"เมื่อใดก็ตามที่เห็นความเห็นแก่ตัวของผู้คน ในใจตนเองนี้จะนึกชังอย่างมาก และไม่อยากเข้าใกล้"
แต่เมื่อมาเป็นอยู่อย่างที่เป็นปัจจุบัน มองเห็นใจตนเองจะทำเช่นเดิมไม่ได้ คือ ปฏิเสธและไม่สุงสิง ยิ่งมาเห็นประเภทความเห็นแก่ตัวที่ละเอียดขึ้น ดูภายนอกนั้นไม่ชัดเจน แต่เมื่อได้คลุกคลีสมาคมแล้วเห็น สัมผัส ปรากฏขึ้น ในใจรู้สึกอึดอัด ชิงชังและอยากหลีกหนี
จากปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นในใจ ...
มาพิจารณาทำความเข้าใจในตนเอง อารมณ์และความคิดที่ปรากฏก็คงจะไม่แตกต่างจากคนที่เราชัง ถ้าเราหนี เลี่ยง และไม่เผชิญ เราก็คงจะเห็นแก่ตัวอย่างยิ่งไม่แตกต่างไปจากเขา
สิ่งแรกที่ทำได้ในตนเอง คือ อดทน ...เป็นความอดทนที่จะไม่แสดงปฏิกิริยาโต้ตอบออกมา อย่างน้อยต้องจัดการตนเองได้คือ เรื่องวาจา
การที่จะสามารถอดทนในตนเองได้ การฝึกฝนเรื่องสติ --> การเจริญสติเป็นหัวใจสำคัญ จะทำให้จิตและการรู้สึกตัวมีกำลังมากขึ้น จนสามารถยังยั้งการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมทางวาจาและการกระทำได้ แต่ก็มีหลายครั้งต่อหลายครั้งที่ข้าพเจ้ามักเล่นเกมส์ทางจิตใจ โต้ตอบแบบรู้ตัวว่ากำลังทำและเจตนาที่จะทำ แล้วค่อยมาใช้เส้นทางการภาวนาเกลาและชำระล้างภายในใจตนเองทีหลัง แต่พอเวลาผ่านไปนานเข้า มองเห็นความไม่มีประโยชน์ที่จะแสดงการกระทำเช่นนี้
การปลีกวิเวกยังคงใช้ได้ผล เป็นการได้พักกายและใจให้สงบได้ง่าย และที่สำคัญทำให้เรากลับคืนสู่ลมหายใจของตนเองได้ชัดเจนและละเอียดขึ้น
ปรากฏการณ์ของการเรียนรู้เรื่องราวนี้ ต้องอาศัยการฝึกฝน ความอดทน และความตั้งใจที่จะเกลาใจตนเองให้ตื่นรู้และเจริญงอกงาม
...
๒๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๙
ไม่มีความเห็น