กฎของผู้นำ 13 ข้อ


 ความเชื่อถือ ความเคารพ การสนับสนุนในเชิงบวก และการเชื่อมต่อเป็นส่วนบุคคล เป็นรากฐานของอิทธิพลและความเป็นผู้นำ

กฎของผู้นำ 13 ข้อ 

It worked for Me:13 Rules of Leadership

พันเอก มารวย  ส่งทานินทร์

[email protected]

23 เมษายน 2561

บทความเรื่อง กฎของผู้นำ 13 ข้อ (It worked for Me:13 Rules of Leadership) นำมาจากหนังสือเรื่อง It Worked For Me: In Life and Leadership ประพันธ์โดย Colin Powell และ Tony Koltz

ผู้ที่สนใจเอกสารนี้แบบ PowerPoint (PDF file) สามารถ Download ได้ที่ https://www.slideshare.net/maruay/it-worked-for-me

ประวัติของ Colin Powell

  • Colin Luther Powell (เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 1937) ใน Harlem เมือง New York City เป็นบุตรชายของผู้อพยพชาวจาเมกา
  • Powell ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ (ค.ศ.1987-1989) ผู้บัญชาการกองทัพบก (ค.ศ. 1989) และผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ค.ศ. 1989-1993) ในสงครามอ่าวเปอร์เซีย
  • Powell เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนแรกและคนเดียว ที่ได้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอเมริกา
  • เขาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศคนที่ 65 ภายใต้ประธานาธิบดี George W. Bush ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001-2005 ซึ่งเป็นชาวอเมริกันแอฟริกันคนแรก ที่เข้ามารับราชการในตำแหน่งนี้

กฎ 13 ข้อของผู้นำ

  • 1. มันไม่ได้แย่อย่างที่คุณคิด (It ain't as bad as you think)
  • 2. โกรธได้แต่อย่านาน (Get mad, then get over it)
  • 3. หลีกเลี่ยงการยึดติดกับตำแหน่ง (Avoid having your ego so close to your position that when your position falls, your ego goes with it)
  • 4. มันสามารถทำได้ (It can be done)
  • 5. ระวังสิ่งที่คุณเลือก คุณอาจต้องยอมรับมัน (Be careful what you choose. You may get it)
  • 6. อย่าปล่อยให้ข้อเท็จจริงที่ไม่พึงประสงค์ ขวางทางการตัดสินใจที่ดี (Don't let adverse facts stand in the way of a good decision)
  • 7. ไม่ควรให้คนอื่นเลือกแทนคุณ (You can't make someone else's choices)
  • 8. ตรวจสอบสิ่งเล็กๆ น้อยๆ (Check small things)
  • 9. แบ่งปันความดีความชอบ (Share credit)
  • 10. สงบนิ่ง มีจิตใจดี (Remain calm. Be kind)
  • 11. มีวิสัยทัศน์ และตั้งความคาดหวัง (Have a vision. Be demanding)
  • 12. ก้าวผ่านความกลัว (Don't take counsel of your fears or naysayers)
  • 13. มองในแง่ดีจะเพิ่มพลังเป็นทวีคูณ (Perpetual optimism is a force multiplier)

ข้อที่ 1. มันไม่ได้แย่อย่างที่คุณคิด

  • การออกจากที่ทำงานในเวลากลางคืนโดยมีทัศนคติที่ดี มีผลกระทบมากกว่าที่คิด มันบ่งบอกทัศนคติของคุณให้กับลูกน้อง
  • ทุกสิ่งจะดูดีขึ้นในตอนเช้า (It will look better in the morning) กฎนี้สะท้อนถึงทัศนคติไม่ใช่การคาดการณ์
  • พยายามทำให้ความเชื่อมั่นและมองโลกในแง่ดีเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ ไม่ว่าสถานการณ์นั้นจะยากแค่ไหนก็ตาม
  • สิ่งต่างๆ จะดีขึ้น คุณจะทำให้มันดีขึ้น

ข้อที่ 2. โกรธได้แต่อย่านาน

  • แทนที่จะปล่อยให้ความโกรธทำลายคุณ จงใช้มันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์
  • การโกรธและการอยู่กับการโกรธ (Getting mad and staying mad) เป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน การโกรธเป็นเรื่องที่เป็นธรรมชาติ แต่การอยู่กับการโกรธไม่ได้ประโยชน์อะไร
  • Powell กล่าวว่า ผมทำงานหนักตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อผมโกรธ ผมจะระงับมันได้อย่างรวดเร็ว และไม่เคยสูญเสียการควบคุมตัวเอง

ข้อที่ 3. หลีกเลี่ยงการยึดติดกับตำแหน่ง (เพราะเมื่อคุณออกจากตำแหน่ง อัตตาของคุณจะหายไปพร้อมกับมันด้วย)

