ต้องขอขอบคุณชมรมผู้สูงอายุมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งจัดบรรยายความรู้เกี่ยวกับกฎหมายสำหรับผู้สูงอายุ ในหัวข้อ "พระราชบัญญัติและสิทธิประโยชน์ผู้สูงอายุ" ดร.วิชัย ธัญญพาณิชย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดี ศาลสูงภาค 4 จังหวัดขอนแก่น เป็นวิทยากร บรรยายในอังคารวันที่ 23 มิถุนายน 2558 เวลา 13.30 - 16.00 น. ณ ห้องประชุม 2 อาคาร 5 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมสาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ได้มีโอกาสไปฟังบรรยายสาระสำคัญเกี่ยวกับพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖
ท่านวิทยากรได้บรรยายว่าตามกฎหมาย ผู้สูงอายุ ต้องอายุเกิน ๖๐ ปี บริบูรณ์ นับจากวันที่เกิด และมีสัญชาติไทย จะโดยการเกิดหรือการแปลงสัญชาติ
ผู้สูงอายุ จะได้รับอะไรบ้าง
การรับบริการ ๑๓ ด้าน คือ
๑. สิทธิ์ได้รับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จัดไว้ให้ โดยให้ความสะดวกและรวดเร็วแก่ผู้สูงอายุเป็นพิเศษ
บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข หมายถึง
บริการที่ให้แก่บุคคลโดยตรงเพื่อ ส่งเสริมสุขภาพ
การป้องกันโรค..การตรวจวินิจฉัยโรค
การรักษาพยาบาล
การฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีพ
รวมถึง..บริการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ
๒. สิทธิ์ได้รับบริการด้านการศึกษา..ศาสนาและข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต
๓. สิทธิ์ได้รับบริการด้านการประกอบอาชีพหรือฝ฿กอาชีพที่เหมาะสม
๔. สิทธิ์ในการพัฒนาตนเองและการทีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม การรวมกลุ่มในลักษณะเครือข่ายและชุมชน
๕. สิทธิ์ได้รับการอำนวยสะดวกและปลอดภัยโดยตรงในอาคาร สถานที่ หรือ ในยานพาหนะ หรือบริการสาธารณอื่น
ได้รับบริการจาก "รัฐ" ในลักษณะ "การกำหนดลักษณธ" อาคาร...สถานที่...ยานพาหนะ หรือบริการอื่นที่ต้องมี
หน่วยงานที่เป็นเจ้าภาพ คือ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด การท่องเที่ยว ฯ
๖. สิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือด้านค่าโดยสาร ยานพาหนะตามเหมาะสม
ค่ารถไฟ ครึ่งราคา ในช่วงเดือน มิถุนายน - กันยายน
๗. สิทธิ์ได้รับการยกเว้นค่าเข้าชมสถานที่ของรัฐ
- เข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรี
- เข้านวอุทยานแห่งชาติฟรี
๘. สิทธิ์ในการได้รับการช่วยเหลือผู้สูงอายุซึ่งได้รับการทารุณกรรม
๙. สิทธิ์ในการได้รับญหาครอบครัวคำแนะนำ/คำปรึกษา/ดำเนินการอื่นเกี่ยวข้องในทางคดีหรือในทางการแก้ไขปัญหาครอบครัว
๑๐. สิทธิ์ในการได้รับจัดที่พักอาศัย อาหารและเครื่องนุ่งห่มตามความจำเป็นอย่างทั่วถึง
๑๑. สิทธิ์ได้รับเบี้ยยังชีพตามความจำเป็นอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
๑๒. สิทธิ์ในการได้รับการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณี
๑๓. ผู้อุปการะเลี้ยงบุพการีซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ มีสิทธิ์ได้รับการลดหย่อนภาษีตามประมวลรัษฎากร
ผู้สูงอายุกับการทำพินัยกรรม
๑.พินัยกรรมคืออะไร มีลักษณะอย่างไร
พินัยกรรม คือ การแสดงเจตนา กำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินและอื่นๆ
๒.ใครมีสิทธิ์ทำพินัยกรรม
ยกเว้นบุคคล ๓ กลุ่มนี้ ทุกคนย่อมมีสิทธิ์ทำพินัยกรรมได้
- บุคคลที่มีอายุยังไม่ครบ ๑๕ ปีบริบูรณ์ (หากบุคคลที่มีอายุยังไม่ครบ ๑๕ ปีทำพินัยกรรม พินัยกรรมดังกล่าวจะเป็นโมฆะ)
- บุคคลผู้ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถ
- บุคคลวิกลจริตกระทำในขณะจริตวิกล
สาระสำคัญของพินัยกรรม
มีลายมือชื่อ
มีวัน เดือนปี
มีพยาน
๓. พินัยกรรมมีกี่แบบ
พินัยกรรมต้องทำตามแบบที่กฎหมายกำหนด มี ๕ แบบ
- แบบธรรมดา
- แบบเขียนเองทั้งฉบับ
- แบบเอกสารฝ่ายเมือง (ม.๑๖๕๘)
- แบบเอกสารลับ (ม.๑๖๖๐)
- แบบทำด้วยวาจา
หลักเกณฑ์และวิธีการทำ คือ
๑.มีพฤติกรรมพิเศษ (เช่นผู้ทำตกอยู่ในอันตรายใกล้ความตาม หรือเวลามีโรคระบาด หรือเวลามีสงคราม
และ
๒.ไม่สามารถทำพินัยกรรมแบบอื่นที่กำหนดได้
วิธีการทำ
๑.ต้องแสดงเจตนา (สั่ง)ต่อหน้าพยานอย่างน้อย ๒ คน ซึ่งอยู่พร้อมกัน ณ ที่นั้น และ
๒. โดยไม่ชักช้า
ท้ายพินัยกรรม ควรมีข้อความว่า"ขณะที่ข้าพเจ้าลงรายมือชื่อ ข้าพเจ้ามีสติ สัมปชัญญะสมบูรณ์ มิได้ถูกบังคับ ขู่เข็ญหรือสำคัญผิดใดๆ จึงทำพินัยกรรมฉบับนี้ไว้"
การให้
การให้จะเอาคืนไม่ได้ยกเว้นผู้รับเนรคุณ
เนรคุณ หมายถึง
๑.ผู้รับได้ประทุษร้ายต่อผู้ให้เป็นความผิดฐานอาญาอย่างร้ายแรง หรือ
๒.ผู้รับได้ทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียงหรือหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง หรือ
๓.ผู้รับบอกปัด ไม่ยอมให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีพแก่ผู้ให้ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้และผู้ให้ยังสามารถจะให้ได้
ไม่มีความเห็น