โจทย์ธรรมล่าสุด (1) : กิเลสต้องสูสีกับภูมิธรรม หนอ


ตั้งใจไม่ดูทีวีมานานแล้ว แต่บ่อยครั้งที่แม่บ้านและลูก ๆ ดู ก็ต้องดูตามไปด้วย

อย่างเมื่อคืนนี้ บังเอิญได้ดูละครช่อง 3 เรื่อง กำไลมาศ

เป็นตอนที่ เพื่อนนางเอก โกรธให้นางร้ายมาก จึงแอบเอางูไปไว้ในห้องนอน

แต่งูกลับไปกัดเอาพ่อแม่ของนางร้ายตายทั้งคู่ โอ้โฮ! กรรมหนักที่ยากต่อการให้อภัยได้เกิดขึ้นแล้ว หนอ





ในมิติธรรมนั้น

ดูหนัง แล้วหันมามองตน

ย้อนไปบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (28 ก.พ. 59) มีเหตุทางโลกที่ค่อนข้างจะเป็นพิษหนัก วิ่งเข้าสู่ใจ

เป็นเหตุที่ค่อนข้างจะรุนแรงพอสมควร ทำให้ใจแกว่ง เป๋ เสียหลักไปกว่า 30 ชั่วโมง


เป็นอีกวันหนึ่ง ที่ต้องพลาดท่าพ่ายให้กับกิเลสในใจตน

งัดเพลงธรรม หลายกระบวนท่า ออกมาต่อสู้ก็ยังไม่สามารถต้านกิเลสนั้นได้ หนอ

เมื่อวานนี้ (29 ก.พ. 59) จึงเป็นวันที่ถูกกิเลสเข้าครอบใจ

จำได้ว่า ปลายปีที่แล้ว คลื่นกิเลสใหญ่ที่ถ่าโถมเข้ายึดใจ ต้องใช้เวลากว่า 3 วัน จึงสามารถเคลียร์ได้

(ตอนนั้น อาศัยบุญแห่งจิตอาสา และ สัคคสาสมาธิช่วยไว้ หนอ)

และครั้งนี้ โจทย์ธรรมใหญ่พอ ๆ กัน ธรรมเวลาได้ดีขึ้น โดยสามารถเคลียร์ได้เร็วขึ้น ภายใน 30 ชั่วโมง หนอ




ถอดรหัสธรรม


  1. เกิดมาชาตินี้ มนุษย์จะต้องนำพาตนเองผ่านประสบการณ์ "จิตรวม" ให้ได้
    (จิตรวมเป็นประสบการณ์อันเกิดจากการปฏิบัติ คล้าย ๆ กับ ความสามารถในการว่ายน้ำ) เมื่อจิตรวมแล้ว เราจึงจะสามารถสร้างบุญได้ง่ายและเร็วขึ้น ประหนึ่งการพลิกเหรียญอีกด้านหนึ่งของชีวิตขึ้นมา ถ้ายังไม่ผ่านประสบการณ์จิตรวม จะมีบุญวาสนามากแค่ไหน ก็กินแต่บุญเก่า เห็นเหรียญหรือชีวิตชัดเพียงด้านเดียว หนอ (ผมจะเขียนอธิบายประสบการณ์จิตรวมในบันทึกต่อ ๆ ไป)
  2. เมื่อผ่านประสบการณ์ "จิตรวม" แล้ว เราจะเข้าใจตนเองและผู้อื่นได้ชัดขึ้น เราจะเห็นกิเลสในใจตนและผู้อื่นได้ชัดขึ้น และจะมีวิธีการที่สามารถต่อสู้กับกิเลสได้ดีขึ้น แต่ถ้ายังไม่ผ่านประสบการณ์จิตรวม เราจะใช้แต่สมาธิตามธรรมชาติต่อสู้ ถ้ามีบุญเก่ามากก็พอไหว แต่ยังเสี่ยงอยู่มาก หนอ
  3. อ้างอิงจากประสบการณ์แห่งตน โชคดีผมเป็นคนเรียนเก่ง (บุญเก่าคงมีไม่น้อย) พอมีปัญหาในชีวิต ก็สามารถพิจารณาเคลียร์ด้วยใจได้เร็ว เช่น ปัญหาพ่อตาย อกหัก เป็นต้น แต่พอจิตรวมแล้ว เมื่อชวนจิตได้รับการพัฒนาแล้ว นอกจากจะมีวิธีการเคลียร์กิเลส (สิ่งที่ทำให้จิตวุ่นวาย) ได้อย่างเป็นระบบและรวดเร็วแล้ว ยังสามารถแปลงพิษโลกเป็นโจทย์ธรรมสร้างบุญบารมีแห่งการภาวนาได้อีกต่อหนึ่ง หนอ
  4. *** ในทางกลับกัน ผมสังเกตุจาก 30 ชั่วโมงที่ผมถูกกิเลสครอบงำครั้งล่าสุดนี้
    (ขอเล่ายกแม่น้ำทั้งห้าประกอบการอธิบายย้อนหลังไปไกลหน่อย) ประมาณว่า ..
    • ตอนที่เรายังไม่ผ่านประสบการณ์ของจิตรวมนั้น เราจะไม่ทราบว่า เรา "หลง" อยู่ใต้อำนาจของกิเลส (เดี๋ยวจะบอกวิธีสังเกตุ) เมื่อผ่านประสบการณ์จิตรวมครั้งแรก เราจะมีศรัทธาเดินบนทางธรรมมากขึ้น ผมใช้เวลาอยู่ 2 เดือนจึงหาทางกลับสู่สภาวะนั้นได้อีกครั้ง และใช้ความเพียรฝึกอีกหลายปี จิตจึงสามารถดำรงอยู่ในสภาวะอีกด้านหนึ่งของเรียนได้ต่อเนื่องและนานขึ้น แต่ก็จะถูกคลื่นแห่งกิเลสพยายามแย่งชิงยึดครองใจเราคืนไป ปีแรก ๆ เราชนะไม่ถึง 20% พ่ายแพ้มากกว่า 80% จนอาจรู้สึกท้อและเบื่อกายและใจว่าทำไมมันโง่ฝึกยากนักหนอ แต่ปีต่อ ๆ มาสัดส่วนแห่งชนะจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าพิษหรือเรื่องราวทางโลกไม่ใหญ่พอก็ยากนักที่ฝ่าฌาน 2 เข้าไปยึดใจเราได้ หนอ
    • วันอาทิตย์พลาดท่า ถูกกิเลสยึดครองใจต่อเนื่องนานกว่า 30 ชั่วโมง อัตตาตัวตนกลับมาอย่างเต็มตัว กว่าจะเคลียร์ได้ก็ย่างเข้าตอนเย็นของอีกวันหนึ่ง (เมื่อวานนี้) เมื่อจิตเริ่มสงบรวมลงเป็นสมาธิตามฐานะเดิมแล้ว บังเอิญได้ดูละคร เรื่อง กำไลมาศ เข้าใจชัดเลยว่า
      เมื่อมีสิ่งนั้น จึงมีสิ่งนี้ เมื่อกิเลสครองใจมนุษย์ ก่อเกิดอัตตาตัวตน ตัณหาผู้สร้างเรือนได้ที จึงงัดกลยุทธ์ทางโลกออกมาเพื่อเอาชนะ สร้างเวร สร้างกรรม ให้กงล้อสังสารวัฏหมุนเร็ว สร้างภพ ก่อกรรมก่อเวรข้ามภพข้ามชาติไม่รู้จักจบสิ้น ... ถ้าบุญเก่าไม่พอ จิตไม่รวม ยากนักที่จะแลเห็นความหลงในใจตน ยากนักที่เห็นชีวิตหรือเหรียญอีกด้านหนึ่ง ยากนักที่เคลียร์ใจให้สะอาด บริสุทธิ์ได้ หนอ
หมายเลขบันทึก: 602649เขียนเมื่อ 1 มีนาคม 2016 09:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มีนาคม 2016 11:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท