สูตรคำนวณอายุงาน (แบบเต็ม)
วันที่ปัจจุบัน =today - วันที่เข้าทำงาน สมมติตำแหน่งเซลล์ g2 สูตรก็คือ =today – g2 ผลลัพธ์คือ ผลต่างของจำนวนวัน (สมมติ 3778 วัน) 365 วัน = 1 ปี 3778 วัน = 3778/365 ปี = 10 ปี เศษที่ได้คือ จำนวนวันที่เหลือ = 128 วัน มาจาก (3778 – (จำนวนวันในรอบ 10 ปี) =mod(3778,365) =mod(today - g2,365) mod = modulus หารเอาแต่เศษ 30 วัน = 1 เดือน int((mod(today -g2,365))/30) int = interger แสดงเฉพาะจำนวนเต็ม (ไม่แสดงจุดทศนิยม) 128 วัน = 128/30 เดือน = 4 เดือน เศษที่ได้คือ จำนวนวันที่เหลือ หาจำนวนวันคือ 128 mod 30 = วันที่เหลือสรุปคำสั่งหาอายุงานแบบเต็ม ปี =YEAR(TODAY) -YEAR(ตำแหน่งเซลล์) เดือน =INT(MOD(TODAY - ตำแหน่งเซลล์,365)/30) วัน =MOD(MOD(TODAY - ตำแหน่งเซลล์,365),30)
สูตรปัดตัวเลขขึ้น ได้แก่
- RoundUp ปัดตัวเลขขึ้น ให้เหลือจำนวนหลักตัวเลขตามต้องการ
- =ROUNDUP( ตัวเลข , จำนวนหลัก)
- =ROUNDUP(1.23,1) 1.3
- =ROUNDUP(1.23,0) 2
- =ROUNDUP(12.3,-1) 20
- Ceiling ปัดตัวเลขขึ้น สู่ตัวเลขเท่ากับ จำนวนเท่าคูณค่าทวีคูณ
- = CEILING( ตัวเลข , ค่าทวีคูณ)
- = CEILING( 1.23 ,. 25) 1.25
- = CEILING( 1.23 ,. 5) 1.5
- = CEILING( 1.23,1) 2
- = CEILING( 12.3,2) 14
-
ค่าทวีคูณ หมายถึง ตัวเลขซึ่งจะเพิ่มหรือลดเป็นจำนวนเท่าตัวของค่าเดิม เช่น
-
ค่าทวีคูณ = .5 มีค่า 0 > 0.5 > 1.0 > 1.5 > 2 >>>
-
สูตรปัดตัวเลขลง ได้แก่
- RoundDown ปัดตัวเลขลง ให้เหลือจำนวนหลักตัวเลขตามต้องการ
- =ROUNDDOWN( ตัวเลข , จำนวนหลัก)
- =ROUNDDOWN(1.23,1) 1.2
- =ROUNDDOWN(1.23,0) 1
- =ROUNDDOWN(12.3,-1) 10
- Floor ปัดตัวเลขลง สู่ตัวเลขเท่ากับ จำนวนเท่าคูณค่าทวีคูณ
- =FLOOR( ตัวเลข , ค่าทวีคูณ)
- =FLOOR(1.23,.25) 1
- =FLOOR(1.23,.5) 1
- =FLOOR(1.23,1) 1
- =FLOOR(12.3,2) 12
- Int ปัดตัวเลขลง เป็นเลขจำนวนเต็มที่น้อยลง
- =INT( ตัวเลข)
- =INT(1.23) 1
- =INT(-1.23) -2
- Trunc ตัดตัวเลข ให้เหลือจำนวนหลักตัวเลขตามต้องการ
- = TRUNC( ตัวเลข , จำนวนหลัก)
- = TRUNC( 1.23) 1
- = TRUNC(- 1.23) -1
- = TRUNC( 1.23,1) 1.2
- = TRUNC( 12.3,0) 12
- = TRUNC( 12.3 ,- 1) 10
-
ข้อสังเกต สูตร Trunc จะตัดตัวเลขทิ้งเลย ส่วนสูตร Int จะตัดตัวเลขทิ้งให้เป็นค่าที่น้อยลง ทำให้ Int(-1.23) กลายเป็น - 2
สูตรปัดตัวเลข ขึ้นก็ได้ ลงก็ได้ ได้แก่
- Round ใช้เลข 5 เป็นเกณฑ์ ในการปัดตัวเลขขึ้นหรือลง
- =ROUND( ตัวเลข , จำนวนหลัก)
- =ROUND(1.23,1) 1.2
- =ROUND(1.25,1) 1.3
- =ROUND(14.2,-1) 10
- =ROUND(15.2,-1) 20
-
สูตร Round จะปัดลงเมื่อตัวเลขหลักถัดไปน้อยกว่า 5 และปัดขึ้นเมื่อตัวเลขหลักถัดไปมากกว่าหรือเท่ากับ 5
- Round พิเศษ ใช้ค่าทวีคูณเป็นเกณฑ์ ปัดตัวเลขใกล้เคียง เข้าสู่ค่าทวีคูณ
