การคำนวณค่าExcel


การคำนวณค่าExcel
คีย์ลัดควบคุม Toolbars /Menu bar

F 10 หรือ Alt

เปิด/ปิดการเลือกเมนู

tab หรือ Shift+Tab

เลือกคำสั่งต่างๆ ของเมนู

Ctrl+Tab หรือ Ctrl+Shift+Tab

เลือกแถบเครื่องมือต่างๆ

Enter

สั่งงาน

Shift+F 10

แสดงคำสั่งลัด

Alt+Spacebar

เปิด Control Menu ของหน้าต่างโปรแกรม

ปุ่มลูกศร

เลื่อนรายการตามทิศทาง

Home หรือ End

เลื่อนไปคำสั่งแรก, คำสั่งสุดท้าย

Esc

ปิดเมนูคำสั่ง, ยกเลิกการเลือกคำสั่ง

Ctrl+ 7

เปิด/ปิดการแสดง Standard Toolbar

สูตรปัดตัวเลข
  • สูตรปัดตัวเลขขึ้น ได้แก่
    • RoundUp ปัดตัวเลขขึ้น ให้เหลือจำนวนหลักตัวเลขตามต้องการ
      • =ROUNDUP( ตัวเลข , จำนวนหลัก)
      • =ROUNDUP(1.23,1) 1.3
      • =ROUNDUP(1.23,0) 2
      • =ROUNDUP(12.3,-1) 20
    • Ceiling ปัดตัวเลขขึ้น สู่ตัวเลขเท่ากับ จำนวนเท่าคูณค่าทวีคูณ
      • = CEILING( ตัวเลข , ค่าทวีคูณ)
      • = CEILING( 1.23 ,. 25) 1.25
      • = CEILING( 1.23 ,. 5) 1.5
      • = CEILING( 1.23,1) 2
      • = CEILING( 12.3,2) 14
        • ค่าทวีคูณ หมายถึง ตัวเลขซึ่งจะเพิ่มหรือลดเป็นจำนวนเท่าตัวของค่าเดิม เช่น
        • ค่าทวีคูณ = .5 มีค่า 0 > 0.5 > 1.0 > 1.5 > 2 >>>
  • สูตรปัดตัวเลขลง ได้แก่
    • RoundDown ปัดตัวเลขลง ให้เหลือจำนวนหลักตัวเลขตามต้องการ
      • =ROUNDDOWN( ตัวเลข , จำนวนหลัก)
      • =ROUNDDOWN(1.23,1) 1.2
      • =ROUNDDOWN(1.23,0) 1
      • =ROUNDDOWN(12.3,-1) 10
    • Floor ปัดตัวเลขลง สู่ตัวเลขเท่ากับ จำนวนเท่าคูณค่าทวีคูณ
      • =FLOOR( ตัวเลข , ค่าทวีคูณ)
      • =FLOOR(1.23,.25) 1
      • =FLOOR(1.23,.5) 1
      • =FLOOR(1.23,1) 1
      • =FLOOR(12.3,2) 12
    • Int ปัดตัวเลขลง เป็นเลขจำนวนเต็มที่น้อยลง
      • =INT( ตัวเลข)
      • =INT(1.23) 1
      • =INT(-1.23) -2
    • Trunc ตัดตัวเลข ให้เหลือจำนวนหลักตัวเลขตามต้องการ
      • = TRUNC( ตัวเลข , จำนวนหลัก)
      • = TRUNC( 1.23) 1
      • = TRUNC(- 1.23) -1
      • = TRUNC( 1.23,1) 1.2
      • = TRUNC( 12.3,0) 12
      • = TRUNC( 12.3 ,- 1) 10
      • ข้อสังเกต สูตร Trunc จะตัดตัวเลขทิ้งเลย ส่วนสูตร Int จะตัดตัวเลขทิ้งให้เป็นค่าที่น้อยลง ทำให้ Int(-1.23) กลายเป็น - 2
  • สูตรปัดตัวเลข ขึ้นก็ได้ ลงก็ได้ ได้แก่
    • Round ใช้เลข 5 เป็นเกณฑ์ ในการปัดตัวเลขขึ้นหรือลง
      • =ROUND( ตัวเลข , จำนวนหลัก)
      • =ROUND(1.23,1) 1.2
      • =ROUND(1.25,1) 1.3
      • =ROUND(14.2,-1) 10
      • =ROUND(15.2,-1) 20
    • สูตร Round จะปัดลงเมื่อตัวเลขหลักถัดไปน้อยกว่า 5 และปัดขึ้นเมื่อตัวเลขหลักถัดไปมากกว่าหรือเท่ากับ 5
    • Round พิเศษ ใช้ค่าทวีคูณเป็นเกณฑ์ ปัดตัวเลขใกล้เคียง เข้าสู่ค่าทวีคูณ
    • =ROUND( ตัวเลข/ค่าทวีคูณ ,0)* ค่าทวีคูณ
    • =ROUND(10.125/.05,0)*.05 10.15
    • =ROUND(10.125/.10,0)*.10 10.10
    • =ROUND(10.124/.25,0)*.25 10.00
    • =ROUND(10.125/.25,0)*.25 10.25
    • สูตร Round ดัดแปลงนี้มีประโยชน์มากจะปัดลง เมื่อตัวเลขมีค่า ไม่ถึงครึ่งของค่าทวีคูณ จะปัดขึ้น เมื่อตัวเลขมีค่า มากกว่าหรือเท่ากับครึ่งหนึ่งของค่าทวีคูณ
  • MRound ใช้ค่าทวีคูณเป็นเกณฑ์ ปัดตัวเลขใกล้เคียง เข้าสู่ค่าทวีคูณ
 
