วันนี้ดิฉันได้มีโอกาสเรียนกับ อ.ดร.pop ในเรื่องหลักฐานเชิงประจักษ์ ในคาบนี้อาจารย์ท่านจะสอนแบบถามตอบซึ่งเป็นวิธีการสอนแบบใหม่สำหรับพวกดิฉันมาก ซึ่งในการเรียนวันนี้ทำให้ดิฉันฉุกคิดขึ้นมาว่าเราคงต้องเริ่มทำ diary หรือ สมุดบันทึก เพื่อบันทึกสิ่งต่างๆที่เราเรียนรู้มาเพื่อให้จดจำไปตลอดแล้วหล่ะ ...เพราะการเรียนทุกวันนี้ของเด็กไทย เป็นเหมือนการเรียนแบบ "ความรู้ที่ไปเร็วมาเร็ว (fast knowledge)" คือยังไม่ได้เป็น "ความรู้" แต่เป็นเพียง "ข้อมูล" ที่รับมาเท่านั้น เมื่อวันเวลาผ่านไป สิ่งที่เรารับมาหรือเรียนมาก็จะหายไปจากสมองเราตามกาลเวลา แต่ถ้าหากเราอยากทำให้มันเป็นความรู้ที่ติดตัวไปตลอดชีวิตหล่ะ? เราจะทำยังไง?
สิ่งที่ง่ายที่สุดในการทำให้ความรู้ที่เราเรียนหรือรับมาติดตัวเราไปตลอดก็คือเราต้องเปลี่ยนการเรียนแบบ Fast knowledge เป็น "ความรู้ที่ใช้ได้จริงอย่างค่อยเป็นค่อยไป (Slow knowledge)" เรียกสั้นๆว่า "Fast to slow" ซึ่งการเรียนแบบ Slow แบ่งเป็น 3 ระดับ
- Slow ระดับ 1 คือ การสืบค้น
- Slow ระดับ 2 คือ การแลกเปลี่ยน พบผู้รู้ หรือฝึกกับ case จริงๆเพื่อให้เราเห็นภาพจริงๆ
- Slow ระดับ 3 คือ การบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นตำราชีวิตหรือหลักฐานเชิงประจักษ์ (Evidence Based practise)
ถ้าหากเรา 1.มีการเรียน -> 2.ลองไปเห็นภาพจริง/ถามผู้รู้ -> 3.ทำสมุดบันทึกความรู้ไว้ ... เพียง 3 ขั้นตอนนี้ก็จะทำให้เราสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือ "การเรียนรู้แบบ slow ต้องเรียนตลอดชีวิต" นะค่ะ :D
ไม่มีความเห็น