ผลกระทบและแนวทางแก้ไขของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) ต่อธุรกิจไทย
ผลกระทบ
นโยบาย QE ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกใน 2 ด้าน
1) ทำให้รายได้ของผู้ส่งออกลดลงทันทีเมื่อแปลงเป็นเงินบาท โดยเฉพาะผู้ส่งออกรายย่อยที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศเป็นหลัก
2) ทำให้ความสามารถทางการแข่งขันด้านราคาของผู้ส่งออกลดลง และอาจทำให้ปริมาณการส่งออกลดลงในระยะต่อไปโดยเฉพาะสินค้าส่งออกที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศมาก
แนวทางแก้ไข
ในระยะสั้น
1.รัฐบาลดำเนินมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทต่อผู้ส่งออก โดยเฉพาะผู้ส่งออกรายย่อยที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการการประกันความเสี่ยงได้ หรือมีต้นทุนสูงในการประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่อนข้างสูง ซึ่งกระทรวงการคลังได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือผู้ส่งออกรายย่อยไปแล้ว ผ่านกระบวนการให้สินเชื่อและค้ำประกันของสถาบันการเงินของรัฐ ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนควรพิจารณาใช้เครื่องมือทางการเงินในการประกันความเสี่ยงจากเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ด้วยเช่นกัน
2.ภาครัฐควรส่งเสริมให้ภาคเอกชนควรใช้โอกาสจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ในการนำเข้าเครื่องจักรและสินค้าทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตในอนาคต
3.ธนาคารแห่งประเทศไทยดูแลการแข็งค่าของเงินบาทไม่ให้เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงหรือเร็วเกินไป เพื่อให้ผู้ผลิตและผู้ส่งออกสามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม
ในระยะปานกลางและระยะยาว
1.ภาครัฐเร่งเสริมสร้างอุปสงค์ภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการเร่งรัดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อกระตุ้นการบริโภคและการจ้างงาน อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของประเทศในอนาคต
2.ภาครัฐควรส่งเสริมให้ภาคเอกชนผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและมีสินค้าคุณภาพที่มีตรายี่ห้อของตนเองแทนการเป็นฐานการผลิตสินค้าราคาถูก เพื่อลดผลกระทบจากความสามารถในการแข่งขันด้านราคาที่ลดลงจากการแข็งค่าของเงินบาท
แหล่งอ้างอิง:http://thailandindustry.com/news/view.php?id=12529...
ไม่มีความเห็น