(164)
วันอังคารที่ 13 มิถุนายน
ภารกิจและกิจกรรมที่ทำในวันนี้;
เช้าวันนี้อยู่ที่จังหวัดนครนายก ที่พักและจัดประชุมอยู่ที่รีสอร์ทห่างออกจากจังหวัดไม่ไกล แต่ไกลจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์ วิทยาเขตองครักษ์ เราเพิ่งทราบว่ามีแขกพักเพียงแค่สองคน อากาศยามเช้าสงบ หลังทานข้าวเสร็จหลายๆ คนเริ่มทยอยมาที่ห้องประชุม
สิ่งแวดล้อมที่นี่ดูผ่อนคลาย วันนี้เป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อทำ Policy Brief ของเขต 4 อ.หมอสุธีร์และคุณแจ็ค สปสช. ดูแลโครงการนี้
ดูจากสถานการณ์แล้วการเติมเต็มโดยใช้ KM ร่วมกับ Reflection น่าจะเวิร์คงานจะสามารถออกได้ การประชุมดำเนินไปแบบได้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันเป็นระยะ
ช่วงเย็นพี่แอ๊ปมาสมทบและพี่กุ้งพานั่งรถเที่ยวและหาน้ำเย็นๆ ดื่ม ผู้จัดมีอาหารเลี้ยงตอนเย็นส่วนตัวเองนั่งทำงานอยู่ที่บ้านพัก
ข้อปฏิบัติในชีวิต;
- สวดมนต์ทำวัตรเช้า
- เตรียมอาหารถวายพระ
- นั่งสมาธิภาวนา เดินจงกลม
- เขียนถอดบทเรียนใคร่ครวญในตนเอง
- ศึกษาธรรมะจากการฟังเทศน์
- ทำวัตรเย็น
ไม่ได้ทำเป็นกิจลักษณะ เพราะถูกกระทบด้วยวิถีการทำงาน
สิ่งที่ได้เรียนรู้และคุณค่าที่เกิดขึ้นในชีวิต;
การภาวนาผ่านการทำงานแม้จะได้มาซึ่งสติ แต่ก็จำเป็นต้องมีเวลาสำหรับการพักภาวนาด้วย
เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เขต4 นำมาสู่การทำ Policy Brief แบ่งกลุ่มออกเป็น 5 Issue
1. Stroke LTC
2. Urban and Health data
3. CKD and DM
4. Aging
5. Specific Issue
กระบวนการเรียนรู้เริ่มจากท่านผู้อำนวยการ สปสช.เขต 4 นพ.ชลอ ศานติวรางคณา กล่าวเปิดและให้แนวคิดในการนำไปสู่การจัดทำ Policy Brief จากนั้น อ.นพ.สุธีร์ รัตนะมงคลกุล เริ่มนำเข้าสู่กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมกับ ผศ.ดร.สิริมา มงคลสัมฤทธิ์
กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของการทำงานเชื่อมกันระหว่าง ผู้ปฏิบัติและภาคการศึกษานำองค์ความรู้ที่ได้จากทั้งการปฏิบัติและมุมมองของนักวิชาการมาบูรณาการเชื่อมโยง เกิดเป็นองค์ความรู้และสะท้อนมุมมองไปถึงข้อเสนอแนะเชิงบริหาร เป็นความรู้ที่จับต้องได้นำไปสู่ข้อเสนอแนะผลักดันในเชิงนโยบาย
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้ในครั้งนี้จากมุมมองคนทำงานที่มองว่า Policy เป็นเรื่องที่ถูกกำหนดจากผู้บริหารมาสู่ผู้ปฏิบัติ (Top Down) แต่การเข้าร่วมในครั้งนี้ทำให้ได้มองเห็นวิธีการทำ Policy Brief ที่มีฐานข้อมูลมาจากการจัดการความรู้ (KM) หรือจากผลการทำวิจัย (R2R) แล้วนำไปสู่การจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายได้
เป็นอีกหนึ่งเวทีที่เกิด Inspiration อย่างมาก
บทธรรมที่ได้ศึกษา;
“...ฉะนั้นการทำบุญให้ทานจึงเป็นกิจสำคัญมากเหนือสิ่งอื่นใด สำหรับผู้หวังพึ่งตัวเองทั้งปัจจุบันและอนาคตที่ยังท่องเที่ยวอยู่ในสงสาร เพราะสัตว์ที่มีกรรมทั่วไตรโลกธาตุต้องเป็นผู้รับผิดชอบตัวเองด้วยกัน ไม่มีใครจะคอยรับผิดชอบใคร ทั้งการเกิดในกำเนิดดีชั่วต่าง ๆ ตลอดการเสวยคือสุขหรือทุกข์หนักเบามากน้อย ต้องเป็นผู้เสวยกรรมของตัวทำไว้ทั้งสิ้น ไม่มีใครทำไว้เพื่อใคร ต่างทำไว้เพื่อตัว แม้ไม่มีเจตนาว่าทำไว้เพื่อตัวเองก็ตาม แต่ความจริงก็เป็นกฎตายตัวมาดั้งเดิมอย่างนั้น...”
พระครูวินัยธร (มั่น ภูริทตฺโต)
วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
(พ.ศ. ๒๔๑๓ - ๒๔๙๒)
จากหนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
13-06-2560
ไม่มีความเห็น