ถอดบทเรียนการเรียนการจัดการเรียนการสอน Active Learning เพื่อพัฒนาบัณฑิต
วันที่ 21 มีนาคม 2561 ณ ห้อง 1601 ห้องประชุมพวงผกา
การเรียนการสอนตามสภาพจริง (Authentic learning) โดย ดร.กีรติ กิจธีระวุฒิวงษ์ ภาควิชาการพยาบาลอนามัยชุมชน
ความเป็นมา
วิชาการพยาบาลครอบครัวและชุมชน 1 มีการออกแบบการเรียนการสอน สืบเนื่องจากผลการประเมินการจัดการเรียนในวิชาสร้างเสริมฯ ในปีการศึกษา 2559 คือ การให้นักศึกษาออกไปศึกษาสภาพจริงซึ่งต่อยอดจากวิชามนุษย์กับสิ่งแวดล้อม สถานที่ศึกษาในชุมชนใกล้วิทยาลัย วิชาการพยาบาลครอบครัวและชุมชน 1 มีความซับซ้อนกว่าวิชาสร้างเสริมฯ และมีวัตถุประสงค์รายวิชาเพื่อให้นักศึกษาสามารถนำความรู้มาใช้ในการดูแลครอบครัวได้ การวัดและประเมินการจัดการเรียนในวิชาสร้างเสริมฯ นักศึกษาสามารถนำไปใช้กับการฝึกภาคปฏิบัติได้
วัตถุประสงค์รายวิชา
- มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิด ทฤษฏี หลักการพยาบาลครอบครัวและชุมชนแบบองค์รวม
- สามารถประเมินภาวะสุขภาพและวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสุขภาพครอบครัว คน และชุมชน
- ใช้กระบวนการพยาบาล
- เลือกใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น
การพิจารณาเนื้อหา พิจารณาในรายวิชามีความเหมาะสมในการจัดการเรียน มอบหมายให้นักศึกษาเลือกกรณีศึกษาที่ไม่ไกลจากวิทยาลัย 1 กลุ่มต่อ 1 ครอบครัว
- ใช้ครอบครัวเป็นฐานในการเรียนรู้โดยเป็นครอบครัวที่ได้จากวิชาสร้างเสริม
- สามารถบูรณาการเนื้อหาในหน่วยการเรียนที่เกี่ยวข้อง
- ผลการประเมินโครงการ (เฉลี่ย 4.32 SD 0.59)
- อาจารย์ควรแบ่งกลุ่มให้นักศึกษาในการเรียนสภาพจริงเพราะถ้านักศึกษาเลือกเองอาจประเมินเพื่อน ทำให้ไม่กล้าประเมิน
- ต้องการให้มีการจัดการเรียนแบบนี้อีกในปีหน้า
- การจัดตารางเวลาเรียนในชั่วโมงสภาพจริง ต้องการเวลาครั้งละ 3 ชั่วโมง
- การสังเกตการนำความรู้ไปใช้ในการฝึกปฏิบัติวิชาการพยาบาลครอบครัวและชุมชน 1 นักศึกษามีความเข้าใจและสามารถเรียนรู้ได้เร็ว
- การเตรียมความพร้อมของอาจารย์ ศึกษาคำอธิบายรายวิชา เนื้อหาวิชา เอกสารประกอบสารสอน เนื้อหาทั้งหมด ละเอียดกว่าสรุปเนื้อหา แนะนำหนังสืออ้างอิง ที่ต้องใช้ เตรียมข้อสอบปรนัย 4 ตัวเลือก ชุดพื้นฐาน 2 ชุด ชุดประยุกต์ใช้ 2 ชุด
- ก่อนการสอนอาจารย์ผู้สอนควรศึกษา ศึกษาคำอธิบายรายวิชา เนื้อหาวิชารายบทที่ต้องการให้นักศึกษาได้ความคิดรวบยอด จากนั้นดำเนินการเตรียมเอกสารประกอบการสอนโดยประกอบด้วย เนื้อหาทั้งหมด แนะนำหนังสืออ้างอิง ที่ต้องใช้ เตรียมข้อสอบปรนัย 4 ตัวเลือก ชุดพื้นฐาน 2 ชุด ชุดประยุกต์ใช้ 2 ชุด
- เตรียมสไลด์ เฉลยข้อสอบ อธิบายเหตุผล
- แบ่งกลุ่มผู้เรียนกลุ่มละ 5-6 คน (20 กลุ่ม/อาจารย์ 2 คน) จากเดิม 8-9 คน เพราะนักศึกษาเสนอว่าเด็กเก่งจะไม่ฟังเด็กเรียนอ่อน
- พบนักศึกษา ชี้แจงวิธีการเรียน
- มอบหมายให้นักศึกษาอ่านเอกสาร
- ทำข้อสอบรายเดี่ยว ยังไม่เฉลย เข้ากลุ่มเพื่อช่วยการทำคะแนนให้ได้
- นักศึกษาศึกษาเอกสารที่ครูแจกให้ก่อนเข้าเรียนทุกครั้ง
- ครั้งที่ 1 ทำข้อสอบพื้นฐานรายเดี่ยว (20 นาที) ทำข้อสอบพื้นฐานเป็นกลุ่ม อภิปราย คำตอบ เหตุผล เขียนเหตุผลของคำตอบ ครูเฉลยที่ละข้อ สรุปเนื้อหาของ Concept นั้น ๆ
- ครั้งที่ 2 ทำข้อสอบ ประยุกต์ใช้ครั้งที่ 1 ทำเป็นกลุ่ม (30 นาที) ครูสังเกตการณ์เรียนรู้ ครูเฉลย อภิปราย สรุปเนื้อหา Concept map
- ประเมินผลรายบุคคล และรายกลุ่ม LO 3 ทักษะทางปัญญา LO4 การทำงานเป็นทีม ทักษะการสื่อสาร ข้อสอบจะลดลง นักศึกษาชอบ สนุก ไม่หลับ ได้แสดงความคิดเห็น รู้ว่าถ้าไม่อ่านหนังสือจะทำให้คะแนนน้อย และคะแนนกลุ่มจะน้อยลง อยากให้มีข้อสอบมากกว่านี้ อยากให้อาจารย์แจกข้อสอบก่อนเรียน
- บทบาทผู้สอน ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ค้นคว้าหาความรู้ กิจกรรมหลากหลาย แบ่งปันความรู้ คิด วิเคราะห์ แสดงความคิดเห็น
- บางรุ่น Active ถ้ามีการถกเถียง จะทำให้บรรยากาศสนุก อาจารย์มีเวลาน้อย ไม่ได้พัฒนาข้อสอบ ครูเหนื่อย ต้องใช้เวลามาก ปัญหาคือ นักศึกษาอธิบายเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมตอบคำถามแบบนี้ อาจเขียนไม่เก่ง ข้อสอบรั่ว ต้องออกข้อสอบใหม่ทุกครั้ง ซึ่งจะเหนื่อยมาก () ข้อดี คือเรียนรู้เพื่อนก่อนฝึกงาน การทำงานเป็นทีม
- ดร.ศิริรัชส์ เสนอให้ใช้ข้อสอบอัตนัย ส่งเสริมทักษะการเขียน
- วิธีการเรียน TBL ต่างจาก Group process learning อย่างไร (ดร.ศิริรัชส์) ตอบ เพราะกระบวนการเหมือนกัน แต่ตัวขับเคลื่อนกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ต่างกัน คือ TBL ใช้ข้อสอบ Group process คือการใช้เนื้อหา
- ดร.ดวงพร สรุปว่าควรจัดกลุ่ม 5-6 คน นักศึกษาต้องมีความรับผิดชอบ
