งาน
๏ สืบเนื่องจากนโยบาย : พี่ผู้ใหญ่พัดเล่าให้พวกเราฟังว่ากระทรวงมหาดไทยโดยกรมพัฒนาชุมชน มีนโยบายงานศพปลอดสุราและอบายมุข ขึ้น โดยกำหนดให้บ้านดอนเกษมเป็นหมู่บ้านนำร่องในโครงการดังกล่าว เนื่องจากบ้านดอนเกษมเป็นหมู่บ้านของกำนัน (กำนันถวิล ในสมัยนั้น) พวกเราตื่นเต้นและสนใจโครงการดังกล่าวมาก ผู้ใหญ่ทองพูลจึงสอบถามต่อไปว่างานศพที่บ้านดอนเกษม เมื่อสัปดาห์ที่แล้วปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ พี่ผู้ใหญ่พัดบอกว่าเจ้าภาพเขาไม่สนใจไม่ให้ความร่วมมือ และยังมีการจัดเลี้ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดงานอีกด้วย และงานก่อนหน้านั้นก็ยังมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่เช่นเคย และเราได้เคยสอบถามพื้นที่อื่นที่ใช้นโยบายดังกล่าวส่วนใหญ่ก็มักไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเท่าที่ควร มีการจัดเลี้ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานเช่นเคย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเพราะหน่วยงานรับผิดชอบไม่ได้กำกับติดตามอย่างเข้มข้น
๏ แนวคิดเรื่องความสมัครใจ ไอเดียสู่ความยั่งยืน : พวกเราเห็นพ้องต้องกันว่าการใช้นโยบายบังคับไม่ให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในงานบุญต่างๆ มักไม่ได้รับความร่วมมือ และไม่ได้ผลเท่าที่ควร ทางออกของปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องสร้างกระแสในชุมชนให้เห็นความสำคัญของโครงการ งานบุญที่จะปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น เจ้าภาพจำเป็นต้องมีความพร้อม มีความตั้งใจ และสมัครใจเข้าร่วมโครงการงานบุญปลอดเหล้า อีกทั้งควรมีการประกาศเกียรติคุณยกย่องเชิดชูเกียรติแก่เจ้าภาพที่จัดงานบุญปลอดเหล้าฯ รวมถึงควรสร้างแรงจูงใจด้วยการให้รางวัลสนับสนุนบ้างเล็กน้อย
พวกเราเห็นว่าการขับเคลื่อนแนวคิดการงดดื่มเหล้าในงานบุญต่างๆเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน และต้องเป็นมติร่วมกันทั้งตำบล พวกเราจึงเห็นชอบให้มีการประชุมระดมความคิดเพื่อจัดตั้งกองทุนงานบุญปลอดเหล้า(ภาคสมัครใจ) ตำบลปาฝา ขึ้น
๏ เหล็กร้อนต้องรีบตี : เมื่อสุมไฟให้แรงเหล็กร้อนแดงให้เร่งตี บทบาทของนักสาธารณสุขอย่างผู้เขียนไม่รีรอที่จะประสานท่านถวิล ฉันวิจิตร (กำนันตำบลปาฝา ในขณะนั้น) ช่วยเป็นแกนนำหลักในการขับเคลื่อน ผู้เขียนมีมุมมองส่วนตัวว่าผู้นำชุมชนฝ่ายท้องที่ซึ่งได้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คือพันธมิตรของนักสาธารณสุขชุมชนที่แนบแน่นเสมือนเพื่อนแท้ ผู้เขียนมีความสุขและอบอุ่นเสมอเมื่อร่วมงานกับฝ่ายท้องที่ ร่วมงานกันด้วยใจไม่ได้เกี่ยงว่ามีงบประมาณหรือไม่ ให้เกียรติหน่วยงานจากทุกกระทรวง ทบวงกรม ดังนั้นกลไกการขับเคลื่อนโครงการงานบุญปลอดเหล้า(ภาคสมัครใจ)ตำบลปาฝา ในระยะแรกผู้เขียนจึงเน้นฝ่ายท้องที่เข้ามาเป็นแกนหลัก และประสานเชิญภาคีเครือข่ายอื่นในชุมชน ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นตัวแทนครูและผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำทางศาสนา เครือข่าย อสม. เข้ามาร่วมประชุมระดมความคิด รับทราบสถานการณ์ปัญหา และร่วมกันจัดตั้งกองทุนงานบุญปลอดเหล้า(ภาคสมัครใจ)ตำบลปาฝา ดังนั้นภารกิจสำคัญของผู้เขียนก็คือ การค้นคว้าข้อมูลสถานการณ์การดื่มแอลกอฮอล์นำเสนอต่อภาคีเครือข่าย ให้น่าสนใจ มองเห็นสภาพปัญหาชัดเจนยิ่งขึ้น