การคำนวณค่า
โปรแกรม Microsoft Excel มีความสามารถเด่นในด้านการคำนวณ ซึ่งมีลักษณะการคำนวณ 2 รูปแบบใหญ่ๆ ได้แก่
  • การคำนวณด้วยสูตร (Formula)
  • การคำนวณด้วยฟังก์ชันสำเร็จรูป (Function)
การคำนวณด้วยสูตร (Formula)
  • เลื่อน Cell Pointer ไปไว้ ณ เซลล์ที่ต้องการวางผลลัพธ์
  • สร้างสูตรการคำนวณแล้วกดปุ่ม <Enter> โดยสูตรจะมีรูปแบบดังนี้
= ค่าที่1 เครื่องหมาย ค่าที่ 2 ...ค่าที่ใช้ในการคำนวณ
  • ค่าคงที่ เช่น 500
  • ตำแหน่งเซลล์ เช่น A5 จะหมายถึงนำค่าที่ถูกเก็บไว้ในเซลล์ ณ ตำแหน่งแถวที่ 5 คอลัมน์ A มาคำนวณ
ลำดับความสำคัญของเครื่องหมายการคำนวณการคำนวณด้วยคอมพิวเตอร์ จะมีรูปแบบที่แน่นอนเฉพาะตัว โดยอาศัยลำดับความสำคัญของเครื่องหมายการคำนวณ Calculation Stepตัวอย่างสูตรการคำนวณ=500*2% หมายถึง เอา 2 หารด้วย 100 แล้วนำผลลัพธ์ไปคูณกับ 500=5+5*8 หมายถึง เอา 5 คูณ 8 แล้วนำผลลัพธ์ไปบวกกับ 5=(5+5)*8 หมายถึง เอา 5 บวกกับ 5 แล้วนำผลลัพธ์ไปคูณกับ 8=A2/100 หมายถึง เอาค่าในเซลล์ A2 หารด้วย 100=A2+A3+A4+A5 หมายถึง เอาค่าในเซลล์ A2 บวกด้วยค่าในเซลล์ A3 บวกด้วยค่าในเซลล์ A4 บวกด้วยค่าในเซลล์ A5
 
