การเข้าเมืองของคนต่างด้าวที่จะได้สัญชาติไทย
ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาเกี่ยวกับการให้สัญชาติไทยแก่ชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากบุคคลดังกล่าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ทำให้บุคคลดังกล่าวมีสถานะทางกฎหมายไม่ชัดเจน โดยเฉพาะบุคคลดังกล่าวเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน และเกิดบุตรหลานในประเทศไทยเป็นจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาเรื่องสถานะภาพทางกฎหมายของบุคคลเหล่านั้น และเกิดปัญหาว่าบุคคลเหล่านั้น จะได้มาซึ่งสัญชาติไทยหรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้จะขอพิจารณาเฉพาะกรณีที่บุคคลต่างด้าวเข้าเมืองมาในลักษณะใดจึงจะได้สัญชาติไทย
กรณีคนต่างด้าวเข้าเมืองมาโดยชอบด้วยกฎหมาย
แบ่งออกเป็น 2 กรณี ได้แก่
เป็นกรณีที่คนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยขอวีซ่า หรือขออนุญาตเข้าเมืองตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยคนเข้าเมือง การเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จึงมีอยู่ด้วยกันสองลักษณะ คือ (1) การเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามหมวด 4 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522(2) การเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามหมวด 5 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยคนเข้าเมือง พ.ศ.2522
หากคนต่างด้าวเข้าเมืองมาโดยถูกต้องตามลักษณะทั้ง 2 ประเภทข้างต้นนี้ ถือว่า เป็นคนต่างด้าวที่เข้าเมืองมาโดยชอบด้วยกฎหมาย บุตรของคนต่างด้าวที่เข้าเมืองมาโดยชอบด้วยกฎหมาย อาจได้สัญชาติไทยตามหลักดินแดน
กรณีคนต่างด้าวเข้าเมืองมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีอยู่ 3 กรณี คือ
(1) คนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในประเทศไทย แต่วีซ่าขาดอายุ ถือว่าเข้าเมืองมาโดยชอบแต่อยู่ในประเทศไทยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือคนต่างด้าวที่มีถิ่นทีอยู่ในราชอาณาจักร แต่ไม่มีหลักฐานการแจ้งออกไปนอกราชอาณาจักร เพื่อกลับเข้ามาอีก หรือมีหลักฐานแจ้งออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อกลับเข้ามาอีก ทำให้ใบถิ่นที่อยู่ขาดอายุ กลายเป็นบุคคลที่เข้าเมืองมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ปัจจุบันคนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ได้แก่ คนต่างด้าวที่เข้ามาใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย แม้จะอยู่ในประเทศไทยนานเพียงใดก็ไม่ได้สัญชาติไทย และในขณะเดียวกันบุตรหลานของบุคคลเหล่านี้ แม้จะเกิดในประเทศไทยก็ไม่ได้สัญชาติไทย ตามมาตรา 7 ทวิ วรรคแรก แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยสัญชาติฯ เพราะเกิดจากบุคคลที่เข้าเมืองมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
(2) คนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองมาเป็นกลุ่มก้อน กลุ่มคนต่างด้าวเหล่านี้อาจได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในประเทศไทยได้เป็นการชั่วคราว เพื่อจะรอการส่งกลับประเทศเดิม หรือส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 บุคคลเหล่านี้ ได้แก่ ผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองมา แต่ถูกควบคุมอยู่ในศูนย์ เช่น ศูนย์นักศึกษาพม่า จังหวัดราชบุรี ศูนย์ญวนอพยพ ซึ่งการดูแลกลุ่มคนต่างด้าวเหล่านี้ เป็นหน้าที่ของสำนักงานศูนย์อพยพและหลบหนีเข้าเมืองกระทรวงมหาดไทย กองการต่างประเทศ และสำนักงานปลัดกระทรวง
