ออทิสติกเป็นความบกพร่องของพัฒนาการหลายด้านที่ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่นอน แต่มีการศึกษาวิจัยที่สนับสนุนว่ามีความผิดปกติของสมองทั้งในส่วนของโครงสร้างและเซลล์สมอง ภาวะออทิสติกพบความบกพร่องใน 3 ด้านใหญ่ คือทักษะสังคมและการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นทักษะด้านการสื่อความหมาย และการมีพฤติกรรมซ้ำๆ
การใช้สัตว์มาช่วยในการบำบัด (animal-assisted therapy: AAT) เป็นการบำบัดโดยนำสัตว์ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรักษาเพื่อส่งเสริมการทำหน้าที่ด้านร่างกาย สังคม อารมณ์ และความรู้ความเข้าใจ การใช้สัตว์ช่วยบำบัดสามารถส่งเสริมทักษะในด้านต่างๆ รวมทั้งในเรื่องของพัฒนาการ เพิ่มการเห็นคุณค่าในตนเอง และพฤติกรรมทางบวก รวมถึงช่วยลดอาการสมาธิสั้น อยู่ไม่นิ่ง และพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่มีปัญหาด้านการ
สร้างสัมพันธภาพและปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นอย่างเช่นออทิสติก นั้นพบว่า การใช้สัตว์ช่วยบำบัดสามารถส่งเสริมการปฏิสัมพันธ์ พฤติกรรมทางสังคม
ภาษา และการสื่อความหมาย ตลอดจนช่วยลดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น พฤติกรรมซ้ำ ๆ แยกตัว ขาดสมาธิ รวมทั้งพฤติกรรมนิ่งเฉยๆ
1. จากกรอบอ้างอิง The Person-Environment-Occupation Performace (PEOP)
• Elephant therapy
P : เด็กและวัยรุ่นออทิสติกชายและหญิง ที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่า มีภาวะออทิสติกสเปคตรัม
E : ใช้ช้างที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์เป็นสื่อในการฝึก โดยเหตุผลที่เป็นช้างเพราะช้างเป็นสัตว์ใหญ่ที่เฉลียวฉลาด จดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ยาวนาน และใจดีอีกทั้งช้างเป็นสัตว์สังคมจึงมักอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มและดูแลซึ่งกันและกันเช่นเดียวกับมนุษย์ ช้างมีการเคลื่อนไหวร่างกายมาก ทำให้ดึงดูดความสนใจจากเด็กได้ดี
O : นำเด็กออทิสติกมาตรวจประเมินก่อนหลัง จากนั้นให้โปรแกรมการบำบัด เช่น กิจกรรมเตรียมความพร้อม โดยจะให้ข้อมูลช้าง ทำความคุ้นเคยกับช้าง เพื่อฝึกความยืดหยุ่นและปรับระดับความตื่นตัว จากนั้นจะเป็นกิจกรรมอาหารสมองคือ จะให้เด็กได้ขี่ช้าง เก็บขี้ช้าง อาบน้ำช้าง และให้อาหารช้างเป็นต้น ต่อมาจะเป็นกิจกรรมเพิ่มทักษะชีวิต เช่น กิจกรรมดูแลช้าง ไปรับ-ส่ง เลือกอาหารให้ช้าง กิจกรรมผ่อนคลาย และสุดท้ายจะเป็นกิจกรรมที่เพิ่มทักษะทางสังคมให้แก่เด็ก เช่น การเชียร์และเล่นเป็นทีม
P : ทําให้เด็กมีการพัฒนาทุกด้าน เช่น การสัมผัส จากที่ไม่กล้าสัมผัสก็จะกล้าขึ้น การทรงตัวดีขึ้น มีการสื่อสาร มีสมาธิ และให้ความร่วมมือทํากิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เด็กมีพฤติกรรมการปรับตัวดีขึ้น พฤติกรรมการบูรณาการประสาทรับความรู้สึก ความสามารถในการควบคุมการทรงท่าและทรงตัวดีขึ้น พฤติกรรมไม่พึ่งประสงค์ลดลง
• Hippotherapy
P : เด็กและวัยรุ่นออทิสติกชายและหญิง ที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่า มีภาวะออทิสติกสเปคตรัม
