สวัสดีค่ะ กลับมาเขียน Blog ครั้งแรกของปี 4 ในหัวข้อเรื่อง
“กิจกรรมบำบัดในการยศาสตร์และการฟื้นฟูการประกอบอาชีพ”
โดยเคสที่เลือกมานำเสนอในวันนี้มี 2 เคสด้วยกันค่ะ
“เคสวัย 65 ปีที่เป็นรูมาตอยด์มา 5 ปี ต้องดูแลแม่วัย 97 ปี ไม่ได้ทำงานประจำ เดิมมีความสามารถเป็นผู้จัดการบริษัทก่อสร้างต่างชาติ และชอบทำอาหารไทย กำลังกลุ้มใจเพราะมีหนี้สินกว่า 2 ล้านบาท”
เขียนตาม PEOP Model ได้ดังนี้ค่ะ
P(Person) |
E(Environment) |
O(Occupation) |
P(Performance) |
เคสวัย 65 ปี โรคประจำตัว : Rheumatoid arthritis (5 ปี) เดิมมีความสามารถเป็นผู้จัดการบริษัทก่อสร้างต่างชาติ Habit : ชอบทำอาหารไทย Physiological : มีข้อจำกัดในการทำกิจกรรม เนื่องจากมีปวด บวม แดง ร้อนที่ข้อต่อ, ขยับลำบาก Mental : กลุ้มใจเรื่องหนี้สิน |
Social : แม่วัย 97 ปี Financial status : หนี้สินกว่า 2 ล้านบาท |
Work : ไม่ได้ทำงานประจำ Care of others : ดูแลแม่ |
Role : ลูก Ability : มีความรู้ความสามารถเรื่องการจัดการเนื่องจากเคยเป็นผู้จัดการบริษัทก่อสร้างต่างชาติ, สามารถทำอาหารทำได้ Skill : เมื่อผู้รับบริการได้รับบทบาทเป็นพ่อครัว/แม่ครัว ทำอาหารขาย ก็จะได้ทำอาหารซ้ำๆ จนเกิดเป็นทักษะ |
บทบาทของนักกิจกรรมบำบัดอันดับแรกคือการสร้างสัมพันธภาพ โดยการใช้ Therapeutic use of self เพื่อประเมินและค้นหาปัญหา, ความต้องการของผู้รับบริการ
ประเมินและเรียงลำดับปัญหาของผู้รับบริการได้โดย
Diagnostic reasoning : โรครูมาตอยด์เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง เป็นการอักเสบของข้อและเป็นโรคที่มีการอักเสบของร่างกายทั้งระบบ อาการแสดงที่พบได้บ่อย คือ มีอาการปวด บวม แดง ร้อน และกดเจ็บบริเวณข้อที่ปวดที่ข้อ, ข้อติด, อ่อนเพลีย,ซึมเศร้า, ไม่สบายตัว และอาจพบร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น น้ำหนักลด, ตาอักเสบ, Rheumatoid nodules
โดยเป้าหมายที่กำหนดไว้คือ Return to work และ/หรือ Work Modification ด้วยสุขภาวะและศักยภาพการทำงานที่เป็นรูปธรรมใน 4 สัปดาห์
ปัญหาที่เลือกมาจากกรณีศึกษานี้ คือ
1.ปัญหาด้านจิตใจ ความกลุ้มใจเรื่องหนี้สิน
2.ต้องการกลับไปทำงาน โดยผู้รับบริการเป็น Rheumatoid arthritis
Intervention
1.Goal : ผู้รับบริการสามารถจัดการความกลุ้มใจ และสามารถวางแผนเพื่อแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง
Frame of reference : The cognitive-behavioral frame of reference, Psychological FoR.
Intervention implementation :
1.ผู้บำบัดทำหน้าที่ Coaching โดยการพูดคุยกับผู้บำบัดถึงเรื่องที่กังวลใจมากที่สุด กระตุ้นให้ผู้รับบริการคิดวางแผนแก้ปัญหาด้วยตัวเอง(Self-management skills) โดยสนับสนุนการเข้าร่วม Peer group support, การค้นหาวิธีการแก้ปัญหาจากแหล่งต่างๆ และให้ผู้รับบริการเลือกวิธีการด้วยตัวเองโดยเป็นวิธีที่ตัวเองเชื่อมั่นว่าจะทำให้สำเร็จได้
2.ให้ผู้รับบริการจดบันทึกแผนการแก้ปัญหาทีละขั้นตอนและบันทึกผลการก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหานั้นๆ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือทำตามแผนที่วางไว้อย่างต่อเนื่องใน 4 สัปดาห์
3.ให้ความรู้เกี่ยวกับการอารมณ์/ความเครียด เช่น mind-body exercises (เช่น yoga, qigong), diaphragmatic breathing, progressive muscle relaxation, Aromatherapy
2.Goal :ผู้รับบริการสามารถทำงานที่ต้องการได้ โดยมี Pain score ขณะทำกิจกรรมลดลง
Frame of reference : MOHO, Physical rehabilitation FoR.
Intervention implementation :
1.ผู้รับบริการและผู้บำบัดวางแผนการกลับไปทำงานร่วมกัน โดยเริ่มจากประเมินความสนใจในการจะกลับไปทำงานของผู้รับบริการ ตามความชอบและความสามารถที่ผู้รับบริการมี เช่น สนใจอยากรับเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับบริษัทก่อสร้าง หรืออยากเปิดร้านขายอาหารไทยตามที่ชอบ
2.หากต้องการเปิดร้านอาหารไทย สอบถามผู้รับบริการว่าอยากทำอาหารร่วมกับใคร วางแผนการทำงานและการดูแลแม่วัย 97 ปีอย่างไร หรือต้องการให้แม่มีส่วนร่วมในการทำร้านอาหารร่วมกัน จะให้ทำในขั้นตอนไหนได้บ้าง, ค้นหาปัจจัยที่ผู้รับบริการคิดว่าส่งเสริมหรือขัดขวางต่อการทำงานของตัวเอง
วิเคราะห์ตาม MOHO
Personal causation : ต้องการกลับไปทำงานเนื่องจากยังมีหนี้สินอยู่จำนวนมาก และต้องการดูแลแม่ด้วย
Value : ประเมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้คุณค่าของผู้รับบริการ เช่น ให้คุณค่าของการทำหน้าที่ลูกดูแลแม่, ให้คุณค่าในการให้แม่ได้มีส่วนร่วมในงานของตัวเอง
Interests : ประเมินความสนใจในการกลับไปทำงาน เช่น สนใจอยากรับเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับบริษัทก่อสร้าง, สนใจการทำงานที่บ้าน หรืออยากเปิดร้านขายอาหาร
Internalized Roles : ลูก
Roles Change : เดิมมีความสามารถเป็นผู้จัดการบริษัทก่อสร้างต่างชาติ เปลี่ยนเป็นคนว่างงาน, และกำลังวางแผนการทำงานเพื่อเปลี่ยนบทบาทเป็นคนทำงานอีกครั้ง
Habits : ชอบทำอาหารไทย, ต้องดูแลแม่วัยชรา
มีความรู้ความสามารถเรื่องการจัดการเนื่องจากเคยเป็นผู้จัดการบริษัทก่อสร้างต่างชาติ, สามารถทำอาหารไทยได้, การทำกิจกรรมต่างๆมีข้อจำกัดในเรื่องของการเคลื่อนไหว มีอาการปวดข้อ เหนื่อยง่าย
แม่
หนี้สินกว่า 2 ล้านบาท
ผู้รับประทานอาหารไทยที่ผู้รับบริการทำ และ Feedback ว่าอร่อย
3.ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลตัวเอง เช่น
Job analysis
กิจกรรมที่ทำในงาน |
องค์ประกอบที่เกี่ยวข้องในการทำกิจกรรมนั้น |
ความสามารถช่วยส่งเสริมหรือเป็นอุปสรรคในการทำงาน |
เลือกเมนูที่จะทำ และวางแผนการเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบ |
Cognitive function |
ส่งเสริม ผู้รับบริการมีความชอบในการทำอาหารไทยอยู่แล้ว ขัดขวาง ความรู้สึกกลุ้มใจหรือกังวลใจ อาจทำให้ผู้รับบริการไม่อยากทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ หรือทำด้วยความรู้สึกกลุ่มใจ ไม่ผ่อนคลายในการทำงาน |
ใช้มีดหั่นวัตถุดิบต่างๆ |
Hand function Hand dexterity Eye-hand coordination Strength of both UE |
ส่งเสริม มีทักษะในการใช้อุปกรณ์ ขัดขวาง ความคล่องแคล่วในการใช้อุปกรณ์ลดลง เนื่องจากมีอาการปวดที่ข้อต่อ |
ปรุงอาหาร |
Cognitive function Strength of both UE |
ส่งเสริม สามารถปรุงอาหารไทยได้ ขัดขวาง การคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหวร่างกายลดลง เนื่องจากมีอาการปวดตามข้อ |
เสิร์ฟอาหาร |
Strength of both UE Memory Social skill |
ส่งเสริม สามารถพูดคุยสื่อสารได้,มีทักษะการติดต่อประสานงานที่ดี ขัดขวาง การคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหวร่างกายลดลง เนื่องจากมีอาการปวดตามข้อ
|
