สังคมผู้สูงอายุ และการเตรียมตัวของวัยรุ่น
ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุตั้งแต่ปี 2547 และจะเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในปี 2567 หรืออีก 15 ปีข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมีผลกระทบอย่างกว้างขวาง ทั้งในระดับมหภาค ได้แก่ ผลต่อ GDP รายได้ต่อหัวประชากร การออม การลงทุน งบประมาณของรัฐบาลและการคลัง ผลิตภาพแรงงานและการจ้างงาน และในระดับจุลภาคได้แก่ ผลต่อตลาดผลิตภัณฑ์และบริการด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านการเงินและด้านสุขภาพ
ประเทศไทยจะต้องเตรียมความพร้อม ทั้งด้านบุคลากรและระบบ โดยจะต้องเร่งดำเนินการดังนี้
-ปรับปรุงฐานข้อมูลเกี่ยวกับผู้สูงอายุให้ทันสมัย
-สร้างหลักประกันด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล
-สนับสนุนการดูแลระยะยาว และแก้ปัญหาการขาดแคลนผู้ดูแล
-สร้างหลักประกันด้านรายได้และส่งเสริมการออมเพื่อวัยหลังเกษียณ
-ส่งเสริมการทำงานของผู้สูงอายุและขยายกำหนดการเกษียณอายุ
-สร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบครอบครัวและชุมชน
การเตรียมตัวของข้าพเจ้า
1. การบริหารจัดการเงินออม เช่น ควบคุมค่าใช้จ่ายในบ้านให้สมดุลกับรายได้
2. วางแผนการทำประกันเพื่อวัยเกษียณ
3.สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวและเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่คนในครอบครัว
4.ฝึกตนให้เป็นคนใจกว้าง มองโลกในแง่ดีและหลายๆแง่มุม
5.เตรียมหางานสำรอง ในกรณีที่ต้องหารายได้เพิ่ม ควรเตรียมไว้ตั้งแต่ยังดำรงตำแหน่งหน้าที่ในงานประจำอยู่
6. ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมกับผู้อื่น
7. มีการวางแผนเรื่องที่อยู่อาศัยและการรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
ไม่มีความเห็น