E : ม้าที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์เป็นสื่อในการฝึก
O : เริ่มจากให้เด็กคุ้นเคยกับม้าก่อน มีการประเมินก่อนหลังเข้าร่วมโปรแกรมฝึก ในส่วนของโปรแกรมฝึก เช่น กิจกรรมขี่หลังม้า กิจกรรมแปรงขนม้า ให้อาหารและอาบน้ำม้า หรือนั่งทำกิจกรรมฝึกบนหลังม้า เป็นต้น
P : พบว่า ลดภาวะกลัวการเคลื่อนไหวในแนวแรงดึงดูด เพิ่มสมาธิ พฤติกรรมไม่พึ่งประสงค์ลดลง ช่วยให้ผ่อนคลาย เพิ่มแรงจูงใจให้เด็กแสดงพฤติกรรมทางสังคมเพิ่มขึ้น การกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเองมากขึ้น เพิ่มความสามารถควบคุมกา
ทรงท่าและความสามารถทรงตัว
• Dog therapy
P : เด็กและวัยรุ่นออทิสติกชายและหญิง ที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่า มีภาวะออทิสติกสเปคตรัม
E : สุนัขที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์เป็นสื่อในการฝึก โดยเหตุผลที่ใช้สุนัขก็เพราะ สุนัขมีความคล่องตัวสูงโดยฉะเพราะสายพันธุ์ลาบราดอร์ หรือ โกลเด้นท์รีทรีฟเวอร์ อีกทั้งสุนัขยังสามารถตอบสนองต่อคนได้ดี
O : เริ่มจากสร้างความคุ้นเคยระหว่างสุนัขและเด็กก่อน โดยตัวอย่างกิจกรรมเช่น โยนของให้สุนัขวิ่งไป
คาบกลับมา การลูบคลํา หรือการแปรงขนสุนัขก็เป็นการออกกําลังกายแขนได้อย่างหนึ่ง
P : สามารถช่วยได้ทั้งเรื่องของร่างกายและจิตใจ โดยด้านร่างกายจะช้วยให้ได้เคลื่อนไหวออกกำลังกายแขน ขา ส่วนในเรื่องจิตใจ จะช่วยคลายเหงาและลดอาการซึมเศร้าได้
• Dolphin therapy
P : เด็กและวัยรุ่นออทิสติกชายและหญิง ที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่า มีภาวะออทิสติกสเปคตรัม
E : โลมาที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์เป็นสื่อในการฝึกโดยเหตุผลที่เลือกโลมามาเป็นสัตว์ในการฝึกก็คือ โลมาเป็นสัตว์ที่เป็นมิตร มีเสน่ห์ มีสติปัญญามาก และแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ได้อย่างลึกซึ่ง อีกทั้งยังเป็นสัตว์ที่พยายามเข้าหามนุษย์ เสียงของโลมาเป็นเสียงหวีดแหลม
ความถี่สูงของโลมาช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางสมองและระบบประสาท
O : เริ่มด้วยให้เด็กทำความคุ้นเคยกับโลมาก่อน จากนั้นเด็กจะได้เรียนรู้ชีวิตโลมาในชั้นเรียนศิลปะ จากนั้นจะมีการกระตุ้นความสนใจเกี่ยวกับโลมาก่อนได้สัมผัสจริง มีการเล่นอย่างอิสระกับโลมาเพื่อฝึกการปรับตัวอีกทั้งขณะเล่นยังเป็นการรักษาสมดุลของร่างกายในน้ำได้ด้วย
P : โลมาสามารถสร้างแรงจูงใจให้แก่เด็ก เด็กมีพฤติกรรมที่มีเป้าหมายเพิ่มขึ้น พัฒนาความรู้ความเข้าใจตัวเอง ลดความตึงเครียดได้
• Buffalo therapy
P : เด็กและวัยรุ่นออทิสติกชายและหญิง ที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่า มีภาวะออทิสติกสเปคตรัม
E : กระบือที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์เป็นสื่อในการฝึกเหตุผลที่ใช้กระบือในการฝึกคื ใกล้ชิดคนไทยมาก ว่านอนสอนง่าย เข้าใจภาษา ฉลาด ตัวใหญ่กระตุ้นความสนใจเด็กได้ดี
