(49) พายเรือวนไปเมื่อไหร่จะถึงฝั่ง "นิทานวันเสาร์"
วันนี้อยู่ๆ จิตก็ไปนึกถึงเรื่องพายเรือล่องไปในวัฏสังสาร ก็จินตนาการไปเห็นเป็นภาพเรือหนึ่งลำที่มีผู้คนลงไปในเรือนั้น แล้วพฤติกรรมของคนบนเรือก็แตกต่างกันออกไป บางคนก็ช่วยกันพายเรือ บางคนก็นั่งวิดน้ำที่ไหลเข้าไปในเรือ บางคนก็เอาเท้าลาน้ำ บางคนก็นั่งอุ้มก้อนหินไว้ ... บางจังหวะก็พายเรือกันไม่สอดรับกัน พายกันไปคนละทิศละทาง
ก็ย้อนกลับมาพิจารณา เหมือนเรามีเป้าหมาย คือ ฟากฝั่งที่เราอาศัยเรือนั่งข้ามฟากไป เรือก็เปรียบดั่ง "ทาน ศีล ภาวนา" และการปฏิบัติเพื่อละออกจากกิเลส มีความเพียร และจิตมุ่งมั่นช่วยกันพาย การนั่งเอาเท้าลาน้ำหรือแบกก้อนอิฐไว้นั้นก็อุปมาอุปไมดั่งคนไม่ละชั่ว ตกเป็นธาตุของกิเลส นอกจากจะไม่สร้างจิตของตัวเองไม่ให้มีความเพียรแล้ว ยังทำให้เรือคอยแต่จะล่มหรือจม
ทำให้นึกถึงคำสอนพ่อแม่ครูบาอาจารย์ว่า กัลยาณมิตรที่มีภูมิธรรมใกล้เคียงกันจะช่วยเกื้อหนุนให้ไปถึงฟากฝั่งนั้นเร็วขึ้น
คนนั่งอุ้มก้อนหินอยู่ก็เปรียบดั่งนั่งแบกกองกิเลสนั้นไว้ เอาแต่คร่ำครวญว่าเมื่อไหร่จะถึงฝั่ง แต่ไม่ยอมปล่อยก้อนหินลงและช่วยคนอื่นพายเรือ หรือการเอาเท้าลาน้ำ ทำให้การพายเรือลำบาก ก็เปรียบดั่งคนที่นอกจากไม่ช่วยเหลือยังขัดขวางให้เราไปถึงเป้าหมายได้ลำบาก
เมื่อมีคนในลักษณะนี้ร่วมไปในเรือของเรา
เราจะปฏิบัติต่อเหตุการณ์นี้เช่นไร ในขณะที่เรือแทบจะจมลงปริ่มน้ำแล้ว
ในทัศนะส่วนตัว แว้ปคิดขึ้นมาว่า สละเรือแล้วหนีออกเดินทางไปคนเดียวน่าจะง่ายกว่า หรือ... ไล่คนที่คอยถ่วงลงจากเรือ หรือไม่ทำอะไรปล่อยให้คนในเรือจมน้ำลงไปพร้อมๆ กัน... หรือต้องหาวิธีไปแย่งก้อนหินนั้นแล้วทิ้งลงไปในน้ำ และบอกคนที่เอาเท้าลาน้ำให้ยกขาขึ้นมา
แม้ว่าตลอดเส้นทางจะเป็นเช่นนี้ ถ้าคิดจะพ่วงเรือกันไปก็ต้องช่วย ถ้าไม่อยากเจอก็ต้องสละเรือ และไปลำพัง
...
18-02-2560
ไม่มีความเห็น