ทริปบรุไน(วันที่สอง:ตอนที่ 1)


บรูไน - the Golden Legacy [ 29 กันยายน - 1 ตุลาคม 2560]

 วันเสาร์ที่ 30   กันยายน 2560  ตื่นเช้าตามความเคยชินเมื่อ 05.00 น. ทำภารกิจส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว  ลงมาที่ห้องอาหารซึ่งเปิดบริการตั้งแต่ 06.00 น. ซาลามัด ดาตัง (สวัสดียามเช้าค่ะ) อาหารเช้าที่นี่มีความเป็นกลาง ๆ ทั้ง ฝรั่ง  จีน บรูไน แต่ไม่มีหมูเท่านั้น อาหารที่นี่ไม่มีกลิ่นเครื่องเทศฉุน ๆ อาหารอร่อย  รสชาติดีค่ะ 

อาหารเช้าเรียบร้อย ระหว่างรอคนอื่น ๆ ในคณะทัวร์ของเรา เดินชมบริเวณลอบบี้ของโรงแรม จะเห็นว่าที่นี่บนฝาผนังจะประดับด้วยภาพองค์สุลต่านองค์ที่ 29 แห่งบรูไนและพระมเหสี และตกแต่งโรงแรมด้วยกล้วยไม้ประดิษฐ์สวยงามมากค่ะ

09.00 น. รถบัสพร้อมสมาชิก เดินทางมุ่งหน้าสู่  พิพิธภัณฑ์ Islamic Gallery ขณะที่รถแล่นบนถนนเมืองหลวงของบรูไน จะเห็นว่าถนนไม่แออัด รถวิ่งสบาย ๆ มีติดไฟแดงเป็นระยะ ๆ ไม่ค่อยเห็นมอเตอร์ไซต์  มีแต่รถยนต์ประเภทรถเก๋งทุกญี่ห้อที่มีในประเทศไทย นาน ๆ จะเห็นรถเมล์เป็นบัสแบบมินิบัส ซึ่งที่นี่จะมีเฉพาะแรงงานนั่งเท่านั้น  ส่วนประชาชนมีรถเป็นของตัวเอง  บ้านหนึ่ง ๆ มีเท่าจำนวนคน  เพราะที่นี่น้ำมันถูกมาก เศรษฐกิจดี ประเทศบรูไนมีขนาดเท่ากับจังหวัดจันทบุรี ประชากรทั้งประเทศมี สี่แสนเท่านั้น  เมื่อรถมาถึง  พิพิธภัณฑ์ Islamic Gallery  เขาอนุญาตให้เราถ่ายภาพเฉพาะด้านนอกเท่านั้น ก่อนจะเข้าไปด้านในห้องพิพิธภัณฑ์ เราต้องเก็บสิ่งของไว้ในล็อคเกอร์เท่านั้น ผู้หญิงต้องสวมชุดดำทุกคน เป็นเสื้อคลุม เขามีให้เปลี่ยน แล้วจะมีเจ้าหน้าที่พาเดินชมและฟังคำบรรยายจากอีลิค  มัคคุเทศก์ท้องถิ่นด้วยภาษาอังกฤษ มีคุณปูคอยเสริมเป็นภาษาไทยให้เป็นบางครั้ง ไม่มีคำอธิบายในสิ่งที่เราได้พบเห็นเพราะไม่มีภาพให้บรรยายค่ะ

พิพิธภัณฑ์ Islamic Gallery

บรูไนมิวเซียม ภายในแยกส่วนจัดแสดงเป็น 5 ส่วนที่โดดเด่นที่สุดคือIslamic Arts Gallery ที่รวบรวมของสะสมโบราณล้ำค่าขององค์สุลต่านจากประเทศมุสลิมทั่วโลกมาแสดงไว้มากมาย , คัมภีร์อัลกุระอ่านขนาดเล็กที่สุดในโลก , หุ่นจำลองวัฒนธรรมประเพณีของชาวบรูไนตั้งแต่แรกเกิด การแต่งงานฯ     

ออกมาด้านนอกจะเห็นต้นไม้ต้นคล้าย ๆ ต้นชงโคบ้านเรา  มีดอกสีเหลือง ถามอีลิค จึงรู้ว่านี่คือดอก simpor เป็นดอกไม้ประจำชาติของบรูไน       ดอกซิมปอร์ มีกลีบดอกขนาดใหญ่สีเหลือง เมื่อบานเต็มที่กลีบดอกจะบานออกคล้ายร่ม เป็นไม้ต้นสูงสูงได้ถึง 10 เมตร เปลือกสีม่วงดำ ใบเดี่ยวออกสลับรูปรีจนถึงรูปไข่ กว้าง ปลายกลมหรือมน โคนมน มีครีบและยกตั้ง ดอกสีเหลือง ออกเป็นช่อที่ยอด 4-5 ดอก บางครั้งมีถึง 18 ดอก กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปช้อน เมื่อบานเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 ซ.ม. เกสรตัวผู้จำนวนมาก ผลรูปกลม แป้น เมื่อสุกสีส้มหรือแดง แตกเป็น 6 แฉก รูปดอกซิมปอร์ พบได้ในธนบัตรราคา 1 ดอลลาร์ของประเทศบรูไน และถูกนำไปใช้แพร่หลายในด้านศิลปะการออกแบบงานฝีมือพื้นเมือง

ออกจากที่นี่แล้ว รถบัสนำพวกเราแวะถ่ายรูป ด้านนอกมัสยิด Omar   Ali Saiffuddien  

มัสยิด Omar Ali Saiffuddien

บันดาร์เสรีเบกาวัน เมืองหลวงของประเทศบรูไนดารุสซาลาม มีมัสยิดหลวงขององค์สุลต่าน ที่สวยงามและโดดเด่นตั้งอยู่ใจกลางเมือง “โอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน” เป็นมัสยิดเก่าแก่ สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ สุลต่าน โอมาร์ อาลี ไซฟุดดิน ซึ่งเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีองค์ที่ 28 ของบรูไน ซึ่งมัสยิดหลังนี้ออกแบบและดำเนินการสร้างโดยสุลต่าน โอมาร์ อาลี ไซฟุดดิน ผู้ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปนิกสมัยใหม่ของบรูไน มัสยิดโอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและโดดเด่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งสถาปัตยกรรมของมัสยิดแห่งนี้ เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม กับสถาปัตยกรรมแบบอิตาลี จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “มินิทัชมาฮาล” ภายนอกนั้นมีสัญลักษณ์ที่เด่นชัดมาก คือ “โดมทองคำ” ที่อยู่บนยอดสูงสุดของมัสยิด ซึ่งใช้แผ่นทองคำถึง 3 ล้าน 3 แสนแผ่น ส่วนวัสดุในการก่อสร้างนั้น ใช้หินอ่อนสีขาวจากอิตาลี หินแกรนิตจากเซี่ยงไฮ้ ด้านในตกแต่งด้วยหินอ่อนและกระเบื้องสีอย่างเรียบง่าย ปูพรมที่สั่งทอพิเศษผืนใหญ่มหึมา เหมาะสำหรับเป็นสถานที่ในการสวดขอพร  บริเวณด้านหน้าของมัสยิดเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ มีการจำลองเรือพระราชพิธีมาประดับไว้ นั่นก็เป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของมัสยิด อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งดินแดนสรวงสวรรค์ มัสยิดแห่งนี้เป็นศูนย์รวมความศรัทธาของชาวมุสลิมในบูรไน ซึ่งจะมีการประกอบพิธีทางศาสนา โดยเฉพาะในเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนในการถือศีลอด การถือศีลอดนั้นเป็นการละ การงด การยับยั้ง ส่วนความหมายในทางศาสนา หมายถึง การละเว้นการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม ในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นจนกระทั่งพระอาทิตย์ตก จะมีระยะเวลา 29 วัน หรือ 30 วัน ชาวมุสลิมในประเทศบรูไน ให้ความสำคัญกับประเพณีทางศาสนานี้เป็นอย่างมาก ทำให้มัสยิดโอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาปฏิบัติศาสนกิจในช่วงเดือนรอมฎอนอย่างหนาแน่น กล่าวได้ว่า มัสยิดโอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน เป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของชาวมุสลิมในบรูไนอย่างแท้จริง  

ถ่ายรูปและชมความงามด้านนอกกันจนอิ่มแล้ว  กลับขึ้นรถ ไปชมพิพิธภัณฑ์ Royal Regalia

พิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย Royal Regalia

 พิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย ตั้งอยู่ใจกลางกรุงบันดาร์ เสรี เบกาวันได้รับการยกย่องว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีสมบัติล้าค่าและน่าชมที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปเอเชีย เป็นสถานที่รวบรวมข้าวของและเครื่องใช้ซึ่งล้วนแล้วแต่หาค่ามิได้ของสุลต่านองค์ปัจจุบัน มีทั้งราชรถทองคำ ฉลองพระองค์ทองคำ เครื่องทรงทองคำ อาวุธทองคำล้วนเป็นทองคำไปทุกสิ่งอย่าง รวมทั้งมีการแสดงพระราชประวัติขององค์สุลต่านและเครื่องราชบรรณาการจากนานาประเทศ ที่มีความวิจิตรงดงามสูงค่าแบบหาดูได้ยาก เช่น คริสตัล หยก งาช้าง และยังมีพระที่นั่งจำลองมาให้ได้ชมกัน ไฮไลท์ของที่นี่ ได้แก่ ห้องเล็ก ๆ ที่จำลองขบวนพาเหรดและการตกแต่งอันสวยงาม เนื่องในวโรกาสครบรอบ 25 ปีที่องค์ สุลต่านขึ้นครองราชย์ โดยที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้ชมกันฟรีๆ ด้านในห้องที่จัดแสดงห้ามถ่ายรูป นักท่องเที่ยวจะต้องถอดรองเท้าพร้อมเก็บของทุกชิ้นไว้ที่ล็อคเกอร์เก็บของ

ออกจากที่นี่เวลา ประมาณ 13.00 น. ทุกคนหิวแล้ว วันนี้เราไปทานมื้อกลางวันที่โรงแรม อาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ ไม่มีรูปมาฝากเพราะหิวจนตาลาย ขอกินให้อิ่มท้องก่อนอื่น  อาหารอร่อยมากค่ะ ....ชมภาพสถานที่สวย ๆ ก่อนไปเที่ยวต่อในช่วงบ่ายนะคะ....ตามต่อตอนที่ 2 ค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #บรูไน
หมายเลขบันทึก: 638507เขียนเมื่อ 4 ตุลาคม 2017 19:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 ตุลาคม 2017 18:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท