เข้าพรรษา (10) ; สะพานบุญ
ทุกๆ วันอาทิตย์จะมีภารกิจสำคัญคือ การอบขนม Veggie cake ในนามกิจกรรม "ขนมบุญ" แด่กัลยาณมิตรทั้งหลายที่ช่วยสนับสนุนกิจกรรมบ่มเพาะต้นกล้า หลังจากที่ผ่านมากว่าจะอบขนมเสร็จก็บ่ายแก่ๆ สัปดาห์ก่อนจึงลองปรับโดยเริ่มอบขนมแต่เช้า ช่วงบ่ายจะได้เร่งทำความเพียร
แต่สัปดาห์นี้ไม่เป็นไปตามกระบวนการและมีกิจแทรกเข้ามาเพื่อช่วยบุคคลให้เข้าร่องเข้ารอยแห่งทาน ศีล ภาวนา ดังนั้นจึงคล้ายทำภารกิจสองอย่างไปพร้อมๆกัน
อบขนมไปพร้อมกับอบรมลูกศิษย์
อบมากไปก็เกรียม
อบน้อยไปก็ไม่สุกดี
จึงต้องใคร่ครวญหาความพอดีๆ
หากเป็นเมื่อก่อนคงล้าพอสมควร
แต่บททดสอบนี้ทำให้สภาวะเคลื่อนสู่คำว่า อุเบกขาละเอียดขึ้น
ช่วงเช้ามืดลุกขึ้นมาทำความเพียรได้ดีมาก
ทำวัตรเช้า ภาวนา เดินจงกลม ... กิจส่วนตัวในการดูแลสุขภาพ
ตั้งแต่เข้าพรรษารอบร้ผ่อนอาหารลงนอกจากจะทานมื้อเดียวแล้ว มื้อที่ทานก็ทานน้อยลงทานปลาได้มากและทานผักได้เยอะ แต่เมื่อรวมๆ แล้วอาหารที่ทานแต่ละครั้งก็ยังคงเหลือน้อย
น้องติ๋ว-เภสัชติ๋วโดนกิเลสลากไปนานเกือบเป็นเดือน ตามที่เธอเรียนให้องค์หลวงปู่ทราบ กลับมารอบนี้พลังความตั้งใจในการทำหน้าที่เป็นสะพานบุญดูเหมือนมีมาก ตั้งอกตั้งใจ อานิสงค์ที่ทำก็คล้ายการสะสมแต้มแถมได้นำพาขนมที่มีการปรุงแต่งน้อยที่สุดไปสู่ผู้คนที่นำไปทำบุญถวายพระต่อ
ที่วัดมีทั้งสมาชิกศูนย์ฟื้นฟูฯ. เด็กๆ สังกะลีและแม่ขาวน้อย ภาระค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่มักจะเป็นในเรื่องอาหารและการสนับสนุนภารกิจทำงานถวายวัดของครอบครัวแม่รี ขนมบุญที่กัลยาณมิตรหลายๆ ท่านอุปถัมภ์พอนำปัจจัยมาใช้จ่ายในส่วนนี้ได้พอสมควร
หนึ่งสัปดาห์อบขนมหนึ่งครั้ง
เหนื่อยน้อยลงกว่าหลายเดือนที่ผ่านมาที่ทดลองทำข้าวกล่อง Organic
เวลาที่ทำภารกิจอะไรก็ตามข้าพเจ้ามักจะใช้ทักษะของการคิด ทดลอง ใคร่ครวญและปรับประบวนการเสมอๆ ...การทำและฝึกฝนเช่นนี้ทำให้สนุกในการทำกิจต่างๆ
แม้ภาระงานมากเมื่อนำกระบวนการเช่นนี้มาใช้ ระยะเวลาทำงานจะสั้นลง เห็นผลลัพธ์มากขึ้น
นี่น่ะคือ อุบายการทำการงานเพื่อให้เกิดปัญญาและใจที่เบิกบาน
...
๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘
ไม่มีความเห็น