กว่าได้เป็นยายกะเค้าอายุก็ปาเข้าไปเกือบ 70 สมัยก่อนยายอายุไม่ถึง 50 เฉลี่ยอายุบรรดาแม่ ๆ ก็ไม่น่าจะเกิน 20 วัยเจริญพันธุ์มีลูกกันง่ายดาย ไม่เหมือนสมัยนี้ กว่าจะแต่งงานก็ 30 ขอทำงานอีกพัก ใกล้พ้นวัยเจริญพันธุ์อยากมีลูกก็ต้องหันหน้าไปพึ่งหมอ
ความห่างของอายุระหว่างยายหลานในสมัยเทคโนโลยีสื่อสารชี่วกระดิกนิ้วนี่มันเล่นเอายายคิดว่าแล้าข้าจะเลี้ยงมันยังไงล่ะ ทบทวนตลอดชีวิตที่ผ่านมา แล้วก็ปักหลักว่า สอนให้มันมีสุขภาวะที่สมบูรณ์ก็แล้วกัน ตามแบบสุขภาวะ 4 x 4 = 16
สุขภาพคือสุขภาวะที่สมบูรณ์ ทั้งทางกาย ทางจิต ทางสังคม และทางปัญญา
สุขภาวะแต่ละด้านอาจมีองค์ประกอบด้านละ 4 รวมเป็นสุขภาวะ 4 x 4 = 16 ดังนี้
สุขภาวะทางกาย ประกอบด้วย ร่างกายแข็งแรง ปลอดสารพิษ ปลอดภัย มีสัมมาชีพ
สุขภาวะทางจิต ประกอบด้วย ความดี ความงาม ความสวย ความมีสติ
สุขภาวะทางสังคม ประกอบด้วย สังคมสุสัมพันธ์ สังคมเข้มแข็ง สังคมยุติธรรม สังคมสันติ
สุขภาวะทางปัญญา ประกอบด้วย ปัญญารู้รอบรู้เท่าทัน ปัญญาทำเป็น ปัญญาอยู่ร่วมกันเป็น ปัญญาบรรลุอิสรภาพ
https://www.doctor.or.th/artic...
น่าจะใช่ เอ๊ะ! ใช้คำว่า "สอน" ดูจะไม่ใช่ ที่จริงไอ้หนูก็เป็นหลานคนแรกของยาย และยายก็เป็นยายคนเดียวของไอ้หนู งั้นเราต่างคนต่างจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อ๊ะ ชักน่าสนใจ มันต้องไม่น่าเบื่อ มันน่าจะสนุกแน่ ๆ
หลักที่ว่า"การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เป็นความสุข" นี่ก็ได้มาจากพระนิพนธ์ของท่าน สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตโต) ที่ประคับประคองชีวิตวัยเกษียณของยายมีความสุขตลอดมา วันนี้ได้เวลาปัดฝุ่นหนังสือ "พบกับแสงเงิน แสงทอง" ที่ท่านแสดงสัมโมทนียกถาให้คณะครู รร.ทอสี แล้วทางรร.เอามาพิมพ์แจก ท่านว่าครูมาในฐานะกัลยาณมิตรของนักเรียน
ยายกะหลานก็เลยต้องเป็น บัดดี้กัน!!! พบกันเสาร์หน้านะไอ้หนู
ไม่มีความเห็น