1. พยายามให้เด็กหรือเยาวชนมีโอกาสในการศึกษานอกระบบให้จบในระดับมัธยม 3 และศึกษาต่อในสายวิชาชีพตามความถนัด ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยการเรียนดังกล่าว หากเป็นเด็กที่อยู่ในชุมชน ไม่ได้กระทำผิด ควรประสานกับผู้ปกครอง อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อจัดการเรียนการสอนภายในชุมชุน และประสานผู้ที่จะมาทำการสอนให้ เป็นการป้องกันการกระทำผิดของเด็กหรือเยาวชนในชุมชนนั้นๆ
แต่หากเป็นเด็กหรือเยาวชนที่ต้องอยู่ในความดูแล เยียวยา แก้ไขของสถานพินิจ อาจต้องใช้สถานที่ของสถานพินิจเป็นที่จัดการเรียนการสอนโดยให้คณะอาจารย์จากวิทยาลัยการอาชีพมาทำการสอนในวันหยุด เช่น วันอาทิตย์ โดยให้ผู้ปกครองพามาเรียน เพื่อลดการกระทำผิดซ้ำของเด็กหรือเยาวชน
2. ร่วมกับ บิดา-มารดา ผู้ปกครอง เพื่อแก้ปัญหาในลักษณะบูรณาการ โดยใช้นักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์ของสถานพินิจ เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดำเนินงานดังกล่าว
3. เมื่อเด็กหรือเยาวชนพ้นโทษ ให้อยู่ในความดูแลของคณะกรรมการสงเคราะห์ฯ ในแต่ละพื้นที่ตามอำเภอ โดยการประสานงานกับผู้ใหญ่บ้าน กำนันและ อบต.
4. ประสานความช่วยเหลือ เป็นที่ปรึกษาให้กับบิดา-มารดา ผู้ปกครองของเด็กหรือเยาวชน ที่มีปัญหา ให้ความรู้ ความเข้าใจ และแนะแนวทางในการเลี้ยงดูเด็กหรือเยาวชน
5. เมื่อมีการปฐมนิเทศทุกครั้ง ให้มีการพบ พุดคุย เป็นรายครอบครัวเพื่อหาสาเหตุของปัญหาและหาทางช่วยเหลือ เยียวยา แก้ไขต่อไป
6. ร่วมมือกับชุมชนที่มีปัญหาหรือมีแนวโน้มว่าจะมีปัญหาในเรื่องเด็กไม่ได้เรียนหนังสือ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยประสานกับ อบต.เจ้าของพื้นที่ เพื่อหาทางออกร่วมกัน
7. ดำเนินงานในลักษณะเชิงรุก คือ เมื่อทราบปัญหาแล้ว นำปัญหาดังกล่าวมาหาแนวทางแก้ปัญหาแบบบูรณาการร่วมกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายคือ การป้องกันและลดจำนวนการกระทำผิดของเด็กและเยาวชน
ไม่มีความเห็น