การคำณวนค่าต่างๆของ Excel


การคำณวนค่าต่างๆของ Excel

เทคนิคการป้อนวันที่ระบบวันที่ของ Excel เกิดจากการ Shift ค่าปี เนื่องจากปัญหา Y2K ดังนั้น ปี ค.ศ. ลงท้ายด้วย 00 ถึง 29 จะเท่ากับปี ค.ศ. 2000 – 2029 ปี ค.ศ. ลงท้ายด้วย 30 ถึง 99 จะเท่ากับปี ค.ศ. 1930 – 1999 ดังนั้นถ้าต้องการป้อนปี 2030 ห้ามป้อนเป็น 1/1/30 เพราะจะหมายถึงปี ค.ศ. 1930 นั่นเอง จะต้องป้อนเต็มสี่หลักคือ 1/1/2030 และไม่สามารถป้อนปี พ.ศ. ได้ จะต้องป้อนเป็นปี ค.ศ. เท่านั้น

  • ชื่อเดือน พิมพ์ได้ทั้งตัวเลข, ชื่อย่อ และชื่อเต็ม
  • ปี พิมพ์ได้ทั้งสองหลัก และสี่หลัก
  • ถ้าไม่ระบุปี จะหมายถึง ปีปัจจุบัน
  • ถ้าไม่ระบุวัน จะหมายถึงวันที่ 1
  • ใช้เครื่องหมาย / หรือ หรือช่องว่างในการเว้นระหว่างวัน เดือน ปี ก็ได้
  • เวลา สามารถใช้ AM หรือ PM ต่อท้ายได้ ถ้าไม่ระบุจะใช้ระบบ 24 ชั่วโมง
  • เวลาจะต้องป้อนอย่างน้อย 2 ชุด คือ ชม. และนาที

คีย์ลัดในการป้อนวัน/เวลา

  • วันปัจจุบัน กดปุ่ม CTRL+;
  • เวลาปัจจุบัน กดปุ่ม CTRL+SHIFT+;
  • วัน/เวลาปัจจุบัน กดปุ่ม CTRL+; แล้วกดปุ่ม SPACE จากนั้นกดปุ่ม CTRL+SHIFT+;

การแสดงสูตรคำนวณบน Sheetโดยปกติใน Sheet ที่มีการคำนวณ โปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์จากการคำนวณ ซึ่งถ้าต้องการตรวจสอบว่าเกิดจากสูตรอะไร จะต้องดูจากแถบสูตร Formula Bar แต่ก็ไม่สามารถพิมพ์สูตรมาได้ ในกรณีที่ต้องการแสดงสูตรคำนวณและพิมพ์ได้ด้วย สามารถกระทำได้โดยวิธีที่ 1 คลิกเลือกคำสั่ง Tools, Options... , View tab, และคลิกเลือกรายการ Formulasวิธีที่ 2 คลิกในเซลล์ที่เป็นผลลัพธ์จากการคำนวณ แล้วกดปุ่ม <Ctrl> พร้อมกับปุ่มสลับภาษาไทย/อังกฤษ (ปุ่มตัวหนอน) ต้องการแสดงค่ามากที่สุด จากตัวอย่าง สามารถใช้สูตร=LARGE(A1:A6,1) จะได้ผลเป็น 97ต้องการแสดงค่ามากลำดับที่ 3 จากตัวอย่าง สามารถใช้สูตร=LARGE(A1:A6,3) จะได้ผลเป็น 23ในกรณีที่ต้องการแสดงค่าน้อยที่สุด ก็เปลี่ยนคำว่า LARGE เป็น SMALL เช่น =SMALL(A1:A6,3) หมายถึง แสดงค่าน้อยที่สุดลำดับที่สามของข้อมูล 

  • Average ค่าเฉลี่ย
  • Count นับจำนวน รวมเซลล์ข้อความ
  • Count Nums นับจำนวนเฉพาะเซลล์ตัวเลข
  • Max ค่าสูงสุด
  • Min ค่าต่ำสุด
  • Sum ผลรวม

 การคำนวณค่าโปรแกรม Microsoft Excel มีความสามารถเด่นในด้านการคำนวณ ซึ่งมีลักษณะการคำนวณ 2 รูปแบบใหญ่ๆ ได้แก่

