Prof. Tan ยกรูปภาพ การเกิดภาพโดยลูกตาของมนุษย์
โดยภาพที่ผ่านตามนุษย์จะต้องผ่านเลนส์นูนจึงเกิดเป็นภาพจริงหัวหลับ แต่เราเห็นภาพเป็นหัวตั้งได้เพราะกลไกของสมอง
และกระตุ้นให้เราคิดต่อว่า ภาพที่เราเห็น คือภาพจริงๆ หรือสิ่งที่สมองอยากให้เราเห็น
Meaning making in daily life - การสร้างความหมายในชีวิตประจำวัน
"Human beings... do not apprehend the world directly; they posses only internal representation of it, because perception is the construction of a model of the world. They are unable to compare this perceptual representation directly with the world -it is their world". Johnson-laird (1983, p. 156)
มนุษย์ ไม่ได้เข้าใจโลกอย่างตรงไปตรงมา แต่มีการสร้างตัวแทนขึ้นมาได้ เนื่องจากการรับรู้เป็นการสร้างแบบจำลองของโลกขึ้นมา มนุษย์ ไม่สามารถที่จะเปรียบเทียบสิ่งที่เป็นตัวแทนของการรับรู้นี้โดยตรงกับโลกได้
...............................................................................
จากนั้น Prof.Tan ก็ยกภาพถ่ายอะตอมที่ได้จากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน
แล้วกระตุ้นให้อภิปรายต่อว่า ภาพที่เห็นเป็นภาพอะตอมที่มีอยู่จริงๆ
หรือ เป็นคำอธิบาย การบรรยายการรับรู้ของนักวิทยาศาสตร์ที่อยากให้เราเห็น
Meaning making in science - การสร้างความหมายทางวิทยาศาสตร์
"Science is not just a collection of laws, a catalogue of facts,
วิทยาศาสตร์ไม่ได้เป็นแค่การรวมรวมกฎต่างๆ หรือบัญชีรายชื่อข้อเท็จจริง
it is a creation of the human mind with its freely invented ideas and concepts.
แต่วิทยาศาสตร์เป็นผลงานจากสติปัญญาของมนุษย์ที่แนวคิดและความคิดต่างๆ ถูกสร้างขึ้นอย่างเสรี
Physical theories try to form a picture of reality and to establish its connections with the wide world of sense impression".
ทฤษฎีทางฟิสิกส์พยายามที่จะก่อให้เกิดภาพของความเป็นจริงและสร้างความเชื่อมโยงกับการรับรู้ทางประสาทสัมผัสที่เกิดขึ้นในทุกแห่งหนของโลกนี้
Einstein & Infield (1938)
..............................................................................
และสุดท้าย Prof.Tan ยกตัวอย่างที่จำเพาะเจาะจงลงไปในด้านเคมี คือเรื่องการระเหย (evaporation)
โดยให้อธิปรายว่าจะอธิบาบการระเหยได้อย่างไร
ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ก็อธิบายในแง่ทฤษฎีพลังงานจลน์ของอนุภาค (kinetic particle theory)
Prof.Tan ยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นในชั้นเรียนของเขาให้ฟังว่า มีนักเรีบนบางคนอธิบายว่า เป็นการดื่มน้ำของบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว (spirit's drinking)
ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าทฤษถีไหนคือความจริงแท้ (truth)
ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์อาจจะไม่ใช่ความจริงแท้ก็ได้
แต่สามารถใช้อธิบายเหตุการณ์และปรากฏการณ์ต่างๆ ในธรรมชาติได้มากกว่า
Meaning making in chemistry - การสร้างความหมายในทางเคมี
Teaching students to see, think and talk about the world in a different way they see, think, and talk about the world on daily life
การสร้างความหมายทางเคมี เป็นการสอนนักเรียนให้มองเห็น ได้คิด และได้พูดเกี่ยวกับโลกในวิธีการที่แตกต่างกันออกไปตามที่นักเรียนเห็น คิดและพูดเกี่ยวกับโลกในชีวิตประจำวันของเค้า
.............................................................................................
ลึกซึ้งนะ
ถ้าเป็นครูไทยจะว่ายังไง
ถ้านักเรียนคิดเห็นต่างออกไปจากทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์
หรือนักเรียนบางคน
ไม่มีแม้โอกาสจะได้พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดเลยด้วยซ้ำ ....
ไม่มีความเห็น