(106)
วันอาทิตย์ที่ 16 เมษายน
เช้าวันนี้มีทำบุญใส่บาตรในวัดเนื่องด้วยพิธีสรงน้ำพระพิชิตมาร พระบรมสารีริกธาตุ องค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์ พระภิกษุ สามเณร ช่วงเช้าเป็นพิธีตักบาตร เวลาบ่ายสามโมงเป็นพิธีสรงน้ำ
แม่และหลานๆ มาร่วมทำบุญใส่บาตร ช่วงเวลาที่ใส่บาตรหลวงปู่ พระภิกษุ สามเณรเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นและสดชื่น และมีกัลยาณมิตรคือครอบครัวน้องหยินมาร่วมใส่บาตรด้วย
เมื่อมีเหตุพิจารณาเกิดขึ้น การลงใจตรงที่คำปรากฏว่า "ปลงลง" ทำให้วันนี้มีสภาวะใจเย็น สงบ แต่มองไปรอบตัวกลับสัมผัสความทุกข์เศร้าหมองของผู้คน
หลังสรงน้ำองค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์ เสร็จก็มาสรงน้ำคุณยายชี เป็นธรรมเนียมปฏิบัติทุกๆ ปีมิได้ขาด แม้ไม่มีใครทำแต่ใจเราระลึกถึงพระคุณของท่านช่วงมาปฏิบัติภาวนาที่นี่ใหม่ๆ มีท่านคอยดูแลเกื้อกูล
คนให้ทำบุญเก่งแค่ไหน ดีแค่ไหนหากแต่ไม่มีความกตัญญูรู้คุณนั่นแสดงถึงใจดวงนี้ยังไม่ซึมซับสภาวะธรรมอันละเอียดลึกซึ้ง
"ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือ ชีวิตที่อยู่ด้วย ทาน ศีล เมตตา และกตัญญู"--เป็นคำสอนขององค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์
มาพิจารณาเรื่องความกตัญญู เพียงระลึกถึงและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ นั่นก็แสดงออกถึงความเคารพและรู้คุณ
ตอนเย็นนั่งสนทนากับคุณยายชี ย้อนมองแปดปีที่มาอยู่ที่นี่มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น ได้เห็นสภาวะธรรมที่เกิดขึ้นในใจตนเอง เกิดการเรียนรู้กับตนเองว่า ยิ่งอยู่ใกล้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ยิ่งต้องเคารพยำเกรงในท่าน ยิ่งท่านเมตตามากเท่าไหร่ยิ่งต้องใช้ปัญญาพิจารณาให้ละเอียดลึกซึ้ง ทุกอย่างต้องดำเนินไปในทางธรรม เราจะนำวิธีแบบโลกๆ มาใช้กับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ไม่ได้
หลายปีที่ผ่านมามีตัวอย่างให้เห็นเพื่อสอนตนเอง สิ่งที่น่ากลัวและน่าระวังตัวมากคือ ความหลง(โมหะ) สติกับปัญญาเท่านั้นที่จะแก้ความหลงนี้ได้ การภาวนาจะทำให้มีสติและมีปัญญา
อุปนิสัยพ่อแม่ครูบาอาจารย์แต่ละองค์ท่านแตกต่าง บางองค์ท่านเรียบง่ายเข้าถึงง่าย บางองค์ท่านสุขุมเข้มงวด แม้ว่าท่านให้ความรักความเมตตาแบบเป็นกันเอง หน้าที่ของเราคือ ต้องระวังตัวปฏิบัติต่อองค์ท่านไม่ลามปาม สิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นทุกยุคสมัย พอพ่อแม่ครูบาอาจารย์มอบความเป็นกันเองให้ ก็มักจะประพฤติปฏิบัติต่อท่านแบบวิธีโลกๆ นี่คือสิ่งที่เตือนตนเองว่า "ยิ่งให้ระวังตัวเราให้มาก"
"บุญก็อยู่ที่นี่ บาปก็อยู่ที่นี่" อยู่ที่ใจดวงนี้ดวงเดียว
เมตตานั้นคือทางที่ท่านนำพาปฏิบัติและความกตัญญูก็คือ สิ่งที่ท่านทำให้ดูทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง ให้ระวังกิเลสในใจเราที่นำพาไปอยากได้สิ่งนั้นสิ่งนี้จากท่าน ใจที่ยึดในคำบริกรรมภาวนา เช่น พุทธ-โธ คือ ที่ที่ปลอดภัยของใจเราที่สุดเวลาเข้าหาหรือเข้าใกล้ท่าน ใจไม่อยากเอา อยากได้ อยากเป็น ใจที่อยู่กับสติและความเป็นปัจจุบันคือ ใจของเราในฐานะลูกศิษย์พึงฝึกฝนตนเอง
"พระอุปัชฌาย์" ในนัยทางสายปฏิบัติดั่งองค์พระหลวงตามหาบัวท่านเมตตาสอนและย้ำพร้อมทำให้ดูคือ "เป็นดั่งพ่อ-แม่-ครูบาอาจารย์" พร้อมทุกอย่างในคำๆ นี้ ดังนั้นในสายปฏิบัติ เมื่อเราได้พ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์ใดเป็นพระอุปัชฌาย์ จึงเทิดทูนองค์ท่านไว้เหนือสิ่งอื่นใด ---เป็นบทธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่ระลึกกับตนเองเสมอจากคำสอนขององค์พระหลวงตามหาบัว
โชคดีวาสนาชีวิตที่มีโอกาสได้บวชและมีองค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์เปรียบดั่งองค์ประธานในการบวช คือ องค์หลวงปู่ประสาร สุมโน พร้อมทั้งกล่าวคำถวายตัวถวายชีวิตแด่พระพุทธศาสนามาจนถึงปัจจุบันนี้และติดดวงจิตนี้ไปตลอดกาล
"ให้ระลึกเทิดทูนเคารพองค์ท่าน"
นี่เป็นบทเรียนทำให้ย้อนกลับมามองตนเอง ทบทวนตนเอง
16-04-2560
ไม่มีความเห็น