- ดร.ดวงพร การเรียนจิ๊กซอว์ ต่างจาก TBL คือทุกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญ ต้องยอมรับความคิดเห็นทุกคน นักศึกษาบางคนไม่ชอบ คือไม่ชอบคิด เถียงเพื่อนไม่ทัน อยากได้ความรู้จากอาจารย์มากกว่า
- วิชาทฤษฏีและปฏิบัติปัญหา 2 ปี 3 แบ่ง 7-8 คนต่อกลุ่ม (10 กลุ่ม/sec) นักศึกษา ครู นำเสนอประวัติ/ ข้อมูลกรณีศึกษา ในภาคปฏิบัติแจกโจทย์ตามคนไข้บน ward เช่น โรคมะเร็ง กลุ่มที่ได้ไปเตรียมนำเสนอ เพื่อนซักถาม และมอบหมายให้ไปอ่านทฤษฏีมา ถ้าเจ้าของคนไข้ตอบไม่ได้ ก็จะสืบค้นต่อที่ชาร์ทคนไข้และซักถามคนไข้โดยตรง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ช่วง Pre หรือ Post conference
- ผู้เรียนซักถาม เพิ่มเติมกรณีตัวอย่าง
- ผู้เรียนอภิปราย
- ประเด็นคำถามเพื่อหาคำตอบ
- ผู้สอนและผู้เรียนอภิปรายเกี่ยวกับปัญหาและวิธีการ แก้ปัญหา สรุปการเรียนรู้ที่ได้รับ
- ผู้สอนประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน ประเมินจากการมีส่วนร่วม การถามตอบ แสดงความคิดเห็นLO2 และ LO 3 การคิดวิเคราะห์ ข้อสอบสถานการณ์
- ข้อดี นักศึกษาจำได้ เข้าใจมากขึ้นเพราะได้เห็นตัวอย่างจริง
- กรณีศึกษาช่วยทำให้การเรียนบรรยายน่าสนใจ active learning นิยามว่าอย่างไร (ดร.ศิริรัชส์)
- อ.ยุคนธรให้ความเห็นว่านักศึกษาชอบนำเสนอ เพราะเตรียมตัวมาอย่างดี ต้องการนำเสนอให้เพื่อนทราบ
- อ.ยุคนธร ต้องการบูรณาการวิจัยกับการเรียนการสอน โดยแบ่งกลุ่มให้นักศึกษาตาม GPA จำนวน9-10 กลุ่ม ให้สืบค้นเป็นการวิจัย SR ตามคำสำคัญ ปัญหาคือ ต้องค้นไม่ซ้ำกัน เด็กเครียด แต่สนุกดี ดร.ศิริรัชส์สนับสนุนเพราะเป็น LO 5 อ.ยุคนธรมีปัญหาเรื่องต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ปี เพื่อประเมินเป็นการบูรณาการแต่ละปี จะเก็บข้อมูลวิจัยจากคนไข้เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก
- เครื่องมือ ใบงานกรณีศึกษา ใบประเมินการวิเคราะห์กรณีศึกษา การสอบ
- ผลการประเมินพัฒนา TQF 5 ด้าน พัฒนาทักษะการเรียนรู้ศตวรรษที่ 21 (คิดวิเคราะห์ การสื่อสาร อย่างมีประสิทธิภาพ)
- นำสู่การพัฒนาอัตลักษณ์บัณฑิต (SAP โดยการเลือก A การคิดวิเคราะห์)
- เตรียมตัวอย่างไรในปีหน้า (ดร.กีรติ) ตอบ วิชาชีวเคมี ปรับหลักสูตรชั่วโมงทฤษฎีลดลงแต่เนื้อหาสาระคงเดิม เวลาน้อยจะจัดยากขึ้น แต่จะนำ Active learning ไปใช้ในชั่วโมงทดลองโดยดูความสัมพันธ์เนื้อหาภาคทฤษฎีกับภาคทดลองให้เชื่อมโยงกัน วิชาชีวเคมี ยังไม่มีใครรับช่วงต่อ ซึ่ง ดร.ศิริรัชส์ อินสุข ยินดีที่จะถ่ายดอนประสบการณ์ให้ และเมื่อเกษียณอายุราชการไปแล้ว มีบางสถาบันที่เชิญสอนเป็นอาจารย์พิเศษอยู่ สอนมานานมาก คือ วพบ. ชัยนาท วพบ. สุพรรณ และ วสส.พล.เชิญสอนสม่ำเสมอ และยินดีหาก วพ.บ.พุทธชินราช จะเชิญสอนต่อไป สำหรับวิชาอารยธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นส่งมอบต่อ อ.ศักดา ตามนโยบายของงวิทยาลัยพยาบาลฯ
- ข้อสอบประเมินผลรายบุคคล
- แบบประเมินรายกลุ่ม LO 3 ทักษะทางปัญญา
- แบบประเมิน LO4 การทำงานเป็นทีม ทักษะการสื่อสาร
- ประเมินจากการมีส่วนร่วม การถามตอบ แสดงความคิดเห็น LO2 และ LO 3 การคิดวิเคราะห์
- ข้อสอบสถานการณ์
- Peer Evaluation
- Pre-test Post-test Kahoot
- การสังเกต
- พัฒนาสมรรถนะนักศึกษาตามเกณฑ์มาตรฐาน TQF ทั้ง 5 ด้าน
- พัฒนาทักษะการเรียนรู้ศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะการคิดวิเคราะห์ และการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
- พัฒนาอัตลักษณ์บัณฑิต (SAP) โดยเฉพาะด้านการคิดวิเคราะห์)
ทั้งหมด 9 หน่วยการเรียนรู้ แบ่งเป็น 4 หน่วยการเรียน เรียนวิธี Authentic Learning ได้แก่ แนวคิดทฤษฏี การพยาบาลครอบครัว ปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพครอบครัว ครอบครัวเข้มแข็ง และการสร้างเสริมสุขภาพแลกระบวนการเยี่ยมบ้าน 5 หน่วยการเรียน เรียนวิธีบรรยาย คือ ระบาด อนามัยโรงเรียน อาชีวอนามัย อนามัยสิ่งแวดล้อม และคุ้มครองผู้บริโภค
การจัดการเรียนแบบสภาพจริง
- แนวคิดทฤษฏี การพยาบาลครอบครัว ครั้งที่ 1 (2 ชม) ประเด็นโครงสร้างหน้าที่และพัฒนาการครอบครัว เรียนแบบบรรยายในห้องเรียน ยกตัวอย่างของกรณีศึกษาสภาพจริง
- ปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพครอบครัว ครั้งที่ 2 (2 ชม) ประเด็นปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพ เรียนแบบบรรยายในห้องเรียน ยกตัวอย่างของกรณีศึกษาสภาพจริง
- การสร้างเสริมสุขภาพแลกระบวนการเยี่ยมบ้าน ครั้งที่ 3 (2 ชม) ประเด็นการสร้างเสริมสุขภาพและกระบวนการเยี่ยมบ้าน เรียนแบบบรรยายในห้องเรียน ยกตัวอย่างของกรณีศึกษาสภาพจริง
