หลังจากปิดเทอมช่วงปีใหม่ วันนี้เป็นการเปิดเรียนวันที่ 3 ฉันได้เรียนรู้เรื่อง "หลักฐานเชิงประจักษ์ (Evidence Base Practice)" ซึ่งดิฉันคิดว่ามันเป็นความรู้ใหม่ที่สำคัญ และสามารถใช้ได้ทุกวิชาชีพ ไม่เฉพาะแต่ นักกิจกรรมบำบัด
ฉันได้เห็นความจริงที่ว่า ในการเรียนในมหาวิทยาลัยทุกวันนี้เป็นความรู้ที่เรียนว่า ความรู้มาเร็วไปเร็ว (Fast Knowledge) เป็นเพียงแค่ข้อมูลที่เรารับเข้ามา แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราจะลืมข้อมูลเหล่านี้อย่างรวดเร็ว เพราะข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ผ่านการสืบค้น หรือลงมือกระทำจริงๆ
จะทำอย่างไรให้กลายเป็น ความรู้ที่ใช้ได้จริง (Slow Knowledge)
- ขั้นตอนที่ 1 (Slow1) คือการสืบค้น ถ้าเราได้ข้อมูล หรือ กรณีศึกษามา 1 เคส ขั้นตอนนี้เราต้องทำการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมจากวารสารในเรื่องนั้นๆ ทำให้เรารู้ลึกมากขึ้น ในตัวโรคนั้นๆ
- ขั้นตอนที่ 2 (Slow2) คือการสอบถามจากผู้รู้ เมื่อได้ข้อมูลที่มาจากวารสาร ในขั้นตอนที่ 1 เรียบร้อยแล้ว เราก็จะต้องสอบถามจากผู้รู้ หรือ ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ หรือ การลงมือกระทำกับเคสนั้นจริงๆ จะทำให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้นในกรณีศึกษาเหล่านั้น
- ขั้นตอนที่ 3 (Slow3) คือการบันทึกลงในสมุดบันทึกของตนเอง ขั้นตอนนี้จะทำให้ข้อมูลเหล่านั้น กลายเป็นความรู้ที่แท้จริง ใช้เวลาทบทวนแค่ระยะสั้นก็สามารถจดจำเรื่องราวเหล่านั้นได้
ทั้ง 3 ขั้นตอนเหล่านี้ หากเราได้ลงมือปฏิบัติและบันทึกอย่างเป็นกิจวัตรแล้ว จะทำให้เราสามารถเปลี่ยนจากข้อมูลในกระดาษ ให้กลายเป็นความรู้ที่นำไปใช้ได้จริง และนำไปประยุกต์ใช้ได้ต่อไป
รูปภาพจาก : http://www.mind-expanding-techniques.net/memory-types.html
ไม่มีความเห็น