กลุ่มบุคคลต่างด้าวเหล่านี้ ได้แก่ ลาวอพยพ กลุ่มผู้หลบหนีเข้าเมืองจากประเทศพม่า กลุ่มผู้ใช้แรงงานพม่า และกลุ่มผู้หลบหนีเข้าเมืองจากกัมพูชา เป็นต้น บุตรหลานของบุคคลเหล่านี้ แม้เกิดในประเทศไทย ก็จะมิได้สัญชาติไทย ตามมาตรา 7 ทวิ วรรคแรก แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยสัญชาติฯ เพราะเป็นบุคคลที่เข้าเมืองมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย(3) กลุ่มชนกลุ่มน้อยที่เป็นคนต่างด้าวและหลบหนีเข้าเมืองมาโดยมีเหตุผลทางสงคราม เศรษฐกิจ มนุษยธรรม กลุ่มบุคคลเหล่านี้ รัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะส่งตัวกลับหรือส่งตัวไปยังประเทศที่สาม แต่จะให้มีสถานะตามกฎหมายไทย อย่างเช่น กลุ่มญวนอพยพ กลุ่มทหารจีนคณะชาติ จีนฮ่ออพยพ จีนฮ่ออิสระ ไทยลื้อ เนปาลอพยพ ผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่า อดีตโจรคอมมิวนิสต์มลายู (อดีต จคม.) ซึ่งประเทศไทยมีนโยบายให้สถานะภาพตามกฎหมาย โดยหากบุคคลเหล่านี้เกิดในประเทศไทย อาจจะได้สัญชาติไทยตามมาตรา 7 ทวิรรค 2 เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีชนกลุ่มน้อยบางจำพวก ซึ่งไปอยู่ในต่างประเทศและภายหลังกลับเข้ามาในประเทศไทย หรือเป็นคนพื้นที่สูงไม่สามารถติดต่อกับทางราชการได้ ทำให้มีปัญหาการตกสำรวจทางทะเบียนราษฎร์ ซึ่งได้แก่ ผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่าเชื้อสายไทย บุคคลบนพื้นที่สูง ผู้อพยพเชื้อสายไทยจากเกาะกงประเทศกัมพูชา ชนเผ่าตองเหลือง (มลาบรี) หรือชนเผ่าผีตองเหลือง ชุมชนคนพื้นที่สูง ซึ่งประเทศไทยมีนโยบายที่จะให้สัญชาติไทยเช่นกัน
จะเห็นได้ว่า บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในประเทศไทย มีหลายกลุ่ม และแต่ละกลุ่มต่างก็เข้ามาในประเทศไทยด้วยหลายๆ เหตุผล และการเข้ามาดังกล่าวมีทั้งถูกต้องตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยคนเข้าเมือง และที่เข้ามาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งการจะได้สัญชาติไทยของกลุ่มบุคคลดังกล่าวข้างต้น จะต้องพิจารณาเป็นแต่ละกรณีๆ ไป และตามแต่นโยบายของรัฐที่จะให้สัญชาติแก่บุคคลเหล่านั้นอย่างไร
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าบุคคลดังกล่าวทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศไทย และมีความจงรักภักดี และรักการที่จะเป็นคนไทยแล้ว ข้าพเจ้าก็เห็นว่า การให้สัญชาติไทยแก่บุคคลดังกล่าวย่อมก่อให้เกิดผลดีแก่ประเทศไทยมากกว่า แม้เราจะมองดูว่า การยอมให้สัญชาติแก่บุคคลดังกล่าวอาจจะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ แต่ถ้าการให้สัญชาติเพราะ บุคคลเหล่านั้นทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศไทย แล้วเงื่อนไขการให้สัญชาติไทย ก็คงจะลดลงมากกว่านี้ และเพราะเงื่อนไขการได้สัญชาติของประเทศไทยค่อนข้างยุ่งยาก และเจ้าหน้าที่ของรัฐขาดความรู้และความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว ทำให้การขอสัญชาติไทยของบุคคลดังกล่าวดูค่อนข้างยุ่งยาก และซับซ้อนจนบางครั้งกลุ่มบุคคลดังกล่าวอาจมองว่าเจ้าหน้าที่ไม่ให้ความใส่ใจ และไม่สนใจต่อปัญหาที่เกิดแก่บุคคลเหล่านี้ที่พวกเขาต้องการได้สัญชาติไทยจำนวนมาก ทำให้เวลาพวกเขาเดินทางไปไหน แม้แต่จะเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดที่พวกเขาอาศัยอยู่ก็ต้องคอยกังวลกลัวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจบัตรประชาชน เพราะเจ้าหน้าที่ตามจังหวัดชายแดนมักจะขอตรวจบัตรประชาชนมากกว่าที่จะตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งข้าพเจ้ามีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดเชียงราย เวลากลับบ้านทีไร มักจะถูกตรวจบัตรประชาชน แม้บางครั้งจะเดินทางเข้าไปในจังหวัดตัวเองก็ถูกตรวจบัตรฯ แทนที่เจ้าหน้าที่จะตรวจบัตรฯ เฉพาะช่วงที่เดินทางออกมากกว่า แม้จะเห็นว่าปฏิบัติตามหน้าที่ แต่บางทีกลับมองว่าการปฏิบัติหน้าที่นั้นมีอะไรแอบแฝงหรือไม่ โดยเฉพาะหากบุคคลเหล่านั้นเข้ามาใช้แรงงานในกรุงเทพฯ และเดินทางกลับไปบ้านเกิดมักจะมีเงินที่ได้จากการทำงานติดตัวกลับไปให้พ่อแม่ ซึ่งข้าพเจ้ามักจะเห็นบุคคลที่ไม่มีบัตรฯ จะถูกเจ้าหน้าที่เชิญลงจากรถระหว่างทางก่อนถึงที่หมายเกือบทุกครั้งที่เดินทางกลับเชียงราย
จึงอยากให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการดูแลบุคคลต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประเทศกำหนดสถานะของบุคคลเหล่านั้นให้ชัดเจน เพื่อให้พวกเขาได้เป็นคนไทยอย่างสมบูรณ์ และไม่ถูกเอาเปรียบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
โรงงานอุตสาหกรรมสร้างมาเพิ่มสร้างงานให้กับคนต่างชาติหาใช่คนไทยไม่ นิสัยคนไทยไม่นิยมการเป็นลูกจ้างใครครับ