O : อบอุ่นร่างกาย นำเด็กมาทำความคุ้นเคยกับกระบือก่อน จากนั้นเมื่อคุ้นเคยกันก็จะสามารถจับนั่งขี่เพื่อชมสถานที่ต่างๆ จัดกิจกรรมบนหลังกระบือ ชวนเลิกคุย ทำศิลปะเกี่ยวกับกระบือ ให้อาหาร
P : สื่อสารได้เข้าใจขึ้น การพูดกล้าแสดงออก
2. Evidence base practise levels
3. Knowlege managemant
- Therapuetic use of self
คือ การใช้ตัวผู้บำบัดเป็นสื่อในการรักษา ผู้บำบัดในที่นี้จะหมายถึงนักกิจกรรมบำบัด โดยหน้าที่ของนักกิจกรรมบำบัดในการนำสัตว์มาช่วยรักษาเด็กออทิสติกคือ เริ่มจากการตรวจประเมินเด็กแรกรับเพื่อค้นหาความสามารถและความบกพร่องก่อนเข้ารับการบำบัดรักษา และโปรแกรมเพื่อการบำบัดรักษานั้นถูกสร้างโดยคณะผู้วิจัยซึ่งประกอบด้วยคณาจารย์ และนักกิจกรรมบำบัดร่วมกับผู้ชำนาญการเรื่องสัตว์ชนิดนั้นๆ ซึ่งจะร่วมกันวิเคราะห์และสังเคราะห์ชุดกิจกรรมขึ้นมา และเมื่อเด็กกำลังเข้าร่วมกิจกรรมอยู่นั้นนักกิจกรรมบำบัดจะคอยสังเกต กระตุ้นให้เด็กสนุกและมีส่วนร่วมให้มากที่สุด เพื่อให้ผลการบำบัดรักษาออกมาในทางที่ดี ตัวอย่างเช่น ขณะที่เด็กกำลังอาบน้ำให้ช้าง นักกิจกรรมบำบัดจะชวนพูดคุยให้มีปฏิสัมพันธ์ระว่างเด็กกับผู้บำบัดและเด็กกับช้างเพิ่มขึ้น อาจมีการจับมือเด็กถูกหลังช้างเพื่อให้เด็กได้รับความรู้สึกจากการสัมผัสที่ผิวหนังช้าง เป็นการส่งเสริมระบบบูรณาการประสาทความรู้สึกไปในตัว
- Client relationship
ก่อนเด็กจะเริ่มเข้าโปรแกรมการบำบัดรักษา นักกิจกรรมบำบัดจะต้องทำให้เด็กเกิดความคุ้นเคยกับตนเองก่อน เพื่อให้เด็กเกิดความไว้ใจและยอมปฏิบัติตามซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากเพราะเด็กเมื่อเด็กคุ้นเคยแล้วจะทำให้ขณะเข้าร่วมกิจกรรมเด็กเกิดความสนุก ไม่กังวล ไว้ใจ จนเกิดความสนุก ซึ่งจะเป็นผลดีต่อโปรแกรมการบำบัดรักษาต่อไป
- Activity analysis
นักกิจกรรมบำบัดจะมีส่วนร่วมในการคิดและวางแผนกิจกรรม โดยจะมีการวิเคราะห์และสังเคราะห์กิจกรรมก่อนให้เด็กปฏิบัติ ตัวอย่างเช่น โปรแกรมฝึกระยะสั้นและโปรแกรมฝึกระยะยาวที่จะให้ผลต่างกัน ซึ่งจะต้องขึ้นกับเด็กเองด้วยว่าเหมาะสมกับโปรแกรมแบบใด ตัวอย่างเช่น เด็กที่มีปัญหาด้านการบูรณาการระบบประสาทความรู้สึกชนิดการสัมผัส นักกิจกรรมบำบัดก็จะมีการให้ความรู้สึกนั้นแก่เด็กเช่น ให้เด็กออทิสติกได้ใช้มือถูหลังช้างขณะอาบน้ำ เพื่อให้รับจนกว่าเด็กจะเพียงพอ เป็นต้น
- Teaching learning process
นักกิจกรรมบำบัดจะเป็นผู้สอนทักษะใหม่ๆให้แก่เด็กออทิสติกเช่น ฝึกทำชุดกิจกรรมขณะเล่นกับช้าง สอนการอาบน้ำ แปรงขัน ให้อาหารสัตว์ต่างๆ เป็นต้น
- Environment modification
มีการปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมขณะฝึก เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆมากขึ้น เช่น ขณะขี่บนหลังกระบือจะมีการเดินพาชมบรรยากาศ แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติใหม่ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของเด็กออทิสติกมากขึ้น เพราะเด็กออทิสติกมักมีพฤติกรรมเช่น ไม่มองหน้า ไม่สบตา ไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
4. Knowlege transalation
