1. พันธกรณีทั่วไปและข้อบังคับ(General Obligation and Disciplines)
คือหลักการทั่วไปซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ผูกพันประเทศสมาชิกภาคีต้องปฏิบัติตามในทุกสาขาบริการและรูปแบบการให้บริการ ได้แก่
1.1 หลักการประติบัติเยี่ยงชาติที่ได้รับอนุเคราะห์ยิ่ง(Most Favoured-Nation Treatment:MFN) หลักเกณฑ์พื้นฐานของหลักการนี้อยู่ในมาตรา2 วรรค1 ของ GATS หลักการนี้ประเทศสมาชิกจะต้องปฏิบัติกับบริการและผู้ให้บริการจากประเทศสมาชิกอื่นๆอย่างเท่าเทียม โดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข(immediately and unconditionally) นั่นคือการให้สิทธิพิเศษทางการค้าใดๆจะต้องกระทำอย่างไม่เลือกปฏิบัติ() ภายใต้หลักการนี้ เมื่อประเทศสมาชิกให้สิทธิพิเศษทางการค้าแก่ประเทศใด ประเทศสมาชิกอื่นก็จะได้รับสิทธิพิเศษนั้นโดยอัตโนมัติ ข้อสังเกตที่สำคัญคือข้อกำหนดเรื่องMFN นั้นมีจุดประสงค์เพียงเพื่อป้องกันการเลือกปฏิบัติแต่ไม่เกี่ยวข้องกับระดับของการเปิดตลาดใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าแต่ละสาขาของภาคบริการมีระดับของการเปิดเสรีเพียงใด มาตรการต่างๆที่ใช้กับสาขานั้นๆจะต้องไม่เลือกปฏิบัติต่อประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นพิเศษ
1.2 หลักความโปร่งใส (Transparency) ตามที่ระบุไว้ในมาตรา3 วรรค1 ของความตกลงGATS นั้น ประเทศสมาชิกทุกประเทศจะต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งทางด้านกฎหมาย กฎระเบียบ (Laws and regulations) ขั้นตอนการบริหารการควบคุม(Administrative guidelines) ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงต่างๆในกฎระเบียบ รวมถึงความตกลงระหว่างประเทศที่อาจกระทบต่อ GATS แก่สาธารณะ ประเทศสมาชิดจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งจุดบริการข้อมูล(National enquiry points) เพื่อให้บริการข้อมูลแก่บริษัทเอกชนและรัฐบาลของประเทศสมาชิกอื่นเมื่อถูกร้องขอ โดยจะต้องจัดตั้งจุดบริการข้อมูลภายในสองปีหลังจากความตกลง มีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ดีประเทศสมาชิกไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ ถ้าการเปิดเผยนั้นมีผลขัดขวางการบังคับใช้กฎหมาย ขัดแย้งกับผลประโยชน์สาธารณะ หรือส่งผลกระทบทางกฎหมายต่อผลประโยชน์ทางการค้าของสถานประกอบการของรัฐหรือเอกชน
1.3 หลักการเปิดเสรีแบบก้าวหน้าตามลำดับ (Progressive Liberalization) กำหนดให้มีการเจรจาเปิดตลาดการค้าบริการในทุก ๆ 5 ปี หลังจากความตกลง WTO มีผลใช้บังคับโดยการเปิดเสรีต้องคำนึงถึงระดับการพัฒนาของประเทศด้วย และเพื่อปฏิบัติตามหลักการนี้ การเจรจาการค้าบริการรอบใหม่ จึงได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2543
2. คำมั่นเฉพาะ(Specific commitments)
2.1 การเข้าถึงตลาด(Market Access) มาตรา16 วรรค 2 ได้ระบุถึงมาตรการป้องกันการเข้าถึงตลาดที่ประเทศสมาชิกไม่สามารถที่จะบังคับใช้ถ้าไม่ได้ระบุไว้ล่วงหน้าในรายการคำมันเฉพาะ ซึ่งมีด้วยกันทั้งสิ้น 6 มาตรการคือ
1. จำกัดจำนวนผู้ให้บริการโดยการให้โควตา อำนาจผูกขาดผู้แทนจำหน่าย หรือมาตรการทดสอบความจำเป็นทางเศรษฐกิจ(Economic needs test) ยกตัวอย่างเช่น การจำกัดโควตาสำหรับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ในต่างประเทศ หรือข้อกำหนดเกี่ยวกับสัญชาติของผู้ให้บริการ ซึ่งมองอีกแง่หนึ่งถือว่าเป็นโควตาที่เป็นศูนย์(Zero quota)
2. จำกัดมูลค่าธุรกรรม หรือสินทรัพย์รวมของธุรกิจบริการโดยการให้โควตาหรือมาตรการทดสอบความจำเป็นทางเศรษฐกิจ
3. จำกัดปริมาณในลักษณะของหน่วยการให้บริการ หรือจำนวนรวมของผลผลิตของสินค้าบริการ โดยการให้โควตา หรือมาตรการทดสอบความจำเป็นทางเศรษฐกิจ
4. จำกัดจำนวนรวมของบุคคลธรรมดา(Natural Person) ที่จะเข้าทำงานในสาขาบริการต่างๆหรือจำกัดจำนวนของแรงงานที่ผู้ประกอบการบริการจะว่าจ้างได้ หรือการตัดสินใจว่าใครจำเป็นหรือเกี่ยวข้องกับบริการ โดยการให้โควตา หรือมาตรการทดสอบความจำเป็นทางเศรษฐกิจ
5. มาตรการที่จำกัดลักษณะรูปแบบการจัดตั้งทางกฎหมาย(Legal entity) หรือการร่วมทุนจากต่างประเทศ(Joint venture) ที่จะสามารถเข้ามาประกอบธุรกิจบริการ
6. จำกัดการเข้ามามีส่วนร่วมของทุนจากต่างประเทศในรูปของการจำกัดสัดส่วนการถือหุ้นสูงสุดของชาวต่างชาติ หรือจำกัดมูลค่ารวมของการลงทุนจากต่างประเทศ ไม่ว่าโดยการลงทุนของปัจเจกบุคคล หรือโดยรวมของชาวต่างชาติ
2.2 การปฏิบัติเยี่ยงคนชาติ(National Treatment) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการขยายการเปิดเสรี ข้อกำหนดเกี่ยวกับหลักการปฏิบัติเยี่ยงคนชาติกำหนดให้ประเทศสมาชิกแต่ละประเทศจะต้องปฏิบัติต่อผู้ประกอบธุรกิจบริการจากประเทศสมาชิกอื่นในสาขาที่ระบุไว้ในรายการคำมั่นเฉพาะ โดยให้การสนับสนุนไม่น้อยกว่าผู้ประกอบการของประเทศนั้นๆได้รับ อย่างไรก็ดีประเทศสมาชิกสามารถใช้มาตรการที่เลือกปฏิบัตินั้นถูกระบุไว้ในรายการคำมั่นเฉพาะ