4.เริ่มจากการทำ Group dynamic โดยให้ผู้รับบริการรับบทบาทเป็นผู้นำกลุ่ม โดยเลือกอาหารที่ตัวเองมีความมั่นใจที่อยากจะทำ 1 อย่าง และวางแผนการเตรียมอุปกรณ์ และส่งเสริมให้แม่วัยชราเข้าร่วมในกลุ่มด้วย โดยแนะนำให้ผู้รับบริการนำเทคนิก Joint protection และ energy conservation มาปรับใช้ขณะทำกลุ่ม ผู้บำบัดประเมินท่าทางในการทำกิจกรรมไปด้วยเพื่อให้ Feedback เกี่ยวกับท่าทางและความปลอดภัยขณะทำกิจกรรม เมื่อเสร็จแล้วให้ผู้รับบริการนำอาหารให้แม่ชิม และอาจแจกจ่ายให้กับเพื่อนบ้าน เพื่อเป็น Feedback เกี่ยวกับรสชาติอาหาร
Reference
Annette Sverker, Ingrid Thyberg, Gunnel Östlund, Eva Waltersson & Mikael Thyberg. Participation in work in early rheumatoid arthritis: a qualitative interview study interpreted in terms of the ICF. Disability and Rehabilitation. 2013; 36(3): 242-249
Hector W.H.Tsang , et al. A Pilot Evaluation on a Stress Management Programme Using a Combined Approach of Cognitive Behavioural Therapy (CBT) and Complementary and Alternative Medicine (CAM) for Elementary School Teachers. Stress Health. 2015;31(1): 35–43
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ต่อมาคือกรณีศึกษาที่ 2 ค่ะ
“เคสวัย 70 ปี ที่เป็นสมองเสื่อมมา 3 ปี ไม่อยากออกงานสังคม เงียบอยู่คนเดียว เดิมเป็นทนายความ และเครียดด้วยภาวะหนี้สินสะสมจากคดีความที่ไม่สำเร็จ แต่อยากช่วยครอบครัวทำงานแบบกิจกรรมยามว่าง ชอบปลูกต้นไม้ทานได้”
เขียนตาม PEOP Model ได้ดังนี้
P(Person) |
E(Environment) |
O(Occupation) |
P(Performance) |
เคสวัย 70 ปี โรคประจำตัว : สมองเสื่อมมา 3 ปี เดิมเป็นทนายความ Habit : ชอบปลูกต้นไม้ทานได้ Mental : เครียดด้วยภาวะหนี้สิน Need : อยากช่วยครอบครัวทำงานแบบ Work as a leisure |
Social : ครอบครัว Financial status : มีหนี้สินสะสม |
Work : ปัจจุบันไม่ได้ทำงาน Social participation :ไม่อยากออกงานสังคม เงียบอยู่คนเดียว |
Role : ลูกหนี้, สมาชิกในครอบครัว, บทบาททางสังคมลดลง Ability : มีความสามารถในการปลูกต้นไม้ทานได้
|
Clinical reasoning
Diagnostic reasoning : ภาวะสมองเสื่อมเกิดจากการสูญเสียเซลล์สมองของสมองส่วนฮิปโปแคมปัสซึ่งมีบทบาทสำคัญในการจดจำข้อมูลต่างๆ การดำเนินโรคถดถอยลงเรื่อยๆ อาการแสดงที่สำคัญจึงเกี่ยวข้องกับความจำ โดยเริ่มจากความจำระยะสั้น อาการต่อมาคือ พบความบกพร่องของสมรรถนะทางสมอง (Cognitive Impairment) เช่น ปัญาหาการใช้ภาษา เลือกคำพูดไม่ค่อยถูก สิ่งที่เคยทำเป็นกิจวัตรเริ่มทำไม่ได้ ไม่สามารถตัดสินใจได้ บางรายมีความเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมและอารมณ์ร่วมด้วย
จากการประเมิน Behavioral ตาม OT diagnosis พบว่ากรณีศึกษามีลักษณะของ Occupational deprivation คือหลีกหนี ไม่อยากออกงานสังคม เงียบอยู่คนเดียว
ปัญหาที่เลือกมาจากกรณีศึกษานี้ คือ
1.ความเครียด และปัญหา Occupational deprivation
2.ผู้รับบริการมีพยาธิสภาพสมองเสื่อม ต้องการทำงานแบบกิจกรรมยามว่าง
Intervention
1.Goal : ผู้รับบริการมีความเครียดลดลง และลดภาวะหลีกหนี/เก็บตัว
Frame of reference : MOHO, Psychosocial FoR.