- การสร้างสัมพันธภาพ :นักกิจกรรมบำบัดจะต้องมีการสร้างสัมพันธภาพกับเด็กก่อนการฝึกกับสัตว์เพื่อให้เด็กเกิดความไว้ใจ รู้สึกปลอดภัยโดยจะต้องเข้าหาเด็กอย่างเป็นมิตร ยิ้มแย้ม พูดคุยกับเด็กจากนั้นจึงให้เด็กได้พบเจอกับสัตว์ที่ใช้ในการฝึกแต่เนื่องจากการนำสัตว์เข้ามาร่วมในโปรแกรมมีส่วนช่วยพัฒนาสัมพันธภาพและกระตุ้นปฏิสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับสิ่งแวดล้อมทางสังคมทั้งสัตว์และบุคคล ดังนั้นสัตว์จึงเป็นเสมือนสื่อกลางทางสังคมที่ช่วยเร่งเร้าให้กระบวนการสร้างสัมพันธภาพของเด็กกับบุคคลอื่นเป็นไปได้เร็วขึ้น อีกทั้งช่วงแรกของการบำบัดนั้นสัตว์จะช่วยลดความเครียด ทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย สนุกสนานและเพลิดเพลินจนสามารถสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกันได้
- การประเมิน :
▪ Need assessment : ประเมินโดยการสอบถามเด็กและผู้ปกครองถึงความต้องการ เช่น ผู้ปกครองมีความต้องการอย่างไรเกี่ยวกับเด็ก เด็กมีความสนใจในสัตว์ชนิดไหน เป็นต้น เพื่อนำไปจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับเด็กมากที่สุด
▪ สังเกต : สังเกตความสามารถขณะทำกิจกรรม เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขโปรแกรมต่อไป
▪ สัมภาษณ์ : เช่น มีการสอบถามความรู้สึกหลังเข้าร่วมโปรแกรมจากผู้ปกครองและเด็ก เพื่อทราบที่พฤติกรรมของเด็กขณะอยู่ที่บ้าน เป็นต้น
▪ ทดสอบ : การฝึกกับสัตว์แต่ละชนิดจะมีการใช้ตัวประเมินที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่หลักๆแล้วที่จะดูเกี่ยวกับเด็กออทิสติกก็คือ พฤติกรรมทางสังคม พฤติกรรมที่ไม่พึ่งประสงค์ การบูรณาการระบบประสาทของร่างกาย ความสามารถพื้นฐาน การปรับตัวของเด็กออทิสติก ตัวอย่างแบบประเมินที่ใช้ Short sensory profile ,Balance Test Kit ,GI Profile for children,ประเมินความสามารถในการทรงตัว,ประเมินพฤติกรรมการปรับตัว เป็นต้น
▪ ดูแฟ้ม : ดูประวัติ การวินิจฉัยโรค ข้อควรระวัง เพื่อจัดการรักษาให้เหมาะสมและป้องกันปัญหาอื่นๆที่จะตามมาขณะทำกิจกรรมการฝึก
▪ ความสุข : สอบถามความสุขของเด็กก่อน ขณะทำกิจกรรม หลังเข้าร่วมโปรแกรม
▪ Role componency : เป็นเด็ก ควรส่งเสริมทักาะที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ การเล่น ของเด็กให้เหมาะสมตามพัฒนาการที่ควรจะเป็นหรือไม่
▪ การย้อนกลับมาประเมินตัวผู้บำบัดว่าผลของโปรแกรมการบำบัดเป็นอย่างไร เด็กมีความต้องการอะไรเพิ่มหรือไม่ หรือขาดให้ส่วนไหน เพื่อนำเป็นจัดกิจกรรมให้เหมาะสมต่อไป
- วางแผนทางกิจกรรมบำบัด ( OT planning ) :การวางแผนให้การบำบัดรักษานั้นจะขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคนว่าเหมาะสมกับสัตว์ชนิดไหน โปรแกรมเป็นแบบไหน หรือขึ้นกับความต้องการของผู้ปกครองที่ทำร่วมกับนักกิจกรรมบำบัด
จากกรอบอ้าอิง Domain & Process
(ที่มา : http://www.prcmu.cmu.ac.th/scoop_detail.php?sco_sub_id=811)