๏ ประชาคมเวทีแรก :ในเดือนกันยายน 2555 เราเชิญทุกภาคส่วนร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อขับเคลื่อนโครงการงานบุญปลอดเหล้า(ภาคสมัครใจ)ตำบลปาฝา โดยเราได้รับความเมตาจาก พระครูสุตวิมลพระคุณเจ้าเจ้าคณะตำบลปาฝา เขต ๒ เป็นประธานที่ปรึกษา สมาชิกสภาจังหวัด(เขต อ.จังหาร) ประธานสภา อบต.ปาฝา นายก อบต.ปาฝา ผอ.โรงเรียนบ้านม่วงน้ำ และสาธารณสุขอำเภอจังหาร เป็นที่ปรึกษา และภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมประชุมอีกมากมายเช่น ครู กศน. นักพัฒนาชุมชน ตัวแทนครู ปลัด อบต. ผู้ใหญ่บ้าน ส.อบต. อสม. ผู้เขียน และเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ปาฝารวมทั้งสิ้น ๖๐ คน โดยท่านสาธารณสุขอำเภอ ได้ให้เกียรติเป็นประธานในการประชุมฯ บรรยากาศในการประชุมนัดแรกนี้ เริ่มต้นที่ผู้เขียนได้นำเสนอภาพรวมสภาพปัญหาและสถานการณ์การการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชน โดยมีประเด็นนำเสนอต่อที่ประชุม พอสังเขปดังนี้
1)การจัดงานบุญต่างๆในชุมชนมีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เฉลี่ยงานละประมาณ ๒๐,๐๐๐ บาท
2)งานบุญขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย เกิดความวุ่นวายเนื่องจากคนเมาสุรา สร้างปัญหารบกวน
3)การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังเกิดผลกระทบต่างๆตามมาอีกมากมาย ได้แก่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เกิดผลกระทบด้านสุขภาพ เช่นปัญหาโรคมะเร็งตับ โรคกระเพราะและลำไส้ เกิดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ เช่นสิ้นเปลือง ขาดรายได้ เป็นต้น เกิดผลกระทบด้านสังคม เช่นการดื่มเหล้ามักนำสู่ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เกิดเหตุทะเลาะเบาะแว้ง ผิดศีลธรรม เป็นต้น
จึงเป็นโจทย์ให้พวกเราร่วมกันคิดว่าจะทำอย่างไรงานบุญต่างๆในชุมชนของเราจึงจะปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างยั่งยืน ที่ประชุมมีความเห็นพ้องกันว่าต้องเกิดจากความสมัครใจของเจ้าภาพ โครงการงานบุญปลอดเหล้า(ภาคสมัครใจ)ตำบลปาฝา จึงน่าจะตอบโจทย์ในเรื่องนี้ดีที่สุด โดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกันคือ
จากนั้นจึงมีการระดมความคิดร่วมกันกำหนดระเบียบกองทุนงานบุญปลอดเหล้า(ภาคสมัครใจ) ตำบลปาฝา ฉบับแรกขึ้น พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการกองทุนงานบุญปลอดเหล้า (ภาคสมัครใจ) ตำบลปาฝา ชุดที่ 1 (ปีงบประมาณ ๒๕๕๖-2557) โดยมีการแบ่งโครงสร้างคณะกรรมการ ออกเป็น ๓ คณะ ดังนี้
๑) คณะกรรมการที่ปรึกษา ๕ คน ๒) คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ๒๕ คน
๓) คณะกรรมการดำเนินงานกองทุนฯ(คณะทำงาน) จำนวน ๑๓ คน