- ครอบครัวเข้มแข็ง ครั้งที่ 4 และ 5 (2 ชั่วโมง) ประเด็นครอบครัวเข้มแข็ง เรียนแบบบรรยายในห้องเรียน ยกตัวอย่างของกรณีศึกษาสภาพจริง การพึ่งพาตนเอง ความปลอดภัย เศรษฐกิจ
การประเมินผลโครงการและข้อเสนอแนะของนักศึกษา
การประเมินผลโครงการและข้อเสนอแนะของอาจารย์
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
- เลือกครอบครัวอย่างไร (อ.ยุคนธร) ตอบ ให้เด็กเลือกเอง แต่เมื่อฝึกปฏิบัติ
- ได้ปลูกฝังเจตคติในการทำงานในชุมชนแก่นักศึกษาหรือไม่ (ดร.ศิริรัชส์) ตอบ ปลูกฝังครอบครัวให้ความร่วมมือ ให้เห็นคุณค่าของชุมชน
- ผลการเรียนทฤษฏี ตามกรอบ TQF เป็นอย่างไร ได้การเรียนรู้อะไรบ้าง ที่โดดเด่น (ดร.ศิริรัชส์) ตอบ ไม่มีเครื่องมือวัด แต่ได้จากการสังเกตจากข้อมูลที่เด็กทำรายงาน การถามตอบในห้องเรียน ที่หามา เปรียบเทียบกับหน่วยการเรียนทฤษฏี ทัศนคติของนักศึกษามีความรับผิดชอบในการไปเก็บข้อมูลตามเวลาที่ได้จัดให้ อาจารย์ตามไปดู การทำงานเป็นทีม ดร.ศิริรัชส์ เสนอแนะว่าการใช้การสังเกตอย่างเดียวในการประเมิน อาจทำให้มีความคลาดเคลื่อน ควรใช้แบบประเมินตาม LO ที่ตั้งไว้
- ดร.ศิริรัชส์ เสนอว่า การจัดการเรียนการสอนจะต้องตอบให้ได้ว่าจุดประสงค์หลักคืออะไร
- ดร.กีรติ ให้ความเห็นในปีหน้า อาจจะจัดแบบ PBL
- การจัดแบบนี้ ต่างจาก CBL อย่างไร (ดร.ศิริรัชส์)
- ดร.ดวงพร ตอบว่าเป็นการเรียนแบบ PBL อย่างหนึ่งในความเป็นจริง
- ดร.กีรติตอบว่าต่างกันเพราะไม่ใช่ context-based learning
- ดร.สมาภรณ์บอกว่ามีการเรียนตามสภาพจริงให้กรอบการเรียนรู้เพียงกว้าง ๆ นักศึกษาไปค้นคว้าเพิ่มเติม
- ดร.สิรีวัฒน์ บอกว่า PBL ต่างกันตรงที่นักศึกษาตั้งวัตถุประสงค์การเรียนรู้เอง
- ถ้าเลือกได้ จะสอนแบบนี้หรือไม่ (อ.ยุคนธร) ตอบ ไม่ลำบาก ต้องการให้เวลาเพิ่ม ถ้าจัดได้ก็จะดีมาก ปี 4 จัดไม่เหมาะ เอาไปใช้กับ PBL จะเหมาะสมกว่า
การเรียนการสอน Team-Based Learning (TBL) และกรณีศึกษา (Case Study) โดย อ.ยุคนธร ทองรัตน์ ภาควิชาการพยาบาลเด็กและวัยรุ่น
ความเป็นมา
สอนวิธี TBL มีอาจารย์ผู้สอน 2 ท่าน คือ อ.ยุคนธร และ อ.ดวงใจ ในวิชาปัญหาสุขภาพ 1 เพียง 1 หน่วยการเรียน (เรื่องต่อมไร้ท่อจำนวน 8-9 ชั่วโมง) เริ่มสอนเป็นเวลา 5 ปี สำหรับนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2
การจัดการเรียนแบบ TBL
การประเมินผลโครงการและข้อเสนอแนะของอาจารย์
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
การจัดการเรียนแบบกรณีศึกษา
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
การเรียนการสอนกรณีศึกษา (Case Study) โดยดร.สมาภรณ์ เทียนขาว ภาควิชาสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช
ความเป็นมา
วิชาการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาทางจิต การเรียนการสอนเน้น Active learning (กรณีศึกษา)
การจัดการเรียนแบบกรณีศึกษา
การวางแผนการจัดการเรียนการสอน
- วิเคราะห์หลักสูตร วิชานี้เคยจัดแบบ Authentic learning สถานการณ์จำลอง PL
- กำหนดหน่วยการเรียนรู้
- ออกแบบการเรียนการสอน แผนการสอน
- ออกแบบการประเมินผล เครื่องมือการประเมินผล
การดำเนินการสอน
- วิธีการสอน กรณีศึกษา
- สื่อ ใบงานกรณีศึกษา
- หน่วยการเรียนบาทผู้สอน เตรียมกรณีศึกษา ชี้ประเด็น/ตั้งคำถาม สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม สรุปการเรียนรู้
- หน่วยการเรียนบาทผู้เรียน มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้เป็นกลุ่ม ฝึกคิดวิเคราะห์ นำเสนอและร่วมสรุปการเรียนรู้
ประเมินผล
ปัจจัยนำเข้าแห่งความสำเร็จ
- ประสบการณ์ผู้สอนมากกว่า 20 ปี
- ความรับผิดชอบของผู้สอนและผู้เรียน
- เปิดใจ
- ยินดีและพร้อมพัฒนา
กระบวนการที่ความเป็นสำเร็จของทีมผู้สอน
- แลกเปลี่ยนเรียนรู้
- ร่วมกันวางแผน
- เตรียมนักศึกษา
- สู่การปฏิบัติจริง
- ปรับทัศนคติต่อผู้ป่วยจิตเวช ไม่ให้กลัวผู้ป่วย
ผลลัพธ์แห่งความสำเร็จ
- ได้รับการพัฒนาการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐาน TQF และอัตลักษณ์บัณฑิต
- เตรียมความพร้อมก่อนการฝึกปฏิบัติโดยการปรับทัศนคติต่อผู้ป่วยจิตเวช
- ได้เรียนรู้ลักษณะผู้ป่วยจิตเวช เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ตลอดจนฝึกทักษะการสังเกตการเขียนรวบรวมข้อมูลจากกรณีศึกษา
- พัฒนาผู้เรียนได้สอดรับกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ที่ตามกรอบ TQF และประเมินผลได้ตามสภาพจริงของนักศึกษาตลอดจนการพัฒนาอัตลักษณ์บัณฑิต
- ปรับทัศนคติและลดอคติในวิธีการสอน
- การเรียนรู้การทำงานเป็นทีม
