(109)
วันที่พุธที่ 19 เมษายน
ช่วงนี้หลังจากนำอาหารไปถวายจังหันแล้ว ต้องเข้าไปกราบหลวงปู่ที่กุฎิทุกวัน เพราะท่านมีอาการท้องร่วงและมีอาการปวดหลัง แต่ลูกศิษย์ลูกหาที่เป็นแพทย์ พยาบาลต่างก็แวะเวียนมากราบและถวายการดูแลรักษาอยู่เป็นประจำ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาถ้าไม่มีเหตุจำเป็นหรือภาระกิจที่ได้รับมอบหมายอะไร ก็จะไม่ค่อยได้เข้าไปกราบองค์ท่าน เพราะคิดว่าลูกศิษย์ลูกหามากราบท่านเยอะ ส่วนตัวเราเองเข้าออกวัดทุกวัถ้าไม่ได้เดินทางไปต่างจังหวัด ช่วงเช้าก็ไปนำอาหารไปถวายพระ ตอนเย็นก็เข้าไปเดินจงกลมภาวนา และดูแลเด็กๆ สังกะลีที่มาอยู่วัด และทุกวันหยุดก็ไปพักภาวนาในกุฏิที่ตนเองเป็นเจ้าภาพสร้างถวายวัดและคนอื่นขึ้นพักอาศัยได
เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวัดมีอยู่ตลอดเวลา ทำให้ได้เกิดการเรียนรู้มากมาย สรุปในตนเองว่า ส่วนใหญ่มาจากการสำคัญตนเองผิดเมื่อได้รับความเมตตาจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ก็จะมีความหลงผิดคิดว่าตนเองเป็นคนสำคัญ ทั้งๆ ที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านให้ความเมตตาสงสารทุกๆ คน และตั้งข้อสังเกตกับตนเองว่ายิ่งถ้าใครมีกรรมหนัก หรือกำลังก้าวล่วงศีลธรรมท่านยิ่งเมตตามาก
ถึงที่ทำงานในเวลาปกติคือก่อนแปดโมงเล็กน้อย
ภารกิจการทำงานวันนี้ คือ การเร่งอ่านงานวิจัย R2R ที่ถูกส่งมาจากหลายๆ ที่หลายหน่วยงาน ประมาณ 7-8 แห่งๆ ละ 20 เรื่องขึ้นไป
ความประทับใจอย่างหนึ่งในตนเองคือ การได้รับความรักความเอื้อเฟื้อจากเพื่อนร่วมงาน พี่ๆ น้องๆ เสมอมา ทำให้การทำงานมีกำลังใจแม้จะเจอปัญหาและอุปสรรค แต่ก็สามารถผ่านมาได้เสมอ
วันนี้พี่โอ (คุณสมหญิง) R2R Fa จาก รพ.ป่าติ้ว มาร่วมหารือเกี่ยวกับทิศทางการขับเคลื่อน R2R สไตล์ของป่าติ้วเป็นอะไรที่เรียบง่าย ได้สรุปภาพให้พี่โอฟังว่า คำเขื่อนแก้วจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ค้อวังจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง มหาชนะชัยจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง เลิงนกทาก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ส่วนป่าติ้วเองก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างที่หลากหลายเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองแต่เป้าหมายเดียวกัน คือ การพัฒนางานประจำด้วยการทำวิจัย
บอกกับตนเองเสมอว่าการเรียนจบปริญญาโท ปริญญาเอก บทบาทที่สำคัญคือ การทำวิจัย หรือการใช้วิจัยมาเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาสิ่งต่างๆ และทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษานำพาผู้คนนำเครื่องมือ R2R มาใช้ประโยชน์ในการพัฒนางาน
19-04-2560
ไม่มีความเห็น