2.Goal : ผู้รับบริการสามารถทำงานปลูกต้นไม้ทานได้จำหน่าย
Frame of reference : MOHO, Occupational adaptation FoR., Physical rehabilitation FoR.
1.พูดคุยกับผู้รับบริการ เพื่อค้นหาความต้องการของรูปแบบการทำงานแบบกิจกรรมยามว่าง ซึ่งอาจเป็นงานปลูกต้นไม้ทานได้
วิเคราะห์โดยใช้ MOHO ดังนี้
Personal causation : อยากช่วยครอบครัวทำงานแบบกิจกรรมยามว่าง เพื่อชำระหนี้สิน
Value : ประเมินสิ่งที่ผู้รับบริการให้คุณค่าเพิ่มเติม โดยให้ผู้รับบริการให้คะแนนความสำคัญของแต่ละอย่าง
Interests : สนใจการทำงานแบบกิจกรรมยามว่าง
Internalized Roles : สมาชิกครอบครัว
Roles Change : เดิมเป็นทนายความ ปัจจุบันไม่ได้ทำงาน ต้องการกลับไปมีบทบาทการทำงานอีครั้ง โดยเลือกการทำงานแบบกิจกรรมยามว่าง
Habits : ชอบปลูกต้นไม้ทานได้
เนื่องจากผู้รับบริการชอบปลูกต้นไม้เป็นงานอดิเรก มีหนี้สินสะสม อยากช่วยเหลือครอบครัว เกิดเป็นแรงจูงใจที่อยากจะทำงาน
ครอบครัว, มีภาระหนี้สินสะสม
2.ส่งเสริมให้ผู้รับบริการและครอบครัวได้วางแผนร่วมกันในการทำงาน เช่น อยากปลูกอะไร,จะจัดเตรียมการเพาะปลูกอย่างไร, จะจัดจำหน่ายอย่างไร, ผู้รับบริการต้องการให้ครอบครัวมีส่วนร่วมอย่างไร
3.ปรับกิจกรรมให้ง่ายขึ้น โดยการพูดคุยกับผู้รับบริการและคัดเลือกต้นไม้ที่ปลูกง่าย, ไม่ต้องดูแลมาก, เก็บผลผลิตได้หลายครั้ง
4.ปรับขั้นตอนให้ง่ายขึ้น เช่น การใช้ดินสำเร็จรูป การปลูกใส่กระถางหรือพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้แล้ว และมีภาพประกอบวิธีทำแต่ละขั้นตอน, ภาพวัสดุอุปกรณ์ควรเหมือนที่ใช้จริงเพื่อให้เข้าใจง่าย, ทำตารางเตือนช่วงเวลาการรดน้ำหรือการพัก
5.แนะนำให้สมาชิกในครอบครัวมีส่วนร่วมในกิจกรรมปลูกและดูแลต้นไม้ กระตุ้นความรู้ความเข้าใจควบคู่ไปกับการทำกิจกรรม เช่น กระตุ้นให้อธิบายสิ่งที่กำลังทำ/ขั้นตอน, การใช้งานอุปกรณ์, ชื่อและสรรพคุณของต้นไม้ที่ปลูก
6.ส่งเสริม Social participation โดยการพาผู้รับบริการเข้าร่วมกิจกรรมในสังคม เช่น การขายผลผลิตที่ปลูกได้ที่ตลาด
Reference
อิทธิพล ตะวันกาญจนโชติ[อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพมหานคร;2556[เข้าถึง 2559 กันยายน 29].เมื่อสมองเสื่อม เราจะทำอะไรได้บ้าง; เข้าถึงได้ที่: https://www.bumrungrad.com/th/betterhealth/2556/better-brain-health/dementia-alzheimer.
Hui-Mei CHEN, Mei-Feng HUANG, Yi-Chun YEH, Wen-Hui HUANG, Cheng-Sheng CHEN. Effectiveness of coping strategies intervention on caregiver burden among caregivers of elderly patients with dementia. Japanese Psychogeriatric Society.2014;15:20-25.
S. L. Saunders,B. Nedelec. What Work Means to People with Work Disability: A Scoping Review. J Occup Rehabil. 2014;24(1):100–110
ขอบคุณค่ะ.
ไม่มีความเห็น