- ดร.สมาภรณ์ รายวิชามีการใช้วิธีการสอนที่หลากหลายเช่น กรณีศึกษา สถานการณ์จำลอง PL บทบาทสมมุติ เทคโนโลยี การบูรณาการ ที่นำมานำเสนอคือวิธีกรณีศึกษา ซึ่งในภาควิชาฯใช้วิธีนี้มาก กรณีศึกษามี่ทั้งแบบลักษณะผู้ป่วยที่ผู้สอนเขียนข้อมูลต่างๆให้นักศึกษาฝึกวิเคราะห์พลวัตรการเกิดปัญหาทางจิตและการให้การพยาบาล และวิธีการสอนกรณีศึกษาที่ ใช้เป็นลักษณะการเล่าเรื่อง (Narrative)
- บูรณาการกับอะไร (ดร.ศิริรัชส์) ตอบ ครั้งที่ 1 การคัดกรองภาวะสุขภาพจิตของผู้สูงอายุ ครั้งที่ 2 นำข้อมูลวิเคราะห์จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ
- ดร.ศิริรัชส์ ให้ความเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี คือวิเคราะห์เนื้อหาในการจะบูรณาการ นำสู่การเรียนการสอน บูรณาการทีมผู้สอน
- ดร.ศิริรัชส์ เสนอแนะว่าการประเมินผล ใช้กรอบ TQF การวัด SAP ควรทำวิจัย Good practice ระดับภาควิชา โดยการใช้แบบประเมิน Good practice แล้วจึงเทียบกับวิทยาลัยอื่น
- การเปรียบเทียบการสอน 2 แบบ ใครประเมิน (ดร.ศิริรัชส์) ตอบ ให้นักศึกษาประเมินว่าเรียนรู้แบบไหนดีกว่า ตาม LO
- การเลือกมาใช้บางหน่วยการเรียน มีการสอบหรือไม่ (อ.มณฑณา) ตอบ มี เน้นกระบวนการ ได้สังเกตหรือไม่ว่าถ้าทำ TBL ดี คะแนนสอบจะดีด้วยหรือไม่
- TBL เน้นเรื่องการทำงานเป็นทีม เน้นเรื่องความรู้หรือไม่ สิ่งที่เจอ นักศึกษาชอบเรียนแบบ Active Learning แต่จะไม่ค่อยได้ความรู้ MCQ ดึงเนื้อหาที่สำคัญ (อ.มณฑณา) ตอบ วัตถุประสงค์ของหัวข้ออยู่แล้ว ตัวข้อสอบจะเน้นเรื่อง Concept อาจจะนำไปใช้ถึงการนำไปใช้
- ดร.ศิริรัชส์ เสนอแนะว่า TBL มีการนำไปใช้จากภาคเด็ก การดำเนินกิจกรรม TBL ต่างจาก Group process ตรงที่การ run กิจกรรมเป็นข้อสอบ
- อ.วรรณภรณ์ ปัญหาการเลือกคุณสมบัติของเด็ก ถ้าเลือกไม่ทันก็ต้องเลือกคุณสมบัติที่สอง ใช้กระบวนการกลุ่มแบ่งกลุ่ม ซึ่งไม่ควรใช้ GPA เพราะไม่ได้เน้นที่ความรู้ เน้นการทำงานเป็นทีม
- อ.มณฑณา ถ้าทำบางหน่วยการเรียน ภาควิชาผู้ใหญ่ พบว่าหน่วยการเรียนที่เรียนแบบ TBL ขึ้นฝึกปฏิบัติแล้ว นักศึกษาไม่สามารถนำความรู้มาใช้ได้ ตอบ TBL เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรียนรู้ตลอดชีวิต
- อ.วรรณภรณ์ ให้ความเห็นว่า TBL ทักษะการสร้างข้อสอบ เช่นการใช้ยาปฏิชีวนะ กับแต่ละโรค
- ดร.ดวงพร การประเมินผลวิธีการสอน
- ดร.ศิริรัชส์ เรียน 1 หน่วยการเรียน สอน 3 วิธี คือ เกมส์ บัตรคำ Concept mapping กรณีศึกษา ในรายวิชาป. 1 สอน Active learning 5 วิธี
- แบ่งกลุ่มโดยการนับเลข
- ดร.ดวงพร มีผลประเมินจากนักศึกษากับการเรียนแบบนี้หรือไม่ ประเมินจากการสังเกต คือ ไม่ง่วง มีส่วนร่วม pre-test ต่างจาก post-test
- แผนการจัดปีการศึกษาหน้า จะนำวิธีการนี้ไปทำในวิชาปี 3 และทำวิจัย
- อ. มณฑนา ชื่นชมการจัดการเรียนหลากหลายวิธี
- ดร.สมาภรณ์ แต่ละภาคควรหาวิธีการจัดการเรียนการสอนที่เป็น Active learning สอดคล้องกับลักษณะวิชา
- อ.วรรณภรณ์ เสนอว่า ต้องเลือกวิธีการจะเป็น Best practice ของวิทยาลัย 1 อย่างเป็นเอกลักษณ์
- ดร.ศุภาณ์นาฏ แสดงความคิดเห็นว่าบริบทหน่วยการเรียนของแต่ละภาควิชาต่างกัน วิธีการเรียนการสอนจึงควรต่างกัน
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
การเรียนการสอน Team-based Learning โดยอ.วรรณภรณ์ วีระพงษ์ ภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์
ความเป็นมา
TBL เกิดจากการแก้ปัญหาการจัดการเรียนการสอน ผู้ที่คิดคือ Prof Larry K. Michaelsen เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและ Active learning เริ่มใช้ปี 2549
ในวิชาชีพสาขาสุขภาพของการดูแลผู้รับบริการไม่ได้เกิดจากบุคคลคนเดียว แต่เกิดจากการทำงานเป็นทีม ซึ่งต้องมีการสื่อสารที่ดี กระบวนการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ
ผลการประเมินการสอนทักษะทางปัญญา โดย PBL พบว่ายากต่อความเข้าใจ เนื้อหามาก จึงปรับเป็น
จุดมุ่งหมายของ TBL ตามทฤษฏี
- เตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียน ใช้กระบวนการที่สร้างความมั่นใจได้ว่าได้มีการเตรียมตนเองอย่างแท้จริงหลักสู่การแก้ปัญหา
- 2. เรียนรู้วิธีการนำมโนทัศน์
ขั้นตอน
- กระบวนการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียน RAP Readiness Assurance Process ได้แก่ pre-class preparation application appeal
- tRAT นำสู่ดเนื้อหาวิชา Course concept
- ประยุกต์ใช้ในคลาส
RAP
- มอบหมายให้ศึกษาล่วงหน้าจากเอกสาร ตำรา PPT VDO โดยครูแจ้งวัตถุประสงค์ของหน่วยการเรียนเรียนที่สอดคล้องกับมโนทัศน์หน่วยการเรียนเรียน
- มอบหมายงานให้ทำล่วงหน้ารายบุคคลก่อนเข้าเรียน Individual Readiness Assurance (MCQ) 15-20 ข้อ ไม่ควรทำรายงานยาว ๆ เพราะผู้เรียนจะแบ่งงานเป็นตอน ๆ เช่น case study