- =ROUND( ตัวเลข/ค่าทวีคูณ ,0)* ค่าทวีคูณ
- =ROUND(10.125/.05,0)*.05 10.15
- =ROUND(10.125/.10,0)*.10 10.10
- =ROUND(10.124/.25,0)*.25 10.00
- =ROUND(10.125/.25,0)*.25 10.25
- สูตร Round ดัดแปลงนี้มีประโยชน์มากจะปัดลง เมื่อตัวเลขมีค่า ไม่ถึงครึ่งของค่าทวีคูณ จะปัดขึ้น เมื่อตัวเลขมีค่า มากกว่าหรือเท่ากับครึ่งหนึ่งของค่าทวีคูณ
-
MRound ใช้ค่าทวีคูณเป็นเกณฑ์ ปัดตัวเลขใกล้เคียง เข้าสู่ค่าทวีคูณ
ตัวอย่างการคำนวณ
การคำนวณด้วยฟังก์ชัน
|
โปรแกรม Microsoft Excel มีความสามารถเด่นในด้านการคำนวณ ซึ่งมีลักษณะการคำนวณ 2 รูปแบบใหญ่ๆ ได้แก่
-
การคำนวณด้วยสูตร (Formula)
-
การคำนวณด้วยฟังก์ชันสำเร็จรูป (Function)
ชื่อฟังก์ชันจะเป็นคำเฉพาะที่ Microsoft Excel กำหนดไว้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ได้มากมาย เช่น
-
ฟังก์ชันคำนวณด้านการเงิน เช่น DDB( ) หาค่าเสื่อมราคาที่ระยะเวลาใด ๆ โดยวิธี Double - declining balance method
-
ฟังก์ชันคำนวณด้านวัน เวลา เช่น NOW( ) ฟังก์ชันให้ค่าวันเวลาปัจจุบัน
-
ฟังก์ชันคำนวณด้านคณิตศาสตร์ เช่น TAN( ) ฟังก์ชันหาค่า Tangent ของมุม
-
ฟังก์ชันคำนวณด้านสถิติ เช่น SUM( ) ฟังก์ชันหาผลรวมของชุดตัวเลข
-
ฟังก์ชันคำนวณด้านฐานข้อมูล เช่น DSUM( ) ฟังก์ชันหาผลรวมของข้อมูลตามเงื่อนไขที่ระบุ
-
ฟังก์ชันในการค้นหาข้อมูล เช่น HLOOPUP( ) ฟังก์ชันหาข้อมูลที่ตรงตามเงื่อนไข
-
ฟังก์ชันจัดการตัวอักษร เช่น CHAR( ) ให้ค่าตัวอักษรจากตาราง ASCII
-
ฟังก์ชันการคำนวณแบบตรรก เช่น AND( ) ให้ค่าทางตรรกะในกรณี AND
-
ฟังก์ชันด้านวิศวกรรม เช่น HEX2OCT( ) แปลงตัวเลขฐาน 16 เป็นตัวเลขฐาน 8
การใช้งาน
-
เลื่อน Cell Pointer ไปไว้ ณ เซลล์ล์ที่ต้องการวางผลลัพธ์
-
สร้างฟังก์ชันการคำนวณแล้วกดปุ่ม <Enter> โดยฟังก์ชันจะมีรูปแบบดังนี้
ค่าที่ใช้ในการคำนวณค่าที่นำมาใช้ในการคำนวณ อาจจะเป็นค่าคงที่ เช่น 500 หรืออาจจะเป็นตำแหน่งเซลล์ เช่น A5 จะหมายถึงนำค่าที่ถูกเก็บไว้ในเซลล์ล์ ณ ตำแหน่งแถวที่ 5 คอลัมน์ A มาคำนวณนอกจากนี้ บางฟังก์ชัน ก็ไม่จำเป็นต้องมีค่ากำกับ เช่นฟังก์ชันวันที่ปัจจุบัน ใช้เป็น =NOW() ได้เลย เป็นต้น
|
ฟังก์คำนวณค่ามาตรฐาน ฟังก์ชันการคำนวณค่ามาตรฐาน ที่ Excel เตรียมไว้ให้ใช้งาน ได้แก่
SUM(ค่าข้อมูล หรือช่วง) หาผลรวมของข้อมูล
MAX(ค่าข้อมูล หรือช่วง) หาค่าข้อมูลที่มีค่ามากที่สุด
MIN(ค่าข้อมูล หรือช่วง) หาค่าข้อมูลที่มีค่าน้อยที่สุด
AVERAGE(ค่าข้อมูล หรือช่วง) หาค่าเฉลี่ยของข้อมูล
ตัวอย่างการใช้งาน
SUM(85,25,65)
SUM(A1:A3)
MAX(85,25,65)
MAX(85,25,65)
MIN(85,25,65)
MIN(85,25,65)
AVERAGE(85,25,65)
AVERAGE(85,25,65)
คำนวณหาอายุ, อายุงาน (ปี)
จากตัวอย่าง สามารถใช้ฟังก์ชันของ Excel ช่วยคำนวณหาอายุงาน และอายุตัวได้ง่ายๆ ดังนี้
การคำนวณหาอายุงาน กระทำได้โดย
|