คำนวณหาอายุ, อายุงาน (ปี)
จากตัวอย่าง สามารถใช้ฟังก์ชันของ Excel ช่วยคำนวณหาอายุงาน และอายุตัวได้ง่ายๆ ดังนี้ การคำนวณหาอายุงาน กระทำได้โดย
  • คลิกเมาส์ที่คอลัมน์ J เลือกเมนูคำสั่ง "Insert, Columns" เพื่อแทรกคอลัมน์ว่าง ป้อนชื่อคอลัมน์เป็น "อายุงาน (ปี)"
  • คลิกเมาส์ในเซลล์ J2
  • พิมพ์สูตร =YEAR(TODAY())-YEAR(I2)
  • คัดลอกสูตรไปยังเซลล์อื่นๆ
  • ถ้าปรากฏค่าเป็นรูปแบบวันที่ ให้คำสั่ง "Format, Cells..." แล้วเลือกบัตรรายการ Number จากนั้นเลือก Category ชื่อ General โปรแกรมจะแสดงค่าตัวเลขปี ที่ถูกต้อง
คำอธิบาย=YEAR(TODAY())-YEAR(I2) เป็นสูตรผสมในการค่าอายุงาน หน่วยเป็น "ปี" โดย·         today() เป็นฟังก์ชันหาค่าวันที่ปัจจุบัน (วันที่ของเครื่อง) ·         year(today()) เป็นฟังก์ชันผสม โดยฟังก์ชัน Year() จะหาค่า "ปี ค.ศ." ของฟังก์ชัน Today() เช่น ถ้าวันที่ของเครื่องเป็น 21 มกราคม 2545 ฟังก์ชัน Today() จะมีค่าเป็น 1/1/70 เมื่อนำมาผ่านฟังก์ชัน Year(today()) จะได้ค่าเป็น 2002 นั่นเอง ·         year(I2) เป็นการหาค่าปี ค.ศ. ของข้อมูลในเซลล์ I2 จากตัวอย่างข้อมูลใน I2 คือ 7 พฤษภาคม 2537 เมื่อผ่านฟังก์ชัน Year() จะได้ค่าปี ค.ศ. เป็น 1991 ·         ดังนั้น =YEAR(TODAY())-YEAR(I2) ก็จะเป็นการนำค่า 2002 ลบด้วยค่า 1991 ซึ่งเท่ากับ 11 (ปี) นั่นเอง เพิ่มเติมการหาอายุตัว (ปี) ก็ใช้หลักการลักษณะเดียวกันสรุปสูตรคำนวณเกี่ยวกับอายุ

=YEAR(TODAY())-YEAR(ตำแหน่งเซลล์ของวันที่ที่ต้องการคำนวณ)

การหาผลรวมอัตโนมัติ (AUTOSUM)

การคำนวณหาค่าผลรวมด้วย MS-Excel สามารถกระทำได้สะดวก ง่าย และรวดเร็ว โดยอาศัยความสามารถที่เรียกว่า "ผลรวมอัตโนมัติ" หรือ Auto Sum ซึ่งการทำงานเกี่ยวกับ Auto Sum มีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับรูปแบบข้อมูลใน Sheet ตัวอย่างที่ 1 ต้องการหาผลรวมค่าใช้จ่ายในเดือนมกราคม โดยนำผลลัพธ์ไปไว้ในเซลล์ B7 วิธีการคือSheet
  • ระบายแถบสีให้กับช่วงเซลล์ B3 : B6
  • Click ที่ไอคอน Auto Sum
  • ผลลัพธ์ปรากฏในเซลล์ B7
ตัวอย่างที่ 2 ต้องการหาผลรวมทุกรายการ (ทั้งแนวนอน และแนวตั้ง) วิธีการคือ
  • ระบายแถบสีคลุมข้อมูลการคำนวณทั้งหมด รวมพื้นที่เซลล์ที่ต้องการวางผลลัพธ์
  • Click ที่ไอคอน Auto Sum
  • ปรากฏผลลัพธ์จากการคำนวณทุกค่าในเซลล์ที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ
คำนวณอัตโนมัติ และรวดเร็ว
ข้อมูลตัวเลขที่ป้อนลงไป สามารถคำนวณได้อย่างรวดเร็ว โดย
  • กำหนดช่วงให้กับข้อมูลที่ต้องการคำนวณ
  • ดูผลลัพธ์จาก Status Bar
  • สามารถคำนวณค่าอื่นๆ ได้โดยนำเมาส์ไปชี้ที่ตำแหน่งยอดรวมบน Status bar แล้วกดปุ่มขวาของเมาส์ เลือกฟังก์ชันคำนวณที่ต้องการ
    • Average ค่าเฉลี่ย
    • Count นับจำนวน รวมเซลล์ข้อความ
    • Count Nums นับจำนวนเฉพาะเซลล์ตัวเลข
    • Max ค่าสูงสุด
    • Min ค่าต่ำสุด
    • Sum ผลรวม
เอกสารอ้างอิงwww.google.comwww.nectee.or.th  
 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #history49243972
หมายเลขบันทึก: 58269เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2006 21:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 11:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท