วันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2559
....
วันนี้มีหลายอย่างที่ไม่เข้าที่เข้าทางมาก คนรอบข้างมีสภาวะปั่นป่วนและพุ่งเข้ามาหา
ถ้าสติตั้งไม่ทันรับไม่ไหว อาการก็คงเป๋ๆ ...
ส่วนมากมักจะมาในรูปแบบของอารมณ์ที่ร้อน และเรื่องราวที่ชวนให้เกรี้ยวกราด
แต่...มองเข้าไปให้ลึกซึ้ง จะพบว่าผู้คนนั้นๆ ต่างมีความบีบคั้นจากความทุกข์ภายในใจอย่างรู้ตัวหรืออาจไม่รู้ตัว
ในวันเสาร์เช่นนี้ ...การใช้ชีวิตที่วัดข้าพเจ้ามีภารกิจทำหลากหลาย ที่ไม่รวมถึงการภาวนา
***การภาวนาคือ ภารกิจหลัก
มีกิจกรรมการเยียวยาบุคคลในหลายๆ กลุ่ม เด็กๆ ช่วงนี้จะเข้าไปอุปฐากหลวงปู่ ความวุ่นวายก็ลดลง(หรืออาจไปเล่นซนแถวนั้น แต่หลวงปู่ก็เมตตาให้ตามเด็กๆ ไปอยู่กับท่านเสมอ และดูเหมือนเด็กๆ ก็สดชื่นและมีความสุข ...***เขาพากันมองว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องไปอยู่ช่วยพยุงหลวงปู่)
เวลาที่ต้องจัดการตนเองเมื่อมีอารมณ์ด้านลบ(กิเลส) ของคนมากระทบ สิ่งที่ดีที่สุดในการ Re-Treat คือ การทำสมาธิภาวนา
และหลังจากนั้นจิตของเราก็จะมีกำลังมากขึ้น
วันนี้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่า...
การช่วยเหลือคนที่ไม่ยอมช่วยตนเอง แต่อยากให้เราช่วยนั้น เราต้องใช้กำลัง/พลังอย่างมาก
ทำให้นึกถึงคล้ายกระโดดลงไปช่วยคนกำลังจะจมน้ำ แต่คนที่เราช่วยกลับดึงอะไรบางอย่างหรือรั้งอะไรบางอย่างไว้
อย่างไรก็ตามเมื่อได้เข้ามาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ที่สุดแล้วก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันเช่นเดิม
ในความเป็นจริงของชีวิตเราไม่อาจหลีกเลี่ยงสภาวะนี้ได้แม้พยายามจะเลี่ยง
เมื่อเลี่ยงไม่ได้ ...ที่สุดเราก็ต้องน้อมรับ
ไม่มีความเห็น