- งานที่มอบหมายคือไม่ยากเกินไป ส่วนใหญ่ตอบได้ งานที่มากเกินไป ทำให้ต้องเร่งรีบอภิปราย
- ข้อสอบเน้นตัวเลือก หาคำตอบทำไม เพราะอะไร มุ่งมั่นที่จะหาคำตอบร่วมกัน การคิดวิเคราะห์มีมากขึ้น
ความเหมาะสมของงาน
- 4S ปัญหาสำคัญจริง
- ข้อสอบเดียวกัน
- คำตอบเหมือนกันหมด
- ใช้เวลาเดียวกัน
- มอบหมายให้ทำงานเดิมเป็นกลุ่ม TRAT/GRAT โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อ้างอิง จากที่ได้ไปค้นคว้าด้วยตนเอง และหาคำตอบที่ถูกต้องที่เป็นไปตามมติของทีมโดยอนุญาตให้ใช้สื่อสืบค้นได้ Intragroup จึงต้องสอนกลุ่มใหญ่กลุ่มเดียว
Appeal เฉลยทันที immediate feedback assessment Technique พร้อมกัน ใช้ Scratch card
Mini-lecture ครูสอนสรุป
Application การประยุกต์ใช้ แก้ปัญหาโจทย์ในชั้นเรียน อภิปรายในกลุ่ม การรายงานคำตอบในกลุ่มตัวอย่างการนำไปประยุกต์ใช้
-สถานการณ์จริง หรือจำลอง เช่น ศึกษากับคนไข้
- Mapping
เวลาของการปฏิบัติ อ่านนอกชั้นเรียนตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ แบ่งเวลาทำข้อสอบ 20-30% การประยุกต์ใช้ 70-80%
TBL มีเป้าหมายคือ การทำงานเป็นทีม เป้าหมายชัดเจนกว่าการทำงานกลุ่ม เน้นผลสำเร็จของงานทั้งหมด การจัดกลุ่ม ลดความเกาะกลุ่มกันเอง การแบ่งกระจายคุณสมบัติของสมาชิกที่เป็นประโยชน์ (แบ่งหน้าชั้นเรียน เช่น รับผิดชอบ ตรงเวลา ฟังความคิดเห็นของผู้อื่น หรือใช้ฐานข้อมูลของนักศึกษา ไม่เน้นเรื่อง GPA เป็นหลัก เพราะเน้นการทำงานเป็นทีม) ขนาดของทีมเหมาะสม เป็นกลุ่มถาวร
วิธีการจัดการเรียนการสอนแบบ TBL การ TBL ลงสู่การปฏิบัติ
การออกแบบก่อนเปิดเรียน
- เลือก/จัดเนื้อหารายวิชา (หน่วยการเรียน) หัวข้อโรคติดเชื้อหลังคลอด และ ตกเลือดหลังคลอด 4 ชั่วโมง
- ระบุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้
- สร้างคู่มือผู้เรียนในหน่วยการเรียน
- สร้างแบบหน่วยการเรียน การสอบ เพื่อรับประกันความพร้อมของผู้เรียน
- สร้างแบบฝึกหัด/สถานการณ์ที่เน้นประยุกต์ใช้
- ออกแบบระบบการวัดประเมินผล
- การจัดตั้งกลุ่ม ทำหน้าชั้นเรียน
Peer Evaluation
- นักศึกษาไม่ประเมินตนเอง
- ตระหนักว่าถ้าให้คะแนนมากทุกคน จะเป็นการทำร้ายคนที่ทำงานหนักและช่วยเหลือคนที่ทำงานกลุ่มน้อย
- ให้รายละเอียดการประเมินเพื่อน ป้องกันการให้คะแนนที่ไม่เป็นจริง
- การใช้ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยในการประเมินเพื่อน มาเทียบกับคะแนนเฉลี่ย
- การให้คะแนนเพื่อน แต่ไม่ให้ตนเอง
ผลการประเมินผู้เรียน ปีการศึกษา 2560
- ชอบเรียน เป็นการติวข้อสอบไปในตัว การเถียงกันทำให้ได้อ่านหนังสือล่วงหน้า เตรียมความพร้อม พูดคุยกับเพื่อนในกลุ่ม
ผลการประเมินปี 2558 เปรียบเทียบ TBL กับ PBL คือความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย ความซื่อสัตย์ ส่งเสริมทักษะทางปัญญามากกว่า การทำงานเป็นทีม ทักษะการวิเคราะห์ การสื่อสาร
ข้อสังเกต คะแนนที่เพื่อนประเมินกับผลการเรียน 80% สอบตกในหน่วยการเรียนนี้ คะแนนเดี่ยวได้น้อย คะแนนกลุ่มจะมากขึ้น บางคนคะแนนเดียวดี แต่คะแนนกลุ่มน้อยลง แสดงว่าทักษะการสื่อสารไม่ดีพอ TBLสอดคล้องกับการเรียนแบบ learning style ของ VARK ใช้ทักษะพลวัตรกลุ่ม และ learning pyramid
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
การจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (Active Learning) โดย ดร.ศิริรัชส์ อินสุข ภาควิชาบริหารการพยาบาล
ความเป็นมา
จัดการเรียนการสอนเชิงรุกในวิชาชีวเคมี สำหรับนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา 2558-2559
Active learning ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าในมโนทัศน์ที่สอนได้ถูกต้องและลึกซึ้งเกิดความคงทนถาวร ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ได้เป็นอย่างดี เกิดความสนุกสนานจากกิจกรรมที่จัดขึ้นในการเรียนการสอน สามารถบูรณาการความรู้ที่ได้จากการเรียนการสอนให้เกิดประโยชน์
การจัดการเรียนแบบ Active learning
Plan: แผนการจัดการเรียนการสอน
Plan 1 มีแผนปฏิบัติการประจำภาควิชาการศึกษาทั่วไป กลุ่มวิชาการสอดคล้องกับพันธกิจของวิทยาลัยพยาบาล และเป็นที่เข้าใจของอาจารย์ภายในภาควิชา
Plan 2: Plan 1 วิเคราะห์ปรัชญา ความสำคัญและวัตถุประสงค์หลักสูตร ว่าต้องการอะไร ให้ผู้เรียนบรรลุผลลัพธ์อะไร LO ทุก Domain คุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์
Plan 3: Plan 2 วิเคราะห์เปรียบเทียบผลการจัดการเรียนการสอนในปีที่ผ่านมา
Plan 4: Plan 3 ปรับกลยุทธ์กิจกรรมการเรียนการสอน การออกแบบรายวิชา การวัดผลการประเมินผลตามระเบียบของวิทยาลัย และตาม TQF กำหนด มีระบบและกลไกการส่งเสริม
