การตรวจค้นหามะเร็งระยะเริ่มแรก
ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในร่างกายหากสามารถตรวจพบได้ในระยะเริ่มต้นของความผิดปกติก็สามารถดำเนินการรักษา ป้องกัน และเฝ้าระวังได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามการดำเนินไปของความผิดปกติบางชนิดไม่ก่อให้เกิดอาการแสดงทางร่างกายภายนอกที่สามารถพบได้ด้วยตาเปล่า ต้องอาศัยเทคนิควิธี การตรวจทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ที่ต้องใช้สารบ่งชี้ทางชีวภาพต่างๆ เทคโนโลยีที่มีความไว และความจำเพาะ ร่วมกับสิ่งส่งตรวจต่างๆ จากร่างกายเพื่อแสดงสถานะสุขภาพ อันเป็นการประเมินสุขภาพภายในร่างกาย ประกอบกับข้อมูลภายนอกจากการซักประวัติ อาการต่างๆ ล้วนเป็นข้อมูลในการใช้ประเมินสถานะสุขภาพได้อย่างครบถ้วนต่อไป โดยเฉพาะโรคมะเร็งที่มีการดำเนินโรคอย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป มักไม่ปรากฏอาการ และมักปรากฏอาการแสดงภายนอกเมื่อการดำเนินโรคเป็นไปมากแล้ว ดังนั้นข้อมูลต่อไปนี้จึงมีประโยชน์ในการใช้ประเมินสถานะสุขภาพ ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ ดังนี้
1. ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติ ปัจจัยต่างๆ
2. การตรวจร่างกายโดยละเอียด ทั้งการตรวจเบื้องต้นด้วยตัวเอง หรือจากผู้เชี่ยวชาญ แพทย์ เช่น การตรวจดูลักษณะของผิวหนัง คอ ทรวงอก(เต้านม) หรือการถ่ายอุจจาระ เป็นต้น
3. การตรวจทางห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ โดยผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ หรือนักเทคนิคการแพทย์ ซึ่งมีความแม่นยำและความถูกต้องในผลการวิเคราะห์ เพื่อที่จะนำไปสู่การนำไปใช้เป็นข้อมูล ใช้เป็นแนวทางในการวินิจฉัย การสืบค้นหา การรักษา และติดตามดูผลของการรักษา เป็นต้น
4. การตรวจทางเอกเรย์ ซึ่งจะมีประโยชน์ในการวินิจฉัยโรคและการรักษาสุขภาพ เช่น การเอกซเรย์ปอดเพื่อดูความผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องของวัณโรคหรือมะเร็งปอด การเอกซเรย์ระบบทางเดินอาหารเพื่อดูความผิดปกติของกระเพาะตลอดจนลำไส้ใหญ่ หรือตรวจเต้านมโดยทำ mammogramเพื่อดูลักษณะหรือจุดตำแหน่งที่พบ
5. การตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ หลักการที่สำคัญ คือในกรณีที่แพทย์สงสัยตามอาการที่ตรวจพบ แพทย์จะมีการให้ผู้ป่วย กลืน/ฉีด สารกัมมันตภาพรังสีบางชนิดแล้วทำการถ่ายภาพดูการกระจายของเป้าหมายที่สร้างสารนั้นแสดง เช่นเรื่องการตรวจเนื้องอกของต่อมไทรอยด์ สมองหรือที่ตับ เป็นต้น
6. การตรวจทางเซลล์วิทยา และทางพยาธิวิทยา เป็นวิธีการพื้นฐานของการตรวจภาวะเสี่ยงหรือมะเร็งในระยะแรกของอวัยวะบางชนิด เช่น จากการดูเยื่อบุในช่องปาก หรือช่องคลอด เป็นต้น
โรคมะเร็งส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง แต่อาจมีสาเหตุรวมซึ่งอาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นการดูแลร่างกายของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ และพบแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อความผิดปกติต่างๆอย่างน้อยปีละครั้งจึงมีความจำเป็น ด้วยเหตุดังกล่าวการตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มแรกจะมีประโยชน์ในการวางแผนการรักษาที่มักจะประสบผลสำเร็จ ผู้ป่วยมีการฟื้นฟูได้เร็ว สามารถป้องกันการรุกรานของมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นในระยะยาวได้
สัญญาณอันตราย 8 ประการ
หากมีข้อใดข้อหนึ่งใน 8 ข้อนี้ถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย ควรต้องพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และตรวจว่ามีโรคมะเร็งอยู่หรือไม่ เพราะถ้าพบตั้งแต่แรกๆ โอกาสในการรักษามีโอกาสหายขาดได้
อาการของโรคมะเร็ง
มะเร็ง... รักษาได้
มะเร็งหลายชนิดสามารถรักษาให้หายขาดได้และแม้ว่ามะเร็งอีกหลายชนิดจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การรักษาจะทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตที่ยืนยาว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
วิธีการรักษามะเร็งมี 3 วิธีที่สำคัญคือ การผ่าตัด เพื่อนำเอาก้อนมะเร็งออก การฉายรังสี สำหรับมะเร็งที่ไม่สามารถผ่าตัดออกได้หรือผ่าตัดออกได้ไม่หมด หรือให้ร่วมกับการผ่าตัดแบบสงวนอวัยวะ การให้เคมีบำบัด ซึ่งเป็นยาฆ่าเซลล์มะเร็งเพื่อยับยั้งหรือทำลายเซลล์มะเร็งที่แพร่กระจายไปอวัยวะอื่นๆ
ปัจจุบัน การรักษาโรคมะเร็งจะผสมผสานวิธีร่วมกันเพื่อเพิ่มโอกาสในการควบคุมโรค โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาจะประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางในการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละคน
บทบาทของนักกิจกรรมบำบัดในโรคมะเร็ง
“แม้ร่างกายจะอ่อนแอ แต่จงปล่อยวางและพัฒนาจิตวิญญาณด้วยการกระทำดีของเราต่อไป”
อ้างอิงจาก
คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2550). มะเร็งร้าย พ่ายมีดหมอ. สถานที่พิมพ์ : บริษัท สรรพสาร จำกัด
ISBN 978-974-8485-12-6
งานบริการเทคนิคการแพทย์ชุมชน ศูนย์ความเป็นเลิศการบริการสุขภาพและมาตรฐานวิชาชีพ คณะเทคนิคการแพทย์
มหาวิทยาลัยมหิดล. (ม.ป.ป.). มะเร็งที่ทุกคนควรรู้. สถานที่พิมพ์ : หจก. เหยินหยาง โฟร์ คัลเลอร์
ISBN 978-974-11-1558
ศุภลักษณ์ เข็มทอง. (2537). กิจกรรมบำบัดเพื่อประชาชน. สถานที่พิมพ์ : สำนักพิมพ์แสงดาว จำกัด
ISBN 978-616-508-503-8
ไม่มีความเห็น