หนังสือ : ธุรกิจส่งออก สำเร็จได้ รวยเร็ว หาซื้อได้ที่ซีเอ็ดบุคส์ทุกสาขา
-----------------------------------------------
เมื่อท่านทำธุรกิจส่งออก การเดินทางจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ตอนที่ย้ายบ้านมาอยู่ชุมชนนี้แรกๆ เพื่อนบ้านถึงกับนึกว่าผู้เขียนทำงานเป็น Flight Attendant เลยที่เดียว เพราะมีการเดินทางไป-กลับ ค่อนข้างบ่อย แต่สำหรับท่านเองที่เป็นผู้ประกอบการ ยังไม่ต้องตกใจว่ามันจะขนาดนั้นเลยเหรอ อาจจะไม่ขนาดนั้นค่ะ เพราะที่ถี่ขนาดนั้นเพราะผู้เขียนอยู่บริษัท Trading เราทำการค้ากับลูกค้าหลายราย หลายประเทศ ทางฝ่าย supplier (ประเทศแหล่งผลิตสินค้า) เองก็อยู่หลายประเทศ งานแสดงสินค้าที่เราต้องไปก็มีทั้งยุโรป สหรัฐอเมริกา และในเอเชียด้วยแต่ก็ไม่แน่นะคะหากกิจการของท่านมีลูกค้า Active จำนวนมากในหลากหลายประเทศ การไปเยี่ยมลูกค้า ไปงานแสดงสินค้าในประเทศต่างๆก็อาจจะถี่ แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงท่านก็น่าจะมีทีมงานที่มาช่วยแบ่งเบาภาระส่วนนี้ และส่วนอื่นๆไป ให้ได้มีเวลาหายใจ มีเวลาพักผ่อนบ้าง เพราะหลายท่านที่อยู่ในวงการนี้จะทราบดี ว่าการเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะที่เป็น Business Trip นี่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเหนื่อย เราต้องมีเทคนิคการบริหารจัดการในกิจกรรมนี้ให้ดี เพราะหากบริหารไม่ดีอาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพดังเช่นผู้เขียนจะแชร์เป็นกรณีตัวอย่าง ให้ได้เตรียมตัวกัน สำหรับผู้ส่งออกรายใหม่ หรือน้องๆ ที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานในองค์กรหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องมีการเดินทางก็น่าจะสามารถนำประสบการณ์เหล่านี้ไปปรับใช้ได้เช่นกัน นอกจากการที่ท่านจะเดินทางไปเพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเพื่อการเปิดตัวครั้งแรก ไปรอลูกค้า Walk in อย่างเดียว ท่านก็สามารถดูข้อแนะนำเรื่อง การเตรียมตัวเข้าร่วมงานแสดงสินค้าได้ กลับมาที่ข้อแนะนก่อนการเดินทาง ก็มีการเตรียมการดังนี้ค่ะ
หลังจากที่เราได้ List ในข้อ 1, 2, 3 มาแล้ว ทีนี้ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการนัดหมายอย่างเป็นทางการ การนัดอย่างเป็นทางการไปล่วงหน้าถือว่าสำคัญมาก เป็นมารยาททางการค้า เป็นวิธีการของมืออาชีพ ผู้เขียนคงไม่ต้องย้ำประเด็นนี้อีกเชื่อว่าทุกท่านทราบดีอยู่แล้ว ทั้งนี้ก็ต้องเอาปฎิทินมากางดู แล้วเขียน Itinerary ลงไปในแต่ละวันที่จะเริ่มจาก
ทั้งนี้ก็อยากแนะนำเพิ่มเติมให้ท่านเตรียมให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในระหว่างการเดินทางด้วย ท่านต้องสามารถบริหารการเปลี่ยนแปลงนั้น ให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่สถานณ์การจะทำได้ เช่นโรงแรมเองอาจทำงานผิดพลาดในการยืนยันห้องพัก ไปถึงแล้วพบว่ามีการจองซ้อนมีคนอื่น Check in ไปแล้ว ถึงระบบต่างๆในการจองถือว่าค่อนข้างดี ไม่ว่าในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างเยอรมันนี และอื่นๆ ที่อาจไม่ค่อยเป็นน่าแปลกใจเช่น จีน และอินเดีย เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้เสมอ รวมทั้งเหตุไม่คาดคิดอื่นๆ ที่เป็นเรื่องขำๆ หรือสนุกๆบ้าง เครียดๆบ้าง เช่น Flight delay โดยเฉพาะในเมืองจีน อาจทำให้เราไปไม่ทันนัดถัดไปที่อยู่อีกเมือหรืออีกประเทศ เพราะการ delay บ้าง การตกเครื่องบ้าง ก็ต้องดูว่า flight ถัดไปเมื่อไหร่ ก็ต้องรีบโทรแจ้งลูกค้าเพื่อขอนัดใหม่เป็นต้น มันอาจเกิดเมื่อไหร่ก็ได้ ท่านก็ต้องอยู่กับปัจจุบันว่าเหตุเกิดขึ้นอย่างนี้แล้ว แล้วอะไรที่ต้องทำต่อเพื่อแก้ไขสถานณการณ์ได้ ผู้เขียนผ่านสถานการณ์มาทุกระดับตั้งแต่ขำๆ ไปถึงเครียดๆ แต่ทุกครั้งก็ผ่านมาได้ด้วยดี ลูกค้าก็มีงอนบ้าง ไม่พอใจบ้างก็ต้องใช้ศิลปะ Customer Relation Repairing ที่ท่านอาจไม่เคยได้ยินชื่อศาสตร์นี้มาก่อน แต่ท่านน่าจะเข้าใจว่าวิธีการซ่อมความสัมพันธ์นั้นก็ไม่ตายตัว สำหรับแต่ละคนในแต่ละเหตุการณ์ บางเหตุการณ์เป็นความเผลอเรอของการวางแผนที่ไม่รอบคอบของเราเอง โดยเฉพาะกรณีที่ต้องเดินทางบ่อย ในแต่ละ Trip มีนัดมาก มีจุดที่ต้องไปมาก อย่าว่าแต่ข้ามเมือง ข้ามประเทศบางทีข้าม Time Zone เลยก็มี ต้องอาศัยประสบการณ์ของแต่ละคน ความมีมนุษย์สัมพันธ์ของเรา บวกความจริงที่เราไม่คาดคิดนั่นแหล่ะ และความจริงใจที่จะอธิบาย ท้ายสุดส่วนใหญ่ก็ไม่เกินความพยายามที่จะ Repair ความรู้สึก ความสัมพันธ์ให้กลับมาได้
ในส่วนที่เกริ่นเอาไว้ในข้อที่ควรระวังในด้านปัญหาสุขภาพนั้น ที่สามารถเกิดได้ระหว่างการเดินทาง ก่อนอื่นขอเริ่มจากประสบการณ์ตรงก่อน ก็คือน้ำหนักของกระเป๋าและสิ่งของ เอาเฉพาะในส่วนที่ต้องถือติดตัวอยู่ตลอดเวลา ทุกวันนี้นับว่าประเด็นนี้น่าจะทุเลาลงไปเยอะ แต่ก็อยู่ที่นิสัยส่วนตัวแต่ละท่านอีกสำหรับเรื่องน้ำหนักรวม ว่าท่านจะเป็นคนบ้าหอบฟางมากน้อยแค่ไหน (ขออภัยหากบางท่านไม่ทันเพลงนี้ มุกนี้อาจแป๊กจึงขออธิบายคำว่า บ้าหอบฟาง ก่อน คำนี้เป็นชื่อเพลงของอัสนีวสันต์ในยุค 80 หมายถึงคนที่ชอบสร้างภาระต่างๆที่บางทีไม่จำเป็นสำหรับชีวิตตนเอง ) สำหรับผู้เขียนเองนั้นกระเป๋าที่จะถือเป็นสำภาระติดตัวสำหรับใช้แล้ว ความจริงจะมีไม่มาก แต่เมื่อก่อนที่มีปัญหาก็เนื่องจากน้ำหนัก Lab top ถึงตอนนั้นอายุจะน้อยกว่าปัจจุบันมาก แต่ด้วยความถี่ของการเดินทาง การที่ต้องสะพาย lap top ที่เมื่อก่อนมีน้ำหนักมากไว้บนไหล่ พร้อมอุปกรณ์อย่างอื่นเช่น accessories ต่างๆไม่ว่าจะเป็น Charger โทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป แต่ปัจจุบันคุณภาพกล้องในโทรศัพท์ค่อนข้างดี ไม่ต้องมีกล้องแยกก็ได้ แต่อย่างที่เกริ่นว่ามันก็ขึ้นอยู่กับท่านว่า อยากที่จะใช้กล้องแยกอยู่ดีหรือไม่ ท่านอาจใช้ tablet แทน lab top ก็จะทำให้น้ำหนักเบาไปได้เยอะ แต่บรรดาเครื่องใช้อื่นๆในกระเป๋า ที่จะรวมกันเข้ามาอีกหล่ะ ท่านจะมีมากน้อยแค่ไหนเพิ่มเติมจากบรรดาอุปกรณ์การสื่อสาร การทำงานเหล่านี้อีก อย่างกระเป๋าของผู้เขียนสมัยก่อนทุกอย่างรวมกันน่าจะอยู่ที่ประมาณไม่ต่ำกว่า 3.5 KGS....ซึ่งถือว่าหนักมากในระหว่างการเดินทางที่ไม่ใช่การนั่งบนที่นั่งผู้โดยสารอย่างเดียว ยังรวมการเดินในสนามบิน และนอกสนามบินที่น้ำหนักนี้จะอยู่บนไหล่เราตลอดเวลา ส่งผลกระทบไปทั้งไหล่ หลัง และหลังส่วนต่ำที่ต้องคอยรับน้ำหนักตลอด
พอการเดินทางผ่านไปสักแค่ 2 ปี อาการปวดไหล่ และหลังเริ่มปรากฏเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ ด้วยที่รับน้ำหนักมากเป็นเวลานาน ซ้ำร้ายการทำงานที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องที่ต้องมีการเดินทางตลอด เวลารักษาจริงจังก็ไม่มี หรือเรียกว่าไม่ได้รักษาก็ว่าได้ ทางที่ดีผู้เขียนแนะนำให้ท่านใช้กระเป๋าถือแบบที่มีล้อลากได้จะดีที่สุด ซึ่งพออาการผู้ผู้เขียนมากขึ้นนั้น ตอนหลังถึงได้หันมาใช้กระเป๋าประเภทนี้แทนการสะพายบนไหล่ หากใช้แบบนี้ก่อนก็คงไม่สร้างอาการเจ็บปวดให้ตัวเองเรื้อรัง ปัญหาอื่นๆจากเพื่อนร่วมงานคนอื่นก็อาจมีเช่น การเป็นโรคกระเพาะอาหาร หากท่านเป็นคนที่ไม่สามารถรับปทานอาหารต่างชาติได้นาน เนื่องจากการเดินทางแต่ละครั้งจะกินเวลาไม่ต่ำกว่า 1 อาทิตย์ บางคนวันที่ 3 หรือ 4 หากหาอาหารไทยในที่นั้นๆไม่ได้ก็จะเริ่มมีปัญหาเป็นต้น นี่ไม่รวมคนที่อาจจะมีโรคประจำตัวอื่นๆ เช่นแพ้อากาศ แพ้อาหาร หรืออื่นๆ ที่จะแนะนำคือท่านต้องรู้ตัวเองว่าสุขภาพอยู่ระดับไหน มีอะไรเป็นข้อจำกัด จะสามารถวางแผนรับมือกับข้อจำกัดอย่างไรเป็นต้น เช่นหากมียาที่ต้องรับปทานประจำ การเดินทางข้ามไปในโซนเวลาที่แตกต่าง ที่ต้องเปลี่ยนเวลากิน เวลานอนด้วยนั้น ท่านก็ต้องวางแผนการเตรียมการเหล่านี้เอาไว้ด้วย นี่ไม่นับรวมอาการ Jet lack ที่จะเกิดขึ้นอีก ส่วนนี้ก็ต้องวางแผนการรับมือไว้บ้างเช่นกัน แม้กระทั่งการเดินทางท่ามกลางโรคระบาดเช่นสมัยที่มีโรค ซาร์ แล้วเร็วๆนี้ก็มีโรคเมอร์ซ เป็นต้น โดยพื้นฐานแล้วก็จะเป็นความสมบูรณ์ แข็งแรงของสุขภาพเรา หากท่านอายุยังไม่มากก็จะสามารถปรับตัวได้ในระดับหนึ่ง หากเริ่มมีอายุเพิ่มมากขึ้นท่านก็ต้องวางแผนรับสถานณ์การเหล่านี้ให้แตกต่างไป ให้เหมาะกับวัยเป็นต้น
Business trip อาจดูเป็นเรื่องเหนื่อย เพราะภาระกิจเยอะแยะที่ต้องทำในช่วงเวลาจำกัด แต่หากบริหารจัดการด้วยการวางแผนที่ดี เราก็จะสามารถสร้างความสำเร็จหลังการเดินทางแต่ละครั้งเสร็จสิ้นลง ในระหว่างการเดินทางเราก็จะได้ทำภาระกิจใหม่ๆ ที่สามารถสร้างความสนุกสนาน สร้างความรู้ใหม่ๆได้ ถึงดูเป็นกิจกรรมที่ทำซ้ำๆ แต่รายละเอียดก็จะแตกต่างกันไป ขอให้ทุกท่านมีการวางแผนการเดินทางที่ดี มีการรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆได้ดี ดูแลสุขภาพร่างกายให้ดี รับรองว่าท่านจะได้ประสบการณ์ที่สามารถนำมาปรับปรุงอนาคตได้เสมอค่ะ ขอให้สนุกกับการเดินทาง
ไม่มีความเห็น