๏ หลักเกณฑ์ ขั้นตอนการสมัครเข้าร่วมโครงการงานบุญปลอดเหล้า(ภาคสมัครใจ)ตำบลปาฝา
๏ การระดมทุนจัดตั้งกองทุนงานบุญปลอดเหล้า(ภาคสมัครใจ) ตำบลปาฝา
ปี ๒๕๕๖ เริ่มก่อตั้งกองทุนได้รับการสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ เป็นเงิน ๑๗,๐๐๐ บาท ดังนี้
ปี ๒๕๕๗ ได้รับการสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ เป็นเงิน ๖๓,๕๒๕ บาท ดังนี้
๏ ผลการดำเนินงานกองทุนงานบุญปลอดเหล้า(ภาคสมัครใจ) ตำบลปาฝา
5)เกิดการมีส่วนร่วมในการจัดการสุขภาพของทุกภาคส่วนในชุมชน ๕) ประชาชนมีความพึงพอใจโครงการ
๏ ปัจจัยแห่งความสำเร็จ : โดยสรุปโครงการงานบุญปลอดเหล้า (ภาคสมัครใจ) ตำบลปาฝา สามารถทำให้ประชาชนตำบลปาฝา ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานบุญต่างๆ ช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นการลดค่าใช้จ่ายในการจัดงานบุญ อีกทั้งโครงการนี้ยังได้ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระแก่เจ้าภาพที่จัดงานบุญอีกด้วย ถือเป็นการสร้างต้นแบบที่ดีของชุมชน และช่วยให้การจัดกิจกรรมงานบุญในชุมชนเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งประเด็นสำคัญที่เป็นปัจจัยนำไปสู่ความสำเร็จ มี 2 ประการหลักๆคือ “ความสมัครใจ” หมายถึง การที่เจ้าภาพงานบุญต่างๆมีความตั้งใจ และเจตนาที่จะทำให้งานบุญของพวกเขาเกิดความเรียบร้อย ประหยัดค่าใช้จ่าย และที่สำคัญได้รับอานิสงส์จากงานบุญที่พวกเขาจัดขึ้น เป็นเครื่องยืนยันว่าเจ้าภาพและญาติมีความสมัครใจเข้าร่วมโครงการอยู่แล้ว ส่วนคณะกรรมการตรวจประเมินนั้นเป็นเพียงเครื่องมือการันตีและยืนยันให้เกิดความน่าเชื่อถือมากขึ้น และปัจจัยนำไปสู่ความสำเร็จอีกประการหนึ่ง คือ “ความเข้มแข็งของภาคีเครือข่ายต่างๆในชุมชน” กล่าวคือโครงการนี้เกิดขึ้นจากความต้องการเห็นสังคมดีงามของกลุ่มผู้นำชุมชนและเครือข่ายต่างๆ จึงเกิดการมีส่วนแก้ไขปัญหาของชุมชนตั้งแต่กระบวนการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมประเมินผล เป็นการร่วมมือกันของหลายภาคส่วนที่ไม่ได้เอางบประมาณเป็นตัวตั้งหากแต่เอาหัวใจและการประสานงานแนวราบขับเคลื่อนโครงการซึ่งจะเห็นได้จาก การร่วมกันเป็นกรรมการ การระดมงบประมาณ การร่วมกันขับเคลื่อนโครงการเป็นต้น
๏ ข้อเสนอแนะในการพัฒนาโครงการต่อไป
1.เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของโครงการ เจ้าภาพสมัครใจเข้าร่วมโครงการโดยความตั้งใจอย่างแท้จริง การดำเนินงานโครงการในระยะต่อไป อาจมีการตัดเงินสนับสนุนเงินค่าเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ๑,๐๐๐ บาทแก่เจ้าภาพออกไป แต่อาจปรับเปลี่ยนเป็นการให้เจ้าภาพร่วมจ่ายค่าตอบแทนแก่คณะกรรมการตรวจประเมิน แต่ในส่วนของประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติควรมีไว้เช่นเดิม
2.เพิ่มความเข้มข้นในการประชาสัมพันธ์เชิดชูเกียรติคุณแก่เจ้าภาพที่เป็นแบบอย่างที่ดีของชุมชนในหลายๆเวที เพื่อให้เป็นกระแสนิยมให้เกิดความสมัครใจเข้าร่วมโครงการ
1 ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปาฝา , สาธารณสุขศาสตร์มหาบัณฑิต(การจัดการระบบสุขภาพ)
ไม่มีความเห็น