กลไก การดำเนินการของสถาบันการเงินและนโยบายการเงินของธนาคารกลางด้วย
ดังนี้
1. มีการจัดสรรทรัพยากรที่ไม่ทั่วถึง
การที่ธนาคารพาณิชย์เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนมาตรการนี้ และเมื่อไม่มีอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมมาช่วยคัดกรองการอนุมัติสินเชื่อแล้วธนาคารพาณิชย์ต้องอาศัยหลักเกณฑ์อื่นที่ไม่ใช่กลไกตลาดมาคัดกรองผู้ประกอบการที่ควรได้รับความช่วยเหลือ
ทำให้ลูกค้าชั้นดีที่มีความเสี่ยงต่ำได้รับประโยชน์ ขณะที่ธุรกิจที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริงมักเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงกลับไม่ได้รับผลประโยชน์
จะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการแข่งขันเพราะมีต้นทุนการเงินที่ไม่เท่าเทียมกัน
2. สามารถเกิดการแย่งชิงทรัพยากรได้
เนื่องจากความเสียหายครั้งนี้ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อผู้ประกอบการทุกขนาด การให้ดอกเบี้ยต่ำกว่า
อัตราตลาดอาจเป็นสิ่งจูงใจให้ผู้ประกอบการที่สามารถระดมทุนจากแหล่งเงินทุนอื่น
ซึ่งจะยิ่งริดรอนโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่อ่อนแอกว่า
3. ลดความสามารถการแข่งขันของภาคธุรกิจ
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ภาคธุรกิจได้รับจากธนาคารพาณิชย์ เป็นตัวแปรที่สะท้อนถึงความเสี่ยงของธุรกิจ
ทำให้ภาคธุรกิจนั้นไม่มีศักยภาพในการแข่งขันในระยะยาว(Enfant Business)
4. สร้างการบิดเบือนในการลงทุน
เงินที่นำมาใช้ในการผลักดันนโยบายนี้มีต้นทุนค่าเสียโอกาส ทำให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าในเชิงนโยบายอย่างแท้จริง
5. มีผลต่อสภาพคล่องในระบบซึ่งกระทบต่อการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลาง
นโยบายการเงินเพื่อดำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพภายในประเทศ ผ่านการรักษาปริมาณเงินในระบบให้เหมาะสมไม่ว่าจะกำหนดเป้าหมายนโยบายการเงิน
เช่น การดูแลเสถียรภาพด้านราคาปริมาณเงิน อัตราดอกเบี้ย หรืออัตราแลกเปลี่ยนเป็น
ที่มาhttps://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/ArticleA...59.pdf
ไม่มีความเห็น