การเขียนสมมุติฐาน;การวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพในทางรัฐประศาสนศาสร์
อาจารย์สุภัชชา พันเลิศพาณิชย์
การเขียนสมมุติฐานในการเขียนวิจัยเชิงคุณภาพ
จะไม่มีข้อเรียกร้องว่าต้องเขียนสมมุติฐานแต่จะมีหรือไม่ก็ได้แต่ถ้ามีสามารถปรับเปลี่ยนการตั้งสมมุติฐานได้ถ้าข้อมูลที่รวบรวมมาได้นั้นชี้ให้เห็นว่าสมมุติฐานที่ตั้งไว้ไม่สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงและสำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพจะมีการเขียนกรอบแนวคิดทฤษฎีที่ทำหน้าที่ในการเก็บรวบรวมข้อมูลว่านักวิจัยควรเก็บข้อมูลอะไรบ้างมีลักษณะเฉพาะเจาะจงซึ่งนักวิจัยจะเลือกตัวแปรในการศึกษา แนวคิดผู้วิจัยจึงมีลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่ผู้วิจัยได้กำหนดเป็นสมมุติฐานในการศึกษาหรืออาจจะกล่าวว่ากรอบแนวคิดทฤษฎีมีความสัมพันธ์กับสมมุติฐานในแง่ที่ว่าสมมุติฐานเป็นส่วนหนึ่งของกรอบแนวคิดทฤษฎีซึ่งในการวิจัยเชิงคุณภาพอาจมีการตั้งสมมุติฐานเพียงสมมุติฐานเดียวหรือหลายสมมุติฐานก็ได้และทางปฎิบัติการกำหนดกรอบแนวคิดทฤษฎีและการตั้งสมมุติฐานการวิจัยเชิงคุณภาพจะทำก่อนหรือหลังก็ได้(๑)
การเขียนสมมุติฐานในการเขียนวิจัยเชิงปริมาณ
มักจะมีการตั้งสมมุติฐานและตรวจสอบสมมุติฐานหรือใช้ทฤษฎีสอบทานข้อมูลเชิงประจักษ์อยู่เสมอ เช่น งานวิจัยของนักจิตวิทยา ,นักจิตวิทยา,นักการศึกษา เป็นต้น
ความหมายของคำว่า สมมุติฐาน
สมมุติฐานหมายถึง ข้อความที่อธิบายความสัมพันธ์และทิศทางของความสัมพันธ์ระหว่าง๒ตัวแปรขึ้นไปเช่นเพศผู้ใช้สิทธิในการลงคะแนนเสียงที่ต่างกัน มีพฤติกรรมการลงคะแนนเสียงต่างกัน หรืออายุของผู้สิทธิลงคะแนนต่างกัน(๒)
สมมุติฐานหมายถึงการพยายามคาดเดาคำตอบในการวิจัยที่เป็นกระบวนการทางวิจัยเพื่อมุ่งหวังว่าจะให้คำตอบถูกต้องมากที่สุดและต้องสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายการวิจัย(๓)
สมมุติฐานหมายถึงข้อเท็จจริงที่รอการพิสูจน์โดยการเดาคำตอบไว้ล่วงหน้าและมีการนำข้อมูลมาทดสอบด้วยเทคนิคทางสถิติกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้หรือหาเหตุผลข้อมูลมาพิสูจน์เพื่อทดสอบสมมุติฐาน(วิจัยเชิงคุณภาพ)๔.
สรุปสมมุติฐาน คือการคาดเดาคำตอบไว้ล่วงหน้าโดยถ้าเป็นการวิจัยเชิงปริมาณจะมีการนำข้อมูลมาทดสอบด้วยเทคนิคทางสถิติกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้แต่ถ้าเป็นดารวิจัยเชิงคุณภาพจะหาเหตุผลข้อมูลมาพิสูจน์เพื่อทดสอบสมมุติฐานและในการเขียนสมมุติฐานต้องสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายการวิจัย
วิธีการและหลักการเขียนสมมุติฐาน
การเขียนสมมุติฐานในการวิจัย ควรมีวิธีการ ดังนี้
๑.ควรเขียนหลังจากทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
๒.ควรเขียนในรูปประโยคบอกเล่าไม่ควรเขียนในรูปแบบของคำถาม
๓.ควรเขียนในบทแรกของการวิจัย
๔.ควรมีการนิยามศัพท์ที่ใช้ในสมมุติฐานให้ชัดเจนและควรให้คำนิยามศัพท์เชิงปฎิบัติการ หรือศัพท์เฉพาะเจาะจงกับเรื่องวิจัยที่ทำอยู่(๕.)
หลักการเขียนสมมุติฐาน
จะต้องศึกษาวรรณกรรม เอกสารงานวิจัย และทฤษฏีที่เกี่ยวข้องให้กว้างขวางและจับใจความสำคัญมาเขียนให้ ชัดเจน สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายการวิจัยและหากมีหลายประเด็นควรแยกเป็นข้อๆเพื่อความสะดวกในการทดสอบ๖.
หลักการเขียนจุดมุ่งหมายการวิจัย
ในการเขียนสมมุติฐานต้องสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายการวิจัยจึงต้องใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ครอบคลุมให้ผู้อ่านรู้ เข้าใจ ว่าผู้วิจัยจะทำอะไรในเรื่องวิจัยที่ตนกำลังศึกษาอยู่ เช่น๑. เพื่อศึกษาปัญหา..... ๒.เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อ...๓.เพื่อศึกษาแนวโน้ม... ๔.เพื่อเปรียบเทียบ....๕.เพื่อทดลอง...๖.เพื่อหาอัตราส่วนผสม เพื่อสร้าง...เป็นต้น๗.
""""""""""""""""""""""""'''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''
ขอบคุณแหล่งที่มาคะ
(๑.จุมพล หนิมวานิช การวิจัยเชิงคุณภาพในทางรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ พิมพ์ครั้งที่๒ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๒๕๕๑หน้า๑๘๑-๑๘๒)
(๒.จุมพล หนิมวานิช การวิจัยเชิงคุณภาพในทางรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ พิมพ์ครั้งที่๒ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๒๕๕๑หน้า๑๗๗)
(๓.ยุทธ ไกยวรรณ ผศ.ดร.,กุสุมา ผลาพรหม ผศ.ดร. พื้นฐานการวิจัย-กรุงเทพ;ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ,๒๕๕๓หน้า ๙๕)
(๔.จุมพลหนิมวานิช,๒๕๕๑;๑๒๒)
(๕.จุมพล หนิมวานิช การวิจัยเชิงคุณภาพในทางรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ พิมพ์ครั้งที่๒ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๒๕๕๑หน้า๑๗๙)
(๖.ยุทธ ไกยวรรณ ผศ.ดร.,กุสุมา ผลาพรหม ผศ.ดร. พื้นฐานการวิจัย,๒๕๕๓;๙๗-๙๘ )
(ยุทธ ไกยวรรณ ผศ.ดร.,กุสุมา ผลาพรหม ผศ.ดร. พื้นฐานการวิจัย,๒๕๕๓;๙๗-๙๘ )
ไม่มีความเห็น