DO: การดำเนินงาน
Do 1 วิธีการดำเนินงานที่ตอบสนองผลลัพธ์ เป็นไปตามระบบและกลไกการดำเนินงาน
Do 2: Do 1 บูรณการกับกลุ่มพันธกิจอื่น เช่น ด้านการวิจัย และมีผลลัพธ์ดำเนินการวิจัย 2 เรื่อง (ชีวเคมีกับทำนุ วิชาสารสนเทศ ส่งเสริมทักษะทางปัญญา และวิชาภูมิปัญญา อารยธรรมท้องถิ่น (โครงงาน การศึกษาวิถีชุมชน ศึกษาด้านทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม)
Check: การตรวจสอบ
Check 1 ติดตามตรวจสอบการจัดการเรียนการสนจากภาควิชา มีการประเมินโครงการการจัดการเรียนการสอน
Check 2: Check 1 วิเคราะห์ผลการติดตาม ตรวจสอบ โดยรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อการพัฒนาอย่างน้อยภาคเรียนละ 2 ครั้ง
ACT: การนำผลการประเมินมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนา
Act 1 นำผลการประเมินโครงการจัดการเรียนการสอน การบริหารรายวิชา
Act 3 ระบุประเด็นที่ต้องพัฒนา ปรับปรุง ในเอกสาร กิจกรรมการเรียนการสอนการบริหารรายวิชาใน มคอ. 3 ในปีการศึกษาต่อไป
ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
- เกิดประสิทธิผลของวงจร PDCA เกิดคุณค่าในการดำเนินงานการจัดการเรียนการสอนที่เป็น
- ปัจจัยเอื้อต่อการจัดการเรียนการสอน มีอาจารย์จบการศึกษาคุณวุฒิครูด้านวิทยาศาสตร์
- องค์กรมีงบประมาณสนับสนุนที่เพียงพอในการจัดการเรียนการสอน ให้ผู้เรียนสามารถลงมือทำ
- ความทุ่มเท ต่อการทำงานของอาจารย์ในภาควิชาฯ ส่งผลให้เกิดผลงานที่มีคุณค่าต่อสถาบัน
- อาจารย์ในภาควิชาฯ มีความรู้ความเข้าใจการวิเคราะห์หลักสูตร การออกแบบการจัดการเรียน
ระบบ จากการดำเนินการตามแผนและตัวชี้วัดการประกันคุณภาพการศึกษา
ด้วยตนเอง มีห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์และผู้ดูแลห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์
คุ้มค่า คุ้มทุน และผู้เรียนเกิดองค์ความรู้ตามที่หลักสูตรกำหนด มีผลงานวิจัยปรากฏชัดเจน และการทำนุบำรุง ศิลปวัฒนธรรม ตอบสนองพันธกิจอุดมศึกษาที่ชัดเจนจากการทำงานแบบบูรณาการพันธกิจระดับอุดมศึกษา
การสอน การวัดการประเมินผล สามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอย่างน้อย 3 วิธีใน 1 รายวิชา และระบุวิธีการสอน Active Learning ได้สอดคล้องกับเนื้อหาสาระในรายวิชาที่กำหนด
ผลลัพธ์ ตัวอย่างผลลัพธ์เป็นรูปธรรมการดำเนินการตามวงจรระบบ วิชาชีวเคมี อาจารย์ 3 ท่าน (ทุกคนในภาค) ทำวิจัย นำเสนอเวทีระดับชาติ และรอการตอบรับการตีพิมพ์ผลงานวิจัยที่เกิดขึ้นเป็นผลงานในปีการศึกษา 2559 ในสังกัดภาควิชาการศึกษาทั่วไปและวิทยาศาสตร์พื้นฐาน
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
- พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
- เป้าหมายให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
- รูปแบบและวิธีการที่หลากหลาย ซึ่งจะนำมาสู่การพัฒนาคุณภาพ ประสิทธิภาพและประสิทธิผล
- ผู้เรียนต้องลงมือทำกิจกรรม มากกว่าการฟัง
- อธิบายวัตถุประสงค์รายวิชา กระบวนการจัดการเรียนการสอนเป็นรายวิชาที่เน้นความรู้ และลงมือปฏิบัติจริงในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ทฤษฎีด้วยเหตุและผล พร้อมทั้งฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (การแบ่งน้ำหนักกระบวนการวัดผล วัดความรู้ K ร้อยละ 60, วัดทักษะ P ร้อยละ 30 และวัดเจตคติ A ร้อยละ 10 )
- ผลการเรียนรู้ : Learning Outcome ทั้ง 5 ด้านผลลัพธ์สุดท้ายของการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานระดับอุดมศึกษา นักศึกษาได้รับการพัฒนาครบทุกด้าน
ภาคทฤษฏี
- Question and answer บทที่ 1 3 4 และ 6 บรรยากาศห้องเรียนเป็นห้องเรียนแนวระนาบ ไม่ใช่ห้องเรียนอัฒจรรย์ ไมค์ลอยแทนไมค์สายเพื่อให้ผู้สอนมีปฏิสัมพันธืกับผู้เรียนมากขึ้น แบ่งกลุ่มตามจังหวัดหรือทุน วัดความรู้ ความจำ ความเข้าใจ เชื่อมโยงทักษะทางปัญญาซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานด้านการคิด และทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ผู้สอนเปิดโอกาสตลอดการบรรยายให้ผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์จากคำถาม คำตอบ
- Group process บทที่ 2 เรียนจากมัธยม อธิบายโครงสร้างโมเลกุล จากวิชาเคมี และชีววิทยา ผู้เรียนกับผู้เรียน และผู้สอนทำงานร่วมกัน ผู้สอนอยู่ในกลุ่ม ชี้แนะ มีแบบประเมินให้อาจารย์ประจำกลุ่ม ผู้เรียนวิเคราะห์เนื้อหา และนำเสนอ แต่ละกลุ่มได้เนื้อหาต่างกัน นักศึกษามีสมุดบันทึกการเรียนรู้ ดังนั้น จะได้ความรู้ครบเท่ากันทุกคน
- Game Learn บทที่ 5 วิตามินและเกลือแร่ ฝึกผู้เรียนเคารพในกติกาของเกมส์ (การพัฒนาด้านคุณธรรมจริยธรรม) เปิดโอกาสให้เรียนรู้ simulation games ใช้เทคโนโลยีในการสร้างเกมส์ ตัดสินใจจากข้อมูล และกระบวนการอภิปรายหลังการเล่นเกมส์จบลงเพื่อสรุปเนื้อหาสาระการเรียนให้ครอบคลุม
- Instruction Emphasizing Learning Process หรือ self-directed learning บทที่ 7 พันธุวิศวกรรม ให้นักศึกษาเลือกหัวข้อในการศึกษาเอง
ภาคทดลอง
วิธีการสอนโดยการทดลอง เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 13 ทักษะ เช่น ทักษะการวัด การตั้งสมมุติฐาน การตีความหมาย แปลข้อมูล อภิปรายสรุป เป็นต้น เป็นทักษะการคิดวิเคราะห์ขั้นสูง
ผู้สอนต้องทราบวัตถุประสงค์ทุกครั้งก่อนการทดลองมีอะไรบ้าง บรรยาย ทบทวนความรู้ในภาคทฤษฎีความรู้ก่อนลงมือทำทดลองเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดในห้องทดลอง และการใช้อุปกรณ์วิทยาศาสตร์และสารเคมี
วัตถุประสงค์การวิจัย
- เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์การเรียนการสอนแบบเชิงรุกวิชาชีวเคมี
- นักศึกษาได้รับการพัฒนาผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐาน
- เพื่อประเมินผลกระทบการเรียนรู้
การดำเนินการวิจัย One group design กลุ่มตัวอย่าง 136 คน
- เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
- แผนการสอน
- แบบประเมินผลการเรียนรู้ ด้าน
- บันทึกหลังการสอนของผู้สอน
- บันทึกการเรียนรู้ของผู้เรียน
- แบบประเมินผลกระทบ ถอดหน่วยการเรียนเรียน ผลกระทบจากการเรียนการสอนเชิงรุก
- ข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 140 ข้อ
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล
วิเคราะห์ข้อมูล ความถี่ ค่าเฉลี่ย SD t-test
สรุปผลการวิจัย บรรลุทุกวัตถุประสงค์การวิจัยทั้ง 3 ข้อ ผลกระทบภายหลังการเรียนรู้แบบเชิงรุก ผลเกิดกับนักศึกษา นักศึกษาเกิดความเครียด(บางคน)ที่ต้องตอบคำถามรายบุคคล ผู้สอนจึงใช้การแก้ปัญหาโดยมีส่วนร่วมในการถามตอบเพื่อนช่วยเพื่อน ทีมผู้สอนเดินกระตุ้นนักศึกษาให้ตอบคำถามทั่วห้องเรียน นักศึกษาส่วนใหญ่ต้องการให้มีการจัดการเรียนการสอนแบบ Action Learning ต่อไปเพราะรู้สึกตื่นเต้น ต้องเตรียมตัวก่อนเข้าเรียนในหัวข้อต่อไปเสมอ
ผลที่เกิดกับทีมผู้สอน ผู้สอนได้เรียนรู้ร่วมกันในกิจกรรมการสอนแบบ Action Learning มีประสบการณ์เพิ่มขึ้น มีสมุดบันทึกให้บันทึกการเรียนรู้เพื่อวัดความรู้ สถาบันการศึกษามีการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีงานวิจัยรองรับการจัดการเรียนการสอน Action Learning อย่างเป็นรูปธรรม
พบปัญหาระหว่างการจัดกิจกรรมในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ในการเรียนแบบทดลอง คือ พื้นฐานนักศึกษาอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก เช่น ชื่อสารเคมี ชื่ออุปกรณ์วิทยาศาสตร์ อาจเนื่องมาจากการเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาเรียนวิทยาศาสตร์เป็นภาษาไทยมากกว่าคำศัพท์เฉพาะด้านวิทยาศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษ ผู้สอนแก้ปัญหาโดยการให้คัดคำศัพท์ด้านวิทยาศาสตร์มาส่ง
การประเมินโครงการและข้อเสนอแนะจากอาจารย์
- ด้านการศึกษา ทักษะการเรียนรู้จากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ นักศึกษาแก้ปัญหาไม่ได้ ต้องทำวิจัยหรือจัดการเรียนการสอนที่เพิ่มทักษะการแก้ปัญหา ด้านวิชาการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก การเรียนการสอนแบบสืบสอบ (Inquiry learning method) ผู้สอนอำนวยความสะดวกในการสืบค้นข้อมูล หรือ Project-based learning เน้นการทำโครงงาน การอภิปรายในชั้นเรียน การประเมินผลแบบ Formative evaluation การนำเสนอ มคอ. 3 ควรฟังตลอดการประชุม เพื่อช่วยกันดูชิ้นงานนักศึกษา การออกแบบการเรียนการสอนเป็นอย่างไร แลกเปลี่ยนเรียบรู้ร่วมกัน
- ด้านการวิจัย ไม่ควรเปรียบเทียบวิธีการเรียนการสอนวิธีอื่นๆกับแบบการบรรยาย เพราะทราบคำตอบอยู่แล้ว ควรเปรียบเทียบ Active learning กับวิธีการสอนแบบอื่นๆ ที่ให้นักศึกษาลงมือกระทำการเรียนรู้ด้วยตนเอง
- ทุกครั้งที่สอนเสร็จในรายวิชานั้น ควรให้นักศึกษาเขียนจดหมายถึงครู บอกความรู้สึกต่างๆที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยไม่ต้องระบุชื่อผู้เขียน เพื่อผู้สอนนำไปสู่การพัฒนาต่อไปหรือเป็นกำลังใจในวิชาชีพครู เป็นข้อมูลเชิงคุณภาพที่มีคุณค่าต่อรายวิชานั้น
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
การเรียนการสอน Activity-Based Learning โดย โดย ดร.เบญญาภา พรมพุก ภาควิชาการพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
ความเป็นมา
