[8]
#KMHeatStroke
พ.อ.ณัฐนนท์ ภุคุกะ
ผอ.รพ.ค่ายสุรศักดิ์มนตรี
ท่านเคยอยู่ยโสธร ทำงานร่วมกันในยุคสมัยท่าน นพ.กวี ไชยศิริเป็น ผอ.รพ.ยโสธร
ท่านมาร่วม Reflection เติมเต็มและต่อยอดทำให้มองเห็นกระบวนการการทำงานชัดเจนขึ้น
Reflection
- กสวป.ควรกำหนดชัดเจน Mission หรือจะเป็น Hearing? => กระจายงานไปสู่ความรับผิดชอบของแพทย์ใหญ่ทั้ง 4 ภาคและทำงานสอดคล้องกับบริบท
- ทักษะการป้องการ HS ขึ้นกับ จนท.ในหน่วยฝึก แต่ยังมีข้อจำกัด ภาระจึงตกที่ รพ.ค่าย (ภาระงาน+ภูมิประเทศ)
- Gap บุคคลที่มาเป็นผู้ฝึกเป็นคนใหม่หมุนเวียน ความรู้เรื่องโรคและความรู้ทางทหารยังมีไม่มากระบบของนักเรียนนายร้อยยังขาดการเน้นในเรื่อง HS "ทีมนิเทศจึงต้องตระหนักในเรื่องนี้"
- ร่วมมือกับ รพ.ในพื้นที่ + หัวหน้าหน่วยลงร่วมนิเทศด้วยจะทำให้ระบบการนิเทศราบรื่น
- Heat injury ควรมองให้เป็น out come => ให้ความรู้+Buddy แก่ทหารใหม่ ผู้ฝึกมีหน้าที่เป็นผู้คัดกรอง
- Out put (1) ผลการคัดกรอง (2) สีปัสสาวะ => เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะนำไปสู่ความรุนแรงในการเกิด Heat injury *** ปัสสาวะ สามารถบอกอะไรบางอย่างในการจัดการของหน่วยฝึก
- Refer อย่างทันเวลา (Note***ขาย idea สพฉ.) ทหารมีไข้ (สะท้อนถึงหน่วยฝึกไม่ส่งทันที อย่างน้อยประมาณหนึ่งชั่วโมง) การให้น้ำเข้าไปในเส้นเลือดให้เร็วที่สุด
Note การคัดกรอง+ตามรอย+ประวัติการนำส่ง *** Daley Dx***
- ***คัดกรอง+ให้น้ำ"****
- หัวใจของการนิเทศ คือ Out Put
- รร.นายร้อย จปร. **บทเรียนน่าสนใจไม่เกิด Heat Stroke*** น่าสนใจและถอดบทเรียน
เน้น
- ผู้นำ (ผอ.)
- ผู้ปฏิบัติมีความรู้ มีทักษะ
- ทำงานด้วยความเสียสละ ตั้งใจ
19-10-60
ไม่มีความเห็น