วิกฤตการณ์เงินโลกที่เกิดขึ้นในปัจจุบันขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน รัฐบาล และการค้าขายระหว่าประเทศ ในอนาคตคิดว่า
การเงินโลกจะมีแนวโน้มไม่รุนแรงมากกว่าในปัจจุบัน เพราะถึงแม้ค่าเงินมีความผันผวนตามความเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่าง
ประเทศโดยปัจจัยต่างๆเหล่านี้ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินกับชาติต่างๆมีค่าต่ำลงกว่าในอดีต ในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลงค่าเงินสกุลหลักที่ใช้หนุน
ระบบฐานการเงินโลกจากดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินหยวนก็ได้ เนื่องจากประเทศจีนมีเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่มาก มีอำนาจในการต่อรองด้านธุรกิจสูง
เป็นประเทศที่มีเสรีการค้ากับชาติต่างๆทั่วโลก มีระบบฐานการเงินที่ครอบคลุมและมีขนาดใหญ่มาก เป็นที่น่าจับตามองของประเทศต่างๆ ทั่วโลก
ทั้งยังมีความสามารถในทุกๆด้าน เนื่องจากมีบุคลากรในประเทศที่มากที่สุดในโลก ถือว่าเป็นประเทศมหาอำนาจที่น่ากลัวเลยทีเดียว
ทั้งยังมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ดังนั้นการที่ในอนาคตอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงค่าเงินสกุลหลักที่ใช้หนุนระบบเศรษฐกิจ
ของโลก อาจจะเป็นสกุลเงินหยวนของประเทศจีนก็เป็นได้
ปัจจุบันวิกฤตการณ์ทางการเงินของโลกในปัจจุบันถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เกือบปกติ เมื่อเปรียบเทียบกับหลังการเกิดวิกฤตปี 2551
ที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่มากนัก แต่ในอนาคตอาจจะมีเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะทุกประเทศทั่วโลกเกิดการเรียนรู้ถึง
วิกฤตการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นในอดีต และมีการเตรียมรับมือและวางแผนทางการเงินที่มีความรอบครอบมากยิ่งขึ้น จึงคิดว่าวิกฤตการณ์ทางการเงินใน
อนาคตอาจจะไม่รุนแรงเท่าในอดีตและปัจจุบัน
ไม่มีความเห็น