วิชาปัญหา 1 สำหรับนักศึกษาศาสตร์ชั้นปีที่ 2 หัวข้อการพยาบาลผู้ป่วยกระดูกและข้อ จำนวน 6 ชั่วโมง การบรรยายอย่างเดียวทำให้นักศึกษาเบื่อ จึงพัฒนาการเรียนการสอนให้น่าสนใจ
วัตถุประสงค์ในการเรียน เพื่อให้นักศึกษาสามารถ
- อธิบายกลไกการเกิดปัญหาสุขภาพของบุคคลวัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ที่มีความ
- อธิบายมโนทัศน์หลักในการดูแลบุคคลวัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ที่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อ
- อธิบายการใช้กระบวนการพยาบาลในการแก้ปัญหาสุขภาพของบุคคลวัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ และ
ผิดปกติเกี่ยวกับ กระดูก ข้อและกล้ามเนื้อ ทั้งในภาวะเฉียบพลัน วิกฤต และเรื้อรังได้
ความเจ็บป่วย หลักการพยาบาลแบบองค์รวมบนพื้นฐานการดูแลด้วยความเอื้ออาทรด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์แก่บุคคลวัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับความผิดปกติเกี่ยวกับกระดูก ข้อและกล้ามเนื้อ ทั้งในภาวะเฉียบพลัน วิกฤต และเรื้อรังได้
ผู้สูงอายุ ที่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเจ็บป่วย หลักการพยาบาลแบบองค์รวมบนพื้นฐานการดูแลด้วยความเอื้ออาทรด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์แก่บุคคลวัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับความผิดปกติเกี่ยวกับ กระดูก ข้อและกล้ามเนื้อทั้งในภาวะเฉียบพลัน วิกฤต และเรื้อรังโดยเลือกใช้ทรัพยากร เทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมกับภาวะสุขภาพ ผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นที่หลากหลายกับการดูแลสุขภาพรวมทั้งสามารถให้คำแนะนำในการส่งเสริมสุขภาพของบุคคลในการดูแลตนเองและครอบครัวได้
เนื้อหา 6 หัวข้อใหญ่ พิจารณาเลือกการพยาบาลผู้ป่วยที่บาดเจ็บกระดูและกล้ามเนื้อ
การจัดการเรียนแบบ Activity-Based Learning
- จัดห้องเรียน แบ่งกลุ่ม 10 กลุ่ม ๆ ละ 12-13 คน 10 นาที อาจารย์ 2 คน (อาจารย์หลักและ TA)
- ทำ Pre-test Kahoot 10 นาที
- แจกบัตรคำ 10 คำ และชี้แจงรายละเอียด 5 นาที
- กลุ่มสืบค้นและสรุปเนื้อหานำเสนอ กรณีศึกษา 20 นาที
- นำเสนอ พร้อมกับแลกเปลี่ยนหน้าชั้นเรียน กลุ่มละ 5 นาที
- ทำ Post-test ใน Kahoot 10 นาที
- เฉลย Test 15 นาที
- อาจารย์สรุปเนื้อหาและยกตัวอย่างการวิเคราะห์กรณีกรณีศึกษาโดยใช้กระบวนการพยาบาล 2 กรณีที่ครอบคลุมหลักการพยาบาลผู้ป่วยบาดเจ็บกระดูกและข้อ
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
สรุปการถอดบทเรียน Active Learning
วิธีการสอน
- TBL ชั้นปี 2 และ ปี 4 จำนวน 2 วิชาปัญหา 1 และมารดาทารก 2
- กรณีศึกษา ปี 2 จำนวน 2 วิชาการพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิต และวิชาปัญหา 1
- Authentic Learning ปี 2 จำนวน 1 วิชา ครอบครัวและชุมชน 1
- Activity-based Learning ปี 2
- Games บัตรคำ
- Group process
วิธีการประเมินผลการเรียน Active Learning
ผลลัพธ์ที่ได้จากการจัดการเรียนการสอน Active Learning
เกณฑ์การเลือก Good practice
- ดร.ศิริรัชส์ เสนอประเด็นให้พิจารณา Active learning คือการเรียนการสอนเชิงรุก การลดหน่วยการเรียนบาทครู เพื่อให้นักเรียนมีกิจกรรมการเรียนการสอนมากกว่าการฟังบรรยาย
ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการจัดการเรียนแบบ Active Learning
- ทำ PDCA ครบ
- มีนโยบายของวิทยาลัยที่เข้มแข็ง ที่เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนแบบนี้ เช่น เวลาในการจัดการเรียนการสอน
- คณาจารย์ที่มีความพร้อมในการจัดการเรียนการสอน ยินดีที่จะสอนวิธีการแบบ Authentic
- นักศึกษาให้ความร่วมมือในการเรียน
- TBL ครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจในการสอน ทัศนคติของอาจารย์ต่อ Kahoot สรุปคือความเชี่ยวชาญและทัศนคติของครูต่อวิธีการสอน
- แบบประเมินผลการเรียนการสอนที่ชัดเจน วัดได้ เห็นผลชัดเจนกว่าการสังเกตและความสุข
- มุมมอง ทัศนคติของครูต่อวิธีการสอนนั้น ๆ
- ความตั้งใจจริงของครู
- นักศึกษาต้องมีวินัย
- วิธีการสอนที่ตอบโจทย์ learning by doing เหมาะสมกับเนื้อหา ไม่มีวิธีการใดดีกว่า ผู้สอนถ้าไม่สามารถนำไปใช้ได้ดี เพราะฉะนั้นผู้ออกแบบรายวิชาว่าเนื้อหาแต่ละหน่วยการเรียน จะเหมาะกับการจัดการเรียนการสอนแบบใด การเรียนการสอนเชิงรุกมีข้อดีทุกวิธี
- การประเมินวิธีการสอนว่าเหมาะสมหรือไม่ ต้องทำ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย ทำให้ได้ข้อเสนอแนะในการจัดการเรียนการสอนจากภาควิชาอื่น ทำให้ได้พบสิ่งที่ต้องนำไปพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้น