มีเพื่อนคนหนึ่งถามว่าในฐานะที่ผมคลุกคลี
การสหกรณ์มานานพอสมควร และ
ไปได้ยินเขาถกเถียงกันว่าระวังให้ดีเวลา
สมัครเข้าเป็นสมาชิกจะมีสหรณ์แท้
กับสหกรณ์เทียม จึงอยากถามว่าจริง ๆ แล้ว
มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ
ตอบตามความเป็นจริงแล้ว คนที่ใช้คำเปรียบเทียบตัดสิน
เช่นนี้เขาอาจจะใช้ทฤษฎีคู่ตรงข้าม และตามทฤษฎี idealist
มาตอบ ก็จะได้เพียงสองทางเลือกคือ สหกรณ์แท้กับสหกรณ์เทียม
เพราะไปยึดว่าถ้าไม่ตรงกับทฤษฎีวิชาการแล้วก็คือเทียม ตรงคือแท้
แต่ถ้าใช้ทฤษฎีวิวัฒนาการ ประกอบกับโลกยุคนี้ที่เป็น realist
มาตอบก็จะได้คำตอบมากกว่าสองแน่นอน เช่น สหกรณ์ที่
สมบูรณ์แบบสหกรณ์ไม่สมบูรณ์แบบ สหกรณ์ทุนนิยมประยุกต์
สหกรณ์ที่ขาดจิตวิญญาณ สหกรณ์ทุนนิยมแปลงรูป จิปาถะ
เพราะทุนนิยมเองก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงไปตั้งหลายรูปแบบ
เช่น ทุนนิยมเสรี ทุนนิยมพวกมากลากไป ทุนนิยมเผด็จการ
เบ็ดเสร็จทุนนิยมสามาลย์ ว่ากันไปตามยุคสมัย
ในส่วนของสหกรณ์เป็นองค์กรอิสระ ทางเศรษฐกิจและสังคมที่
ประกอบไปด้วยคนที่ยึดอุดมการณ์สหกรณ์ในการทำวิสาหกิจ
ประกอบการบนพื้นฐานหลักการ ค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร
ของสหกรณ์เอง เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป คนเปลี่ยนไป
สถานการณ์เปลี่ยนสหกรณ์ ก็ย่อมเปลี่ยนไปโดยเฉพาะ
โลกปัจจุบัน ที่เป็นโลกวัตถุและบริโภคนิยมมาแรงก็ย่อมโดน
แรงเหวี่ยงและกระชากจ ทำให้โลกทั้งโลกหวั่นไหวไปด้วยกัน
คนก็มุ่งไปสู่ความมั่งคั่งและมั่นคงเป้าหมายความสำเร็จคือ
ต้องมีเงิน ที่คนส่วนใหญ่เป็นแก้วสารพัดนึกบันดาล สิ่งต่าง ๆ
ให้กับคน ดุจดังพระเจ้าส่วนปัจจัยหลักสำคัญที่ทำให้
สหกรณ์แปรเปลี่ยนไปก็คือ คนสหกรณ์ ซึ่งจะเป็นคณะกรรมการฯ
ก็ดี เจ้าหน้าที่สหกรณ์ก็ดี ตลอดไปจนถึงสมาชิกสหกรณ์เองก็ดี
ที่ส่วนหนึ่งขาดความรู้เรื่องระบบสหกรณ์ที่ถูกต้องสมบูรณ์
จึงไม่สามารถล่วงรู้หยั่งลึกว่าธุรกิจที่ทำอยู่นั้นคือสหกรณ์
ใช่หรือไม่ แต่เห็นว่าเมื่อทำแล้วมีรายได้ มีกำไร นำสหกรณ์
ให้ก้าวไกล และสมาชิกรวยได้ก็คิดว่าคงใช่ เพราะสมาชิกเอง
ก็พึงพอใจ ต่อผลประโยชน์ตอบแทนที่ได้รับเป็นตัวเงินและสวัสดิการ
ซึ่งจริง ๆ แล้วโลกของรายได้รายจ่ายกำไรขาดทุนเป็นเพียง
รูปลักษณ์ภายนอกของสหกรณ์ จึงมีการหลงไปชื่นชมยินดี
กับผู้นำและสหกรณ์ที่ไม่สมบูรณ์แบบแต่ประสบผลสำเร็จทางธุรกิจ
มีฐานะการเงินสินทรัพย์มากมาย ได้รับการยกย่องมอบรางวัล
ให้กับสหกรณ์เหล่านี้ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความเป็นสหกรณ์ที่สมบูรณ์
ก็เท่ากับเป็นการส่งเสริมและไปยกย่องคนสหกรณ์ที่ไม่ควร
จะยกย่องให้เป็นผู้นำดีเด่นด้านสหกรณ์ ตามข้อเท็จจริงแล้ว
คน ๆ นั้นไม่มีความรู้ในระบบสหกรณ์ หรือไม่รู้จักสหกรณ์
ที่สมบูรณ์แบบด้วยซ้ำไป ถึงรู้ก็แค่เพียงพื้น ๆ ตื้น ๆ ก็มี
จึงทำให้มีผู้นำสหกรณ์หลายคนที่ได้รับรางวัลและ
มีชื่อเสียงโด่งดัง ถูกยกขึ้นเป็นครูบาอาจารย์ทางสหกรณ์
โดยไม่รู้จริง หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เที่ยวออกเผยแพร่
ส่งเสริมสหกรณ์ตามที่ตนมีประสบการณ์
จากการบริหารจัดการสหกรณ์ของตนเอง
ที่ไม่ตรงตามหลักการ ค่านิยม และวิธีการสหกรณ์
เที่ยวสอนแนะสหกรณ์จนออกนอกลู่นอกทาง
นอกหลักการสหกรณ์ที่ควรจะเป็น ในที่สุดสหกรณ์
เสียหาย บางคนถึงกับติดคุกติดตะรางก็มีให้เห็นกันมาแล้ว
เพราะคิดว่าเมื่อจดทะเบียนเป็นสหกรณ์แล้ว จะทำธุรกิจ
อะไรก็ได้ตามที่ตนถนัด หรือมีประสบการณ์เหมือนที่เขา
ทำกันทั่ว ๆ ไป ก็เลยพากันออกนอกหลักการไป
โดยไม่ทันรู้ตัว หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เพราะวัน ๆ จับตามองแต่ตัวเลขทางธุรกิจและผลกำไร
กลัวสหกรณ์จะขาดทุน กลัวสมาชิกจะไม่เลือกตนเข้ามา
เป็นกรรมการหรือจ้างเข้ามาทำงาน จนลืมไปว่า
ตอนนี้ เขากำลังทำสหกรณ์ ถ้าใครเห็นว่าตอนนี้
สหกรณ์ของตนเป็นเช่นนี้ ก็ยังไม่สายลองเปิดใจนั่งทบทวน
หาความรู้เพิ่มเติมว่าสหกรณ์ที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ นั้นมี
คุณสมบัติ คุณลักษณะ อะไรบ้าง แล้วค่อยปรับ ค่อยขยับ
ให้มันเข้ารูปเข้ารอย ดีกว่ามานั่งถกเถียงให้เกิดความขัดแย้ง
ขัดข้องหมองใจกันว่า สหกรณ์ไหนเป็นสหกรณ์แท้หรือสหกรณ์
เทียม ทุกสหกรณ์ที่เกิดขึ้น ก็คือสหกรณ์ แต่จะสมบูรณ์แบบ
เพียงใดขึ้นอยู่กับคนสหกรณ์ เสมือนนิสิตนักศึกษา
เมื่อสอบผ่านเข้ามาเรียนในสถานศึกษาแล้ว
ก็เรียกว่านิสิตนักศึกษาด้วยกันทั้งนั้น
แต่จะมีนิสิตนักศึกษาคนใดบ้างที่จะเป็นนิสิตและนักศึกษา
โดยสมบูรณ์แบบ ก็ต้องวัดกันตามกติกา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
วุฒิทางปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคม คือสอบผ่าน
ทุกวิชาและผ่านการประเมินตามคุณลักษณะที่ควรจะเป็น
จึงจะได้รับใบปริญญาที่รับรองว่าเป็นบัณฑิตโดยสมบูรณ์แบบ
ถ้าเราจะให้สหกรณ์ที่เราทำอยู่เป็นสหกรณ์สมบูรณ์แบบ
สิ่งที่ทำได้ก็คือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสหกรณ์ของเรา
ว่าเราได้ดำเนินการตามอุดมการณ์ หลักการและวิธีการสหกรณ์
อย่างถูกต้อง และต้องให้ทุกคนมีความรู้เรื่องระบบสหกรณ์
ที่ถูกต้องและเพียงพอ สหกรณ์ของเราก็จะพบกับความ
สำเร็จและยั่งยืน
ไม่มีความเห็น