เครื่องมือ |
เชิงปริมาณ 1) นักเรียนชั้น ม.3 และ ม.6 โรงเรียนขามสะแกแสง ร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่สูงขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 3 2) นักเรียนชั้น ม.3 และ ม.6 โรงเรียนขามสะแกแสง ร้อยละ 90 ได้รับความรู้และประสบการณ์ตามวัตถุประสงค์ 3. ร้อยละ 50 ของนักเรียนชั้น ม.3 และ ม.6 โรงเรียนขามสะแกแสง มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่สูงขึ้นเมื่อนำมาเทียบเคียงกับการประเมินผลในระดับชาติ
เชิงคุณภาพ นักเรียนโรงเรียนขามสะแกแสงมีคุณภาพและศักยภาพตามมาตรฐานสากล และสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในกระบวนการเรียนการสอนให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น |
สังเกต, ตรวจสอบ
การตรวจสอบ สังเกต สัมภาษณ์ |
แบบสำรวจ
แบบประเมิน |
8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
8.1 นักเรียนชั้น ม.3 และ ม.6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ร้อยละ 3 ทุกกลุ่มสาระ
8.2 นักเรียน มีความรู้ ประสบการณ์ที่ได้รับจากพัฒนาคุณภาพการศึกษา มาปรับปรุงและพัฒนาการการเรียนของตนเอง
8.3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่สูงขึ้นเมื่อนำมาเทียบเคียงกับการประเมินผลในระดับชาติ
เลิศจ้า