  • การคำนวณด้วยสูตร (Formula)
  • การคำนวณด้วยฟังก์ชันสำเร็จรูป (Function)

 การคำนวณด้วยสูตร (Formula)

  • เลื่อน Cell Pointer ไปไว้ ณ เซลล์ที่ต้องการวางผลลัพธ์
  • สร้างสูตรการคำนวณแล้วกดปุ่ม <Enter> โดยสูตรจะมีรูปแบบดังนี้

 ค่าที่1 เครื่องหมาย ค่าที่ 2 ...ค่าที่ใช้ในการคำนวณ 

  • ค่าคงที่ เช่น 500
  • ตำแหน่งเซลล์ เช่น A5 จะหมายถึงนำค่าที่ถูกเก็บไว้ในเซลล์ ณ ตำแหน่งแถวที่ 5 คอลัมน์ A มาคำนวณ

เครื่องหมายการคำนวณ ลำดับความสำคัญของเครื่องหมายการคำนวณการคำนวณด้วยคอมพิวเตอร์ จะมีรูปแบบที่แน่นอนเฉพาะตัว โดยอาศัยลำดับความสำคัญของเครื่องหมายการคำนวณ  ตัวอย่างสูตรการคำนวณ=5002% หมายถึง เอา 2 หารด้วย 100 แล้วนำผลลัพธ์ไปคูณกับ 500=5+58 หมายถึง เอา 5 คูณ 8 แล้วนำผลลัพธ์ไปบวกกับ 5=(5+5)8 หมายถึง เอา 5 บวกกับ 5 แล้วนำผลลัพธ์ไปคูณกับ 8=A2/100 หมายถึง เอาค่าในเซลล์ A2 หารด้วย 100=A2+A3+A4+A5 หมายถึง เอาค่าในเซลล์ A2 บวกด้วยค่าในเซลล์ A3 บวกด้วยค่าในเซลล์ A4 บวกด้วยค่าในเซลล์ A5โดยปกติการคำนวณใน Excel จะใช้แบบที่ 2 คือ  

  • สูตรแบบใช้ค่าคงที่ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ให้อัตโนมัติ เมื่อค่าใดค่าหนึ่งเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนผลลัพธ์จะต้องไปแก้ไขที่สูตรด้วยตนเอง
  • สูตรแบบใช้ตำแหน่งเซลล์ จะมีการเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ให้โดยอัตโนมัติ เมื่อค่าใดค่าหนึ่งเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลดีที่สุด

 การคำนวณด้วยฟังก์ชันโปรแกรม Microsoft Excel มีความสามารถเด่นในด้านการคำนวณ ซึ่งมีลักษณะการคำนวณ 2 รูปแบบใหญ่ๆ ได้แก่

  • การคำนวณด้วยสูตร (Formula)
  • การคำนวณด้วยฟังก์ชันสำเร็จรูป (Function)

ชื่อฟังก์ชันจะเป็นคำเฉพาะที่ Microsoft Excel กำหนดไว้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ได้มากมาย เช่น  

  • ฟังก์ชันคำนวณด้านการเงิน เช่น DDB( ) หาค่าเสื่อมราคาที่ระยะเวลาใด ๆ โดยวิธี Double - declining balance method
  • ฟังก์ชันคำนวณด้านวัน เวลา เช่น NOW( ) ฟังก์ชันให้ค่าวันเวลาปัจจุบัน
  • ฟังก์ชันคำนวณด้านคณิตศาสตร์ เช่น TAN( ) ฟังก์ชันหาค่า Tangent ของมุม
  • ฟังก์ชันคำนวณด้านสถิติ เช่น SUM( ) ฟังก์ชันหาผลรวมของชุดตัวเลข
  • ฟังก์ชันคำนวณด้านฐานข้อมูล เช่น DSUM( ) ฟังก์ชันหาผลรวมของข้อมูลตามเงื่อนไขที่ระบุ
  • ฟังก์ชันในการค้นหาข้อมูล เช่น HLOOPUP( ) ฟังก์ชันหาข้อมูลที่ตรงตามเงื่อนไข
  • ฟังก์ชันจัดการตัวอักษร เช่น CHAR( ) ให้ค่าตัวอักษรจากตาราง ASCII
  • ฟังก์ชันการคำนวณแบบตรรก เช่น AND( ) ให้ค่าทางตรรกะในกรณี AND
  • ฟังก์ชันด้านวิศวกรรม เช่น HEX2OCT( ) แปลงตัวเลขฐาน 16 เป็นตัวเลขฐาน 8

 การใช้งาน

  • เลื่อน Cell Pointer ไปไว้ ณ เซลล์ล์ที่ต้องการวางผลลัพธ์
  • สร้างฟังก์ชันการคำนวณแล้วกดปุ่ม <Enter> โดยฟังก์ชันจะมีรูปแบบดังนี้

=ชื่อฟังก์ชัน(ค่า) ค่าที่ใช้ในการคำนวณ ค่าที่นำมาใช้ในการคำนวณ อาจจะเป็นค่าคงที่ เช่น 500 หรืออาจจะเป็นตำแหน่งเซลล์ เช่น A5 จะหมายถึงนำค่าที่ถูกเก็บไว้ในเซลล์ล์ ณ ตำแหน่งแถวที่ 5 คอลัมน์ A มาคำนวณนอกจากนี้ บางฟังก์ชัน ก็ไม่จำเป็นต้องมีค่ากำกับ เช่นฟังก์ชันวันที่ปัจจุบัน ใช้เป็น =NOW() ได้เลย เป็นต้นสูตรในการเชื่อมข้อมูล คือ ="ค่าคงที่"&ตำแหน่งเซลล์&ตำแหน่งเซลล์&"ค่าคงที่"&...โดยค่าคงที่ คือ ค่าใดๆ ก็ได้ที่ต้องการให้แสดงโดยจะต้องกำหนดให้เครื่องหมายคำพูด เช่น ช่องว่าง ก็ให้กำหนดเป็น " " หรือคำว่า คุณ ก็ให้กำหนดเป็น "คุณ" เครื่องหมาย & เป็นเครื่องหมายกระทำของ Excel เพื่อใช้ในการเชื่อมข้อมูล การปรับแต่งข้อมูลวันที่เป็นวันที่แบบไทย กระทำได้โดย

  • กำหนดช่วงข้อมูลที่ต้องการ (จากตัวอย่างคือ I2:J6)
  • เลือกเมนูคำสั่ง "Format, Cells..."
  • เลือกบัตรรายการ Number
  • เลือก Category ชื่อ Custom
  • กำหนดรูปแบบวันที่แบบไทย ในรายการ Type เป็น d ดดดด bbbb

 d ดดดด bbbb เป็นรูปแบบวันที่แบบไทย โดย

  • d แสดงตัวเลข "วัน" ของเดือน ด้วยเลขอารบิก แบบตัวเลขหลักเดียว
  • ดดดด แสดงชื่อเดือนไทย แบบเต็ม
  • bbbb แสดงผลปี พ.ศ. ด้วยเลขอารบิก

 ฟังก์ชันสุ่มค่าตัวเลขการสุ่มค่าตัวเลขด้วย Excel สามารถกระทำได้ง่าย และสะดวกด้วยฟังก์ชัน Random ซึ่งมีรูปแบบการใช้ฟังก์ชันคือการสุ่มค่าตัวเลขด้วย Excel สามารถกระทำได้ง่าย และสะดวกด้วยฟังก์ชัน Randomโดยฟังก์ชันนี้จะแสดงผลลัพธ์เป็นค่าทศนิยม ระหว่าง 0 - 1 ดังนั้นถ้าต้องการแสดงผลด้วยค่าที่มากกว่า 1 สามารถนำ 10 หรือ 100 หรือ 1000 มาคูณ ดังนี้ อย่างไรก็ตามค่าที่ได้ ก็จะมีผลลัพธ์เป็นค่าเลขทศนิยมด้วย ดังนั้นถ้าต้องการค่าเลขจำนวนเต็ม สามารถใช้ฟังก์ชันปัดเศษทศนิยมมาใช้ร่วมกัน ดังนี้สำหรับการสุ่มตัวเลขระหว่างค่าใด ให้ใช้สูตร=RAND()(b-a)+aเช่น สุ่มระหว่างค่า 3 - 5 ให้ใช้สูตร 

หมายเลขบันทึก: 59087เขียนเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2006 10:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 22:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อยาก ได้ ที่มันแบบ เจ๋งๆ หน่อยอ่ะครับ ......... ฝากด้วยคับผม

ดีนะ ขอบคุณมากค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท