เจ้าของเคสที่ 4: อ.เก่ง (เคสฝ่ายจิต)
รายละเอียด
ผู้ป่วยคือแม่ของอ.เอง แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรค Schizophrenia (Diagnostic clinical reasoning) โดยมีอาการกำเริบเป็นช่วงๆ ตั้งแต่อ.อยู่มัธยมศึกษาปีที่ 2 แต่มีอาการหนักตอนที่อ.เรียนปริญญาโทปีที่ 1
ได้รับการกระตุ้นไฟฟ้า อาการในช่วงแรกคือนอนทั้งวัน ไม่อาบน้ำ (อาบน้ำ 2-3 วันละครั้ง) ต้องฉีดยาเป็นประจำแต่ผู้รับบริการไม่ยอมทำ
เริ่มการฟื้นฟูด้วยการดูแลรักษาตัวเอง (Self care) ให้ทำกิจกรรมทางสังคม (social participation) ดูแลตัวเองในขั้นที่สูงขึ้น (IADL) ไปทำงาน (Work) กระทั่งสามารถดูแลผู้อื่นได้ (ผู้สูงอายุติดบ้าน) ซึ่งใช้เวลาทั้งหมด 7 ปีตั้งแต่แอดมิทจนกลับมาเป็นปกติ โดยดูพัฒนาการเคสได้จากอาการ (performance) ที่เราสามารถรับรู้ได้
ระหว่างขั้นตอนการประเมิน มีการชวนผู้รับบริการทำกับข้าว (Interests) เพราะอยากให้ลุกจากเตียงมาทำอะไรบ้าง นอกจากนั้นอ.ยังดูแลแม่ของอ.อย่างใกล้ชิด โดยมีการเข้าหาและพูดคุย (Interactive clinical reasoning) โดยรวมแล้ว ตลอดการบำบัดใช้ pragmatic clinical reasoning ในการดูบริบทรอบข้างและทำการบำบัดไปตามสถานการณ์ มากกว่าการฟื้นฟูตามความเป็นไปของโรค (scientific clinical reasoning)
ปัญหา (ตามอาการของโรค)
เป้าประสงค์ (Goals)
สิ่งที่นักกิจกรรมบำบัดทำให้ผู้รับบริการ (Procedural clinical reasoning)
ความสำเร็จ
ผู้รับบริการไม่เพียงช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ยังสามารถดูแลผู้อื่นได้อีกด้วย
โมเดลหรือกรอบอ้างอิงที่ใช้ (Model/FoR)
ไม่มีความเห็น