การถ่ายทอดนโยบายของรัฐลงสู่การปฏิบัติ ยังคงมีคำถามในใจผมหลายคำถาม...
กี่ลำดับชั้นของการถ่ายทอดจากผู้คิดนโยบาย จนถึงผู้ปฏิบัติ?
การถ่ายทอดนั้น เนื้อความในหนังสือราชการคงอยู่ครบถ้วน แต่การตีความนำไปสู่การปฏิบัติ มันจะมีผิดเพี้ยนบ้างไหมในระหว่างลำดับชั้น?
นโยบายสั่งมาเป็นกลางๆ แต่ของจริงในพื้นที่มีบริบทแตกต่างหลากหลาย คนทำงานนำสู่การปฏิบัติ ต้องตีความตามความเข้าใจเพื่อนำไปปฏิบัติ กระบวนการตีความ ทำเดี่ยว (เฉพาะผู้ที่รับมอบหมาย) หรือ ทำเป็นทีม?
ฯลฯ
ผมรู้สึกเห็นใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการที่ต้องแปลงสัญญานนโยบายออกมาเป็นการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ที่เห็นใจคือ ผมไม่ค่อยเห็นกระบวนการเรียนรู้ทำความเข้าใจนโยบาย ส่วนใหญ่เห็นแต่ การให้หัวหน้าส่วนตามลำดับชั้น มารับฟัง แล้วนำไปสั่งการต่อ อันนี้ที่น่าห่วง เพราะมันทำให้มี "ป่ากิจกรรม" ดำมืดไปหมด แต่ไม่ค่อยเห็นผลการเปลี่ยนแปลงในเชิงการพัฒนาแบบจะจะ สักเท่าใด ปัญหาเลยมีแต่ "ป่ากิจกรรมเลื่อนลอย" นโยบายเก่ายังไม่สำเร็จเท่าไหร่ นโยบายชุดใหม่สั่งการลงมาแล้ว คนทำ ก็เร่งทำ ผลงานจะได้คุณภาพแค่ไหน ไม่สนใจแล้ว เอาแค่ผ่านก็พอ ที่น่าเศร้าใจมาก คือ งบประมาณแผ่นดินต้องมาลงทุนกับการทำ "ป่ากิจกรรมเลื่อนลอย" มากมายก่ายกอง
น่าจะช้าลงสักนิด ประณีตกับกระบวนการแปลงสัญญานนโยบายสู่การปฏิบัติ ทีมงานปฏิบัติการ อย่างน้อยระดับจังหวัด น่าจะได้รับโอกาสให้มีการพูดคุยทำความเข้าใจคุณค่าจริงๆ แท้ๆ ของสิ่งที่กำลังจะลุยทำว่าหน้าตาของเป้าหมายนั้นคืออะไรกันแน่? และความท้าทายของพื้นที่ฉันมีอะไรบ้าง? คุณค่าของสิ่งที่กำลังจะทำมันคืออะไร?
นี่คือความท้าทาย เพราะเป้าหมายงานพัฒนาเชิงสังคม ไม่ชัดแบบเป้าหมายงานธุรกิจ แถมมันยังเป็นระบบซับซ้อนมากๆ การพูดคุยให้ความหมายเรื่องราวของเป้าหมายจึงต้องพาทำกันเสมอๆ เพราะสังคมมันเปลี่ยนอยู่เสมอ
เราจะต้องหลงอยู่ในป่ากิจกรรมเลื่อนลอยอีกนาน หากเรายังจับทิศทางเป้าหมายไม่ได้ ก็ยากที่จะออกจากป่าแห่งนี้ได้
ไม่มีความเห็น