(36)
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ การใช้ชีวิตยังคงอยู่ที่วัด
อากาศตอนเช้าค่อนข้างเย็นแต่ก็แปลกใจว่าสามารถอาบน้ำเย็นในช่วงตีห้าได้ บริเวณโซนที่พักเรียกว่า บ้านแม่ชี จะอยู่ใกล้หนองไคร้ ความเย็นของน้ำที่พัดมาและต้นไม้ใหญ่ทำให้อากาศบริเวณนี้ค่อนข้างหนาวเย็น แต่เมื่อเดินมาโซนด้านหน้าวัด อากาศกลับอบอุ่น
กิจวัตรที่ทำ ก็ยังทำเหมือนเดิม ออกมาทำอาหารถวายพระ และดูแลเด็กๆ ทำกิจกรรมต่างๆ กวาดถู ศาลา ล้างห้องน้ำ ช่วงนี้หลวงปู่ไปกิจนิมนต์ที่กรุงเทพ เด็กแฝดเลยมีโอกาสได้นอนที่บ้านและเมื่อทำกิจกรรมเสร็จ ก็เลยอนุญาตให้กลับไปบ้านได้ เด็กสองคนนี้ค่อนข้างโตเร็ว ส่วนบอยกับทุ่ง เขาเติบโตมาเป็นเด็กวัดได้รับการบ่มเพาะอบรมจากพระอาจารย์ และคอยรับใช้หลวงปู่และพระอาจารย์รูปอื่นๆ อย่างเช่นบอยขับรถเป็นแล้วก็พาไปกิจนิมนต์ในหมู่บ้านได้
เวลาที่เห็นเด็กทำกิจกรรมที่วัด มักเป็นอะไรที่ทำให้รู้สึกชื่นใจ อย่างเช่น น้องนิน้อยเวลาถูพื้นก็มักจะมาคอยถูใกล้ๆ และคอยเมียงมองว่าจะเราเห็นในสิ่งที่ตัวเองทำหรือไม่ ส่วนพี่สาวคือน้องเมย์นี่เวลาทำภารกิจที่มอบหมายก็จะมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน แฝดอ้ายแฝดน้องก็มักจะทำไปด้วยเล่นไปด้วย
พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านจะอยู่หรือไม่อยู่ ข้อปฏิบัติต่างๆ ก็ทำเช่นเดิม การฝึกฝนเช่นนี้ทำให้จิตใจเรามีความมั่นคง แน่วแน่ ไม่ต้องคอยทำเฉพาะบางเวลา การทำข้อปฏิบัติสะท้อนให้เห็นถึงการยึดมั่นเคารพบูชาในคำสอนของท่าน มากกว่าการยึดที่ตัวท่าน การน้อมทำถือได้ว่าเป็นการทำเพื่อปฏิบัติบูชาพ่อแม่ครูบาอาจารย์นั่นเอง
ช่วงบ่ายเข้าพักภาวนาที่กุฎิ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้พักแต่กลับได้ซ่อมร่างกายเพราะอยู่ๆ ก็มีอาการปวดขาขึ้นมา จึงรบกวนให้น้องนีและแม่รีช่วยนวดกดจุดด้วย วันนี้เรามีการทดลองเล็กๆ ขณะนวดคือ แม่รีสวดอิติปิโสไปด้วยขณะนวด สัมผัสได้ถึงพลังของนิ้วมือที่กดลงไป ก็เลยทดสอบซ้ำโดยให้น้องนีลองบ้างปรากฏว่าพลังที่เกิดขึ้นมีมากกว่าการนวดแบบไม่สวดมนต์ ถ้าการนวดเพื่อการรักษา นวดไปด้วยภาวนาไปด้วยนี่กำลังก็จะมีมากซึ่งเป็นกำลังที่มาจากพลังจิตนั่นเอง(ความคิดความเชื่อส่วนตัว)
เย็นวันนี้กลับเข้าบ้านแม่ จัดการงานที่คั่งค้างให้เรียบร้อยก่อนถึงวันจันทร
นำภาพหลวงปู่สมัยท่านอายุ 35 ปีเข้ากรอบและแขวนไว้ผนังบ้าน เพราะตอนที่ท่านมอบให้ท่านเน้นย้ำอยู่สองสามครั้งว่าให้นำไปแขวนไว้ผนังบ้าน การได้น้อมทำตามท่านทำให้หัวใจนี้นอบน้อมและอ่อนโยนไม่กระด้าง
05-02-256
ไม่มีความเห็น