▪ Education :เช่น กิจกรรมเตรียมความพร้อมโดยจะเป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับช้าง กิจกรรมให้อาหารสมองผ่านระบบกายสัมผัส กล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อ และระบบการทรงตัว เพื่อให้สมองสามารถบูรณาการข้อมูลความรู้สึกที่ได้รับดีขึ้น ,กิจกรรมเรียนรู้ชีวิตโลมาในชั้นเรียนศิลปะ ,การเรียนรู้บนหลังม้าเป็นต้น โดยกิจกรรมเหล่านี้จะส่งเสริมด้านการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆให้แก่เด็กออทิสติก
▪ Social participation :ตัวอย่าง กิจกรรมเพิ่มทักษะการเข้าสังคม เช่น การเชียร์และเล่นเป็นทีมขณะทำกิจกรรมชวนเด็กพูดคุยเพื่อส่งเสริมทักษะการสื่อสาร การออกเสียง และการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น
- Follow –up :การติดตามผลหลังเข้ารับโปรแกรมการบำบัดอย่างต่อเนื่องตามระยะเวลาที่แต่ละโปรแกรมกำหนด เพื่อตรวจประเมินความก้าวหน้าและปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสามารถของเด็กแต่ละคน
5. Implication + Application
เอกสารอ้างอิง
▪ นันทณี เสถียรศักดิ์พงศ์*, สร้อยสุดา วิทยากร, เมธิศา พงษ์ศักดิ์ศรี, ศศิธร สังข์อู๋, ประสพ ทิพย์ประเสริฐ, มยุรี เพชรอักษร, ไฉทยา ภิระบรรณ์, ดาราณี สาสัตย์ภาควิชากิจกรรมบำบัดคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ,ผลการใช้โปรแกรมบำบัดด้วยช้างไทยต่อกระบวนการบูรณาการประสาทความรู้สึกในบุคคลออทิสติก,วารสารเทคนิคการแพทย์เชียงใหม่,[online] 2553; Available from: URL: http://www.ams.cmu.ac.th/journal/attachments/article/401/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C(%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89)%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%B2%20%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3.pdf
▪ ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา.ช้างบําบัด.[Online] 2554; Available from: URL: http://www.happyhomeclinic.com/alt17-
elephanttherapy.htm
▪ ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา.โลมาบําบัด.[Online] 2552; Available from: URL:
http://www.happyhomeclinic.com/alt14-dolphintherapy.htm
▪ ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา.แมวบําบัด.[Online] 2552; Available from: URL:
http://www.happyhomeclinic.com/alt16-cattherapy.htm
▪ ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา.กระบือบําบัด.[Online] 2554; Available from: URL:
http://www.happyhomeclinic.com/alt18-buffalotherapy.htm
▪ ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา.สุนัขบําบัด.[Online] 2552; Available from: URL:
http://www.happyhomeclinic.com/alt12-dogtherapy.ht...
▪ ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา. การบําบัดทางเลือก ในเด็กพิเศษ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2550. Palika L. Your cat's mind: feline relationships the special love of therapy cats. [Online] 2006; Available from: URL: http://www.catsplay.com
ไม่มีความเห็น