  • ละอัตตาของคุณ และรู้ตัวว่า คุณสามารถจะนำจากจุดใดก็ได้
  • ตำแหน่งเป็นเพียงหนทางที่ใช้เพื่อการทำให้บรรลุเป้าหมาย ไม่ใช่เป้าหมาย
  • ความภักดีคือการสามารถถกเถียงได้ ถ้าคิดว่านายไม่ถูกต้อง (ก่อนที่นายจะตัดสินใจ) แต่จะต้องดำเนินการตามคำสั่งอย่างซื่อสัตย์ (เมื่อนายออกเป็นคำสั่งแล้ว)

ข้อที่ 4. มันสามารถทำได้

  • ผู้นำทำให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น หากวิธีการหนึ่งไม่ได้ผล ให้หาวิธีอื่น
  • อย่าทำให้ตัวเองเกิดความคลางแคลงใจ
  • ในเวลาเดียวกัน อย่าปิดโอกาสความคลางแคลงใจและเพื่อนร่วมงาน ที่ให้ทรรศนะที่เป็นประโยชน์กับคุณ

ข้อที่ 5. ระวังสิ่งที่คุณเลือก คุณอาจต้องยอมรับมัน

  • อย่าเร่งรีบในสิ่งต่างๆ
  • ใช้หลักการ เรียบง่าย (Plain and simple)
  • "คุณจะต้องอยู่กับทางเลือกของคุณ บางทางเลือกที่ไม่ดี คุณสามารถแก้ไขได้ แต่บางอย่าง คุณจะต้องยอมรับมัน"
  • ทีมของคุณจะต้องอยู่กับทางเลือกของคุณ ดังนั้น อย่ารีบร้อน (don’t rush)

ข้อที่ 6. อย่าปล่อยให้ข้อเท็จจริงที่ไม่พึงประสงค์ ขวางทางการตัดสินใจที่ดี

  • ผู้นำที่เหนือกว่า มักเป็นเรื่องของสัญชาตญาณที่ยอดเยี่ยม เมื่อต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก ให้ใช้เวลาที่มีเพื่อรวบรวมข้อมูล ที่จะบอกกับสัญชาตญาณของคุณ
  • การวิเคราะห์ข้อเท็จจริง จะบ่งบอกถึงทางเลือกที่เหมาะสม
  • บ่อยครั้งที่คุณจะต้องทำการตัดสินใจ เพื่อเลือกหนทางการดำเนินการที่ดีที่สุด

ข้อที่ 7. ไม่ควรให้คนอื่นเลือกแทนคุณ

  • ไม่ควรปล่อยให้คนอื่นเลือกแทนคุณ
  • เนื่องจากความรับผิดชอบสูงสุดเป็นของคุณ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่า ทางเลือกเป็นของคุณ และคุณจะไม่ตอบสนองต่อแรงกดดันและความต้องการของผู้อื่น
  • ในขณะที่ผู้นำที่ดีจะฟังและพิจารณามุมมองทั้งหมด ในท้ายที่สุดพวกเขาต้องตัดสินใจด้วยตนเอง
  • ยอมรับการตัดสินใจที่ดีของคุณ และเรียนรู้จากความผิดพลาด

ข้อที่ 8. ตรวจสอบสิ่งเล็กๆ น้อยๆ

  • ความสำเร็จส่วนใหญ่อาศัยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ (รายละเอียด) มากมาย
  • ผู้นำต้องรู้สึกสิ่งเล็กๆ น้อยๆ คือรู้สึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อโยงสู่ภาพใหญ่ขององค์กร (ที่มีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ประกอบกันอยู่)
  • ลูกน้อง หรือกองกำลัง อาศัยอยู่ในโลกของสิ่งเล็กๆ น้อย ๆ
  • ผู้นำต้องค้นหาวิธีทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เพื่อให้มองเห็นโลก (ภาพใหญ่) จากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ได้

ข้อที่ 9. แบ่งปันความดีความชอบ

  • ผู้คนต้องการได้รับการยอมรับและความรู้สึกว่ามีคุณค่า เช่นเดียวกับที่พวกเขาต้องการอาหารและน้ำ
  • ผู้นำแบ่งปันความดีความชอบให้ลูกน้อง ยอมรับความผิดพลาดแทน แล้วค่อยๆ ค้นหาและแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด
  • เมื่อใดก็ตาม ที่คุณโยนสาเหตุของความผิดพลาดว่าไม่ได้เกิดจากตัวคุณ นั่นเป็นข้อแก้ตัวไม่ใช่เหตุผล

ข้อที่ 10. สงบนิ่ง มีจิตใจดี

  • มีไม่กี่คนที่ตัดสินใจได้ดีในบรรยากาศแห่งความสับสนวุ่นวาย ให้สร้างเขตความสงบในขณะที่ต้องการความเร่งด่วน
  • เมื่อเกิดสถานการณ์การสู้รบ (ไม่ว่าทางทหารหรือว่าในองค์กร) ความเมตตากรุณา ความสงบนิ่ง จะสร้างความมั่นใจให้กับลูกน้อง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพวกเขา
  • ความเมตตากรุณาจะเชื่อมต่อคุณกับผู้คนอื่นๆ เพื่อสร้างความผูกพันซึ่งกันและกัน
  • หากคุณใส่ใจลูกน้องของคุณและแสดงความเมตตากรุณา พวกเขาจะจงรักภักดีและห่วงใยคุณเช่นกัน

ข้อที่ 11. มีวิสัยทัศน์ และตั้งความคาดหวัง

  • ลูกน้องจำเป็นต้องทราบว่า ผู้นำของพวกเขากำลังพาพวกเขาไปที่ใด และเพื่อ จุดมุ่งหมาย (purpose) อะไร
  • เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมาย ผู้นำต้องกำหนดมาตรฐานที่ต้องการและให้แน่ใจว่าสามารถทำให้สำเร็จได้
  • จุดมุ่งหมาย คือจุดมุ่งหมายของวิสัยทัศน์
  • เพื่อสร้างพลังในการบรรลุวิสัยทัศน์ที่ต้องการ วิสัยทัศน์นั้นควรเป็นแง่บวก มีพลัง และทำให้องค์กรดีขึ้น

ข้อที่ 12. ก้าวผ่านความกลัว

  • องค์กรที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้สร้างโดยคนขี้ขลาดหรือคนนินทา
  • ความกลัวเป็นอารมณ์ปกติของมนุษย์ มันไม่ได้เป็นสิ่งเลวร้าย เราสามารถเรียนรู้ที่จะตระหนักถึงความกลัว และฝึกการทำงานให้ผ่านพ้นไปได้ แม้จะมีความกลัว
  • ในอีกแง่หนึ่ง ถ้าเราไม่เข้าใจว่าความกลัวเป็นเรื่องปกติ ที่ต้องควบคุมและเอาชนะมันให้ได้ จะทำให้เราเป็นอัมพาตและหยุดเดินในเส้นทางของเรา (ถ้ากลัว เราจะไม่คิดอย่างชัดเจนหรือวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล)
  • เราต้องเตรียมตัวและควบคุมความกลัว อย่าปล่อยให้มันควบคุมเรา ถ้าทำไม่ได้ เราก็ไม่สามารถเป็นผู้นำได้

ข้อที่ 13. มองในแง่ดีจะเพิ่มพลังเป็นทวีคูณ

  • มองในแง่ดี เชื่อในตัวเอง เชื่อในจุดมุ่งหมายของคุณ เชื่อว่าคุณจะต้องชนะ และแสดงให้เห็นถึงความรักและความเชื่อมั่น จะเป็นตัวคูณพลัง
  • ถ้าคุณเชื่อและตระเตรียมลูกน้องของคุณ ลูกน้องของคุณก็จะเชื่อ

สรุป

  • หนังสือเล่มนี้ เต็มไปด้วยประสบการณ์อันชัดเจน และบทเรียนที่ได้รับจากการเรียนรู้ ซึ่งก่อให้เกิดเป็นตำนานของอดีตนายพลเอกและรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกาคือ Colin Powell
  • Powell กล่าวว่า "ภาวะผู้นำเป็นเรื่องที่เรารับรู้ และได้เรียนรู้จากผู้คนที่เราได้พบเจอ นี่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คน" (It's about how we touch and are touched by the people we meet. It's all about the people.)

***********************************

การนำไปใช้ประโยชน์

การจัดการกับความขัดแย้งและวิกฤติ การแก้ปัญหาและการตัดสินใจ

  • Powell ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่ผู้นำทำคือ การแก้ปัญหา
  • "ถ้าโต๊ะทำงานของคุณสะอาดและไม่มีใครมีปัญหา คุณควรกังวลให้มาก" นี่เป็นสัญญาณว่า คนของคุณคิดว่าคุณไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ หรือแย่กว่านั้นคือ คุณไม่สนใจ
  • เมื่อพวกเขาถามคุณเรื่องปัญหา นั่นหมายความว่าพวกเขาคิดว่าคุณสามารถแก้ปัญหาได้ พวกเขายังเชื่อถือคุณ
  • ดังนั้น เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ถือเป็นโอกาสที่จะเสริมสร้างความเป็นผู้นำของคุณ

ทำตัวให้ว่างเพื่อรับฟัง

  • Powell กล่าวว่า เขามักออกจากสำนักงาน ไม่ว่าเขาจะเป็นทหารในกองทัพหรือรัฐมนตรี เขาก็จะเดินไปรอบๆ เพื่อดูว่า มีอะไรเกิดขึ้น พูดคุยกับผู้คน และทำความเข้าใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
  • ในการทำเช่นนั้น ทำให้เขาได้เพิ่มโอกาสในการเจอปัญหาที่มีขนาดเล็ก ก่อนที่พวกมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ และทำให้ตัวเองพร้อม สำหรับผู้คนที่อาจจะไม่มีโอกาสพูดคุยกับเขา
  • การเดินไปรอบๆ ยังทำให้คุณมีโอกาสรู้ว่า สิ่งที่คุณคิดสามารถเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ คุณอาจระบุปัญหาได้ด้วยตัวของคุณเอง

แก้ปัญหาไม่ใช่จัดการกับปัญหา

  • เมื่อคุณพบปัญหา ให้แก้ปัญหา
  • บ่อยครั้งที่เราอาจจะเพิกเฉยต่อบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เราไม่สบายใจ หรือต้องสนทนาที่ยากลำบากกับใครบางคน แต่การหลีกเลี่ยง หรือการฝังปัญหา ไม่ได้ทำให้ปัญหาหายไป
  • ในฐานะที่เป็นผู้นำ เราจำเป็นต้องมีความกล้าหาญ เผชิญหน้ากับความเป็นจริง และหาแนวทางแก้ไขซึ่งสร้างความแตกต่างที่แท้จริง
  • Powell เน้นการติดตามผล และทำในลักษณะที่ไม่ทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา (ยกเว้นกรณีที่เขาคือตัวปัญหา!)

โปรดจำไว้ว่า พวกเขากำลังเฝ้าดูอยู่

  • การกระทำของคุณจะถูกเผ้ามองอยู่เสมอ
  • หากคุณพบสิ่งต่างๆ เช่นการละเมิดด้านความปลอดภัย การลัดขั้นตอนที่ไม่ถูกระเบียบ หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แล้วไม่ทำอะไรกับเรื่องนี้ การอยู่เฉยๆ ของคุณ ส่งสัญญาณว่าเรื่องนั้นไม่สำคัญต่อคุณ
  • คุณกำลังส่งสัญญาณว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่คุ้มค่ากับความพยายามในการแก้ไข และถ้าคุณไม่สนใจ พวกเขาจะไม่สนใจด้วย
  • อย่าละเลยความผิดพลาด (Never walk by a mistake)

อีกหนึ่งประเด็น

  • เพียงเพราะคุณระบุปัญหาได้ ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องแก้ปัญหาด้วยตนเอง คนที่มีหน้าที่ในการปฏิบัติ ตามธรรมชาติมักจะได้พบกับความท้าทายต่างๆ
  • หากเป็นความท้าทายส่วนตัวของพวกเขา คุณสามารถถามพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้คำปรึกษาบางอย่าง แบ่งปันความคิดบางอย่าง แต่ไม่แก้ปัญหาให้กับพวกเขา ถ้าคุณทำ พวกเขาจะยังคงมาหาคุณ ด้วยสิ่งที่พวกเขาควรจะแก้ไขตัวเอง

หากต้องการค้นหาปัญหา ให้ถามคำถามเหล่านี้

  • กระบวนการและการทำงาน สนับสนุนทีมงานและลูกค้าของคุณหรือไม่?
  • สภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นบวก มีสุขภาวะที่ดีและมีประสิทธิผลสำหรับทีมของคุณหรือไม่?
  • ทีมมีสารสนเทศ ทรัพยากร และเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้งานเสร็จสิ้นหรือไม่?
  • แผนงาน นโยบาย หรือโครงการต่างๆ ควรดำเนินในลักษณะเช่นนี้หรือไม่?

สรุปโดยย่อ

  • ความเชื่อถือ ความเคารพ การสนับสนุนในเชิงบวก และการเชื่อมต่อเป็นส่วนบุคคล เป็นรากฐานของอิทธิพลและความเป็นผู้นำ (Trust, respect, positive reinforcement, and personal connection are the foundations of influence and leadership.)
  • เมื่อผู้คนเห็นว่า คุณพร้อม เต็มใจ และสามารถแก้ปัญหาให้เขาได้ คุณจะเติบโตขึ้นในทุกด้าน และกลายเป็นผู้นำที่ดีขึ้น (When people see that you are ready, willing, and able to solve their problems, you grow stronger in all these areas, and you become a better leader in the process.)

***********************************

 

 

หมายเลขบันทึก: 646674เขียนเมื่อ 23 เมษายน 2018 16:